“ดีเฮ้าส์พัฒนา”เดินหน้าลุยธุรกิจปั๊มน้ำมันหนุนรายได้อสังหาฯโตตามเป้า

ดีเฮ้าส์พัฒนามุ่งเน้นรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสถานีบริการน้ำมัน-ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ในโครงการมิกซ์ยูส ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แจงผลประกอบการ9 เดือนแรก Turnaround พลิกทำกำไรสุทธิ 7.42 ล้านบาท พร้อมยอดขายรอโอนอสังหาริมทรัพย์ (Backlog) จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 25 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปี 2567 เป็นไปตามเป้าหมาย

นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 178.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 107.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65.53% โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน 71.41 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีบริการน้ำมันจำนวน 107 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรสุทธิที่ 7.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 149.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีเป้าหมายทั้งปี 2567 จะสามารถรักษาอัตราการทำกำไรไม่น้อยกว่าระดับ 8.50%

โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 58% และรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน 39% ล่าสุดบริษัทเดินหน้ารับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) โครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามจำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 25 ล้านบาท

โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567นี้ บริษัทมุ่งเน้นการรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากการให้บริการสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะมียอดใช้บริการมากขึ้นจากความต้องการเดินทางในช่วงเทศกาล

สำหรับสถานีบริการน้ำมัน “ปตท. ยูพาร์ค ขามเรียง” ดำเนินงานโดยบริษัท ดี เอนเนอร์จี แอนด์   รีเทล จำกัด ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประกอบด้วยการให้บริการ 2 ส่วน ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ “ปตท.” ในรูปแบบ DODO (Dealer Owned Dealer Operated) และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีบริการน้ำมัน ที่มีทั้ง รานค้าที่กลุ่มบริษัทลงทุนและบริหารจัดการเองจำนวน 2 ร้าน และให้เช่าพื้นที่ เก็บค่าบริหารจัดการพื้นที่

“บริษัทจะเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง ด้วยจุดแข็งการเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่ มีราคาเหมาะสม รวมทั้งให้ความสำคัญกับคุณภาพการก่อสร้าง บริการหลังการขาย อีกทั้งบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี จากการถือครองที่ดินที่พร้อมพัฒนาโครงการในอนาคต รวมทั้งการขยายตัวของธุรกิจพลังงานยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”

สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียงยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ และการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเพิ่มจำนวนประชากรในวัยทำงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท รวมถึงมาตรการภาครัฐในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยมีเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัท ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ในปีนี้ตามเป้าหมายที่วางไว้

โพสที่เกี่ยวข้อง