สมาร์ทคอนกรีตเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอิฐมวลเบารักษ์โลก ตอบโจทย์เทรนด์การก่อสร้างที่อยู่อาศัยยุคใหม่ ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขยายฐานลูกค้าด้วยกลยุทธ์ดิจิทัล มุ่งเน้นทำการตลาดออนไลน์ เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ดีลเลอร์ เพื่อขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศ รองรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ 600 ล้านบาท
รังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัทสมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีความผันผวน ส่งผลให้ตลาดวัสดุก่อสร้างและภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีความท้าทาย แต่ยังมีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้ สำหรับทิศทางการดำเนิงานปี 2568 บริษัทพร้อมเดินหน้าธุรกิจที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำตลาดวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยยังคงสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐอยู่ที่ 10 % และภาคเอกชน 90 % พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไว้ประมาณ 600 ล้านบาท
โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนองค์กรตามหลักการ ESG (Environmental, Social, Governance) และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจเรื่องพลังงานและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการตอบโจทย์เทรนด์การก่อสร้างที่อยู่อาศัยยุคใหม่

นอกจากนี้จะมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน อีกทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่อยู่อาศัยปัจจุบัน ซึ่งให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่สวยงาม ควบคู่กับการประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อสุขภาพ และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ โดยเตรียมออกผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบาตกแต่งให้มีความหลากหลาย ทั้งลายที่เรียบง่ายและทันสมัย ไปจนถึงลายที่ซับซ้อนและมีเอกลักษณ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆได้อย่างครอบคลุม
รวมทั้งยังเน้นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ในการโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ได้แก่ Facebook Instagram Line @ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเว็บไซต์ให้มีความทันสมัยและใช้งานง่าย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ส่วนช่องทางออฟไลน์ เน้นกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ได้แก่ ดีลเลอร์ ผู้รับเหมา เจ้าของบ้านและสถาปนิก ผ่านกิจกรรมสัมมนา การโปรโมทสินค้า และการร่วมงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในโกลบอลเฮ้าส์ 73 สาขา ดูโฮม 25 สาขา ร้านไทวัสดุที่ขยายสาขาแล้วมากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ และมีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ประมาณ 140 ราย





