โปรสเปค แอพเพรซัลระบุแนวโน้มราคาที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี และภูเก็ต ในปี 2568 เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 5-10 % เมื่อเทียบกับปี 2567 ผลจากความต้องการที่ดินเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยทำเลเพลินจิต-ชิดลม ทำสถิติราคาเฉลี่ยปี 2567 สูงสุดอยู่ที่ 3,750,000 บาทต่อตารางวา

นายปริสุทธิ์ รอดจากภัย ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจวิจัย บริษัทโปรสเปค แอพเพรซัล จำกัด เปิดเผยข้อมูลการสำรวจ และแนวโน้มราคาที่ดินในปี 2568 ว่า ราคาที่ดินในปี 2568 มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2567 เนื่องจากการขยายตัวของเมือง ทำให้มีความต้องการที่ดินเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยคาดว่าราคาที่ดินทั่วประเทศจะปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 5-10% โดยขึ้นอยู่กับทำเล
สำหรับทำเลที่ดินที่ได้รับความสนใจและมีการปรับราคาสูงขึ้นจะอยู่ในทำเลที่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าทั้งสายใหม่และสายเก่า เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการที่อยู่อาศัยที่ ที่สามารถเดินทางไปทำงานได้อย่างสะดวก และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน และชุมชน อาทิ เขตทวีวัฒนา บางแค บางพลัด ธนบุรี ตลิ่งชัน ดอนเมือง บางนา วัฒนา สะพานสูง สายไหม มีนบุรี สวนหลวง และบริเวณพื้นที่ปริมณฑล เช่น อำเภอเมืองนนบุรี อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี และอำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ที่เป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมือง

“เพลินจิต-ชิดลม” ราคาที่ดินแพงสุด 3.75 ล้านบาทต่อตารางวา
จากผลการสำรวจของ “โปรสเปคฯ” พบว่า ในปี 2567 ทำเลที่มีราคาซื้อ-ขายสูงสุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล 10 อันดับแรกได้แก่ ถนนชิดลม-เพลินจิต 3,750,000 บาทต่อตารางวา,ถนนวิทยุ 3,100,000 บาทต่อตารางวา,ถนนสุขุมวิทตอนต้น 2,940,000 บาทต่อตารางวา,ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) 2,730,000 บาทต่อตารางวา,ถนนสีลม 2,700,000 บาทต่อตารางวา
ส่วนถนนสาทร ราคาซื้อ-ขายที่ดินอยู่ที่ 2,400,000 บาทต่อตารางวา,ถนนสุขุมวิท (ซอยเอกมัย) 1,950,000 บาทต่อตารางวา,ถนนเยาวราช 1,900,000 บาทต่อตารางวา,ถนนพญาไท 1,850,000 บาทต่อตารางวา และถนนพหลโยธินตอนต้นตารางวาละ 1,800,000 บาท

นอกจากพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว ในพื้นที่ต่างจังหวัดพบว่า จังหวัดสงขลา มีราคาซื้อ-ขายที่ดินในปี 2567 สูงสุด รองจากกรุงเทพฯ โดยมีราคาซื้อ-ขายเฉลี่ย 400,000 บาทต่อตารางวา ตามมาด้วยจังหวัดเชียงใหม่ มีราคาซื้อ-ขายสูงสุดเฉลี่ย 250,000 บาทต่อตารางวา
โดยพื้นที่ต่างจังหวัดที่ราคาที่ดินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจะอยู่ในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวเฉลี่ยประมาณ 5-10% อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ ราคาที่ดินจะปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 5-10 % เมื่อเทียบกับปี 2567 เนื่องจากเป็นจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวของเมืองสูงมาก โดยมีการขยายพื้นที่เมืองออกไปทางอำเภอสันทราย อำเภอสันกำแพง และอำเภอฝาง ส่งผลให้มีการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัย ชุมชนพักอาศัยและพาณิชยกรรมออกจากเมืองเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมีโครงการสนามบินนนานาชาติเชียงใหม่แห่งที่ 2 ในพื้นที่ ทำให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้น
จังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะอำเภอปากช่อง (เขาใหญ่) และจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัย ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นจำนวนมาก แนวโน้มราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 5-10 % ส่วนจังหวัดภูเก็ต ราคาที่ดินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 10-15% โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดหาดที่สามารถพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยได้
โดยปัจจัยที่มีผลต่อการปรับราคาที่ดินในแต่ละทำเล ประกอบด้วย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งถนน รถไฟฟ้า รวมไปถึงการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทำให้เกิดการขยายของเมือง การเดินทางที่สะดวกขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ ในขณะเดียวกันการขยายการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการที่ดินในแต่ละทำเล
เปิด 4 ทำเลเด่นรองรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยปี 2568
จากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นผนวกกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ “โปรสเปคฯ” ได้สำรวจทำเลที่น่าสนใจและเหมาะกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งอาคารชุดและบ้านพักอาศัย โดยคำนึงถึงสิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย ใน 4 ทำเลหลัก ทำเลถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ช่วงบริเวณถนนศรีนครินทร์ถึงถนนร่มเกล้า ในพื้นที่เขตสะพานสูง ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมืองที่จะขยายออกไปทางด้านฝั่งตะวันออก โดยถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เป็นถนนตัดใหม่มีขนาดใหญ่การเดินทางสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายอื่นๆได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนพระราม 9 ถนนศรีนครินทร์ ถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี ถนนรามคำแหง ถนนร่มเกล้า หรือถนนบางนา-ตราด ทำให้การเดินทางเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองได้สะดวก เป็นจุดเด่นที่ทางโครงการหลายโครงการนำมาใช้ในการทำการตลาด ส่งผลให้มีโครงการที่อยู่อาศัยขนาดกลางจนถึงโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นใหม่หลายโครงการ
ทำเลถนนพุทธมณฑลสาย 1-2 ในพื้นที่เขตตลิ่งชันและเขตทวีวัฒนา ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมืองด้านทิศตะวันตก เป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อถนนได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนบรมราชชนนี ถนนเพชรเกษม ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 และถนนกาญจนาภิเษก โดยได้รับปัจจัยบวกจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ทางด่วน และถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราช ทำให้มีโครงการบ้านจัดสรรในระดับราคาสูงเกิดขึ้นหลายโครงการ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นแพทย์หรือคุณหมอจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธนบุรี ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก
ส่วนอีก 2 ทำเลจะรองรับการอยู่อาศัยในรูปแบบอาคารสูง คือ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ในพื้นที่เขตบางกอกน้อย ช่วงสามแยกไฟฉาย พื้นที่บริเวณนี้ได้รับปัจจัยบวกจากโครงการรถไฟฟ้ายกระดับสายสีน้ำเงิน ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกมากขึ้น และอยู่ใกล้โรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลธนบุรี ทำให้เกิดโครงการอาคารชุดพักอาศัยขึ้นหลายโครงการ เพื่อรองรับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงกลุ่มข้าราชการที่ทำงานอยู่โซนกรุงเทพชั้นใน และถนนกรุงธนบุรี ช่วงบริเวณเขตเชื่อมต่อระหว่างเขตธนบุรี และเขตคลองสาน ถนนกรุงธนบุรี เป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนสาทรเหนือ ถนนรัชดาภิเษก ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนเจริญนคร พื้นที่บริเวณนี้ได้รับปัจจัยบวกจากโครงการรถไฟฟ้ายกระดับสายสีเขียวอ่อน ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับเขตสาทร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกมากขึ้น รองรับกับกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ทำงานในย่านธุรกิจ สาทร สีลม ที่มองหาที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่แพงมากนักและเดินทางไม่ไกลจากที่ทำงาน





