Cloud 11 เตรียมเปิด ‘Creator Village’ พื้นที่เกรด A+ สำหรับวงการครีเอทีฟชูสตูดิโอโปรดักชันแห่งอนาคต

โครงการคลาวด์ อีเลฟเว่น (Cloud 11)  โดย MQDC (บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาย่าน South Sukhumvit (สุขุมวิทใต้) ตลอดแนวถนนสุขุมวิทตั้งแต่อ่อนนุช – อุดมสุข – บางนา ให้เป็นฮับของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ตลอดจนยกระดับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยไปสู่ระดับแนวหน้าของโลกและส่งเสริมศักยภาพให้กับครีเอเตอร์ ซึ่งครอบคลุม 4 วงการหลัก ได้แก่ วงการเกม วงการเพลง วงการหนัง และวงการศิลปะ รวมถึงผู้ที่อยู่ในธุรกิจสร้างสรรค์ในทุกๆ ด้าน ผ่านโซน Academy ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมของสถาบันพัฒนานักสร้างสรรค์ที่จะมีจัดคลาสเสริมทักษะ กิจกรรมเวิร์คช็อป และหลักสูตรฝึกอบรมต่าง ๆ

นายองศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการ Cloud 11ปิดเผยว่า  ปัจจุบันโครงการ Cloud 11 ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 70% โดยบริษัทไทย-โอบายาชิ และจะพร้อมเปิดให้บริการครบทุกส่วนอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปี 2568 ทั้ง Creator Village พื้นที่ทำงานสร้างสรรค์ระดับ A+,โซนศูนย์การค้าคอนเซ็ปต์ใหม่,โรงแรม YOTEL (โยเทล),สมาร์ทโฮเทลชื่อดัง ,โซน Academy สถาบันการศึกษาด้านการสร้างสรรค์คอนเทนต์,โซน Cloud 11 Hall ฮอลล์จัดงานคอนเสิร์ตและอีสปอร์ต Cloud 11 Park และโรงแรม Sangsan Bangkok (สร้างสรรค์ แบงค็อก) ภายใต้ Tribute Portfolio เครือ Marriott International

โดยเฉพาะ Creator Village พื้นที่เกรด A+ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตของนักสร้างสรรค์ สามารถรองรับการสร้างระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง ประกอบด้วยพื้นที่โซนทาวเวอร์ 4 อาคาร พื้นที่รวมกว่า 65,000 ตารางเมตร โดยใช้แนวคิด 4E ในการออกแบบและสร้างสรรค์พื้นที่ ออกแบบให้ทุกชั้นมองเห็นวิวสวนลอยฟ้า และออกแบบอาคารในแนวราบ (Horizontal Campus) และมีพื้นที่ต่อชั้นขนาดใหญ่กว้างถึง 4,500 ตารางเมตร ทำให้แสงธรรมชาติเข้าถึงรอบด้าน เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน มีระบบแอร์ที่เปิดใช้งานได้ 24 ชั่วโมง ลิฟท์ส่วนตัวและทางเดินแยกสำหรับศิลปิน (Artist-Dedicated Circulation) รวมทั้งยังมีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น ระบบโครงข่ายอินเตอร์เน็ตสายใยแก้วนำแสงความเร็วสูงพิเศษ (Ultra-Speed Fiber Optic Internet) สำหรับการทำงานด้านคอนเทนต์ เพื่อรองรับเทคโนโลยีในอนาคต

อีกทั้งยังสนับสนุนการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และการต่อยอดทางธุรกิจของครีเอเตอร์ ด้วยพื้นที่ศูนย์การค้าคอนเซ็ปต์ใหม่กว่า 71,000 ตารางเมตร เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ที่อยากทำธุรกิจสามารถมีหน้าร้านในการขายสินค้าของตัวเอง และผสานเข้ากับการเกิดขึ้นของเทรนด์ Social Commerce นอกจากนี้ยังมีโซน Cloud 11 Hall ซึ่งเป็นฮอลล์ทันสมัยสำหรับการจัดงานคอนเสิร์ต การแข่งขันอีสปอร์ต และโรงละคร Blackbox Theatre เพื่อให้ครีเอเตอร์ได้จัดแสดงผลงาน รวมถึงค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ

ขณะเดียวกัน Creator Village ได้ตั้งเป้ามาตรฐานด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม LEED ระดับ Gold และด้านสุขภาวะและความเป็นอยู่ของผู้ใช้อาคาร WELL ระดับ Gold จากมาตรฐานการออกแบบเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งเรื่องอากาศ วัสดุ น้ำ การกำจัดขยะของเสีย และการใช้พลังงาน อาทิ แนวทางลดขยะให้เป็นศูนย์ ระบบบำบัดน้ำเสียคุณภาพสูงที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ 100% ระบบอาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง เครือข่ายน้ำเย็นที่จะช่วยกระจายความเย็นไปทั่วโครงการ ทำให้ประหยัดพลังงานลดการระบายความร้อน ให้พื้นที่ภายนอกและรอบอาคารไม่เกิดความร้อนสะสม ทั้งยังมีการใช้ระบบกรองอากาศด้วย Filter ชนิด Merv 14 ซึ่งได้มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล เป็นต้น

ภายในโครงการพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้กับธุรกิจในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และคอนเทนต์โดยเฉพาะ มีทั้งพื้นที่สตูดิโอ 2 รูปแบบ ได้แก่ โซนห้องสตูดิโอขนาดเล็ก (Creator Studio) พร้อมอุปกรณ์รองรับการถ่ายภาพวิดีโอ ไลฟ์สตรีมคุณภาพสูง ห้องอัดเสียง ทำพอดแคสต์ และโซนสตูดิโอถ่ายทำขั้นสูงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย (Advanced Production Studio) อาทิ ระบบชุดจับการเคลื่อนไหว (Motion Capture Studio) ระบบสแกน 3 มิติ (Volumetric Capture Studio) และระบบถ่ายทำแบบเสมือนจริง (Virtual Production Studio) เพื่อรองรับงานคอนเทนต์ในอนาคตที่จะมีความซับซ้อนมากขึ้น

โพสที่เกี่ยวข้อง