ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดย MQDC ผู้พัฒนาหอฟอกอากาศระดับเมืองขนาดใหญ่ พัฒนาหอฟอกอากาศรุ่นใหม่ “ฟ้าใสมินิ” ขนาดเล็กลง ประสิทธิภาพในการดักกรองฝุ่นพิษสูง ลดฝุ่นได้สูงสุด 60%

รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ RISC กล่าวว่า จากสภาพปัญหามลพิษทางอากาศที่มีอยู่ต่อเนื่อง ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการวิจัยต่างๆ เพื่อให้ได้เทคโนโลยีฟอกอากาศที่สามารถแปลงฝุ่นพิษหรือ PM 2.5 ให้เป็นอากาศที่มีความปลอดภัยผ่านหอฟอกอากาศฟ้าใส ที่มีหลักการทำงานใช้ใบพัดความเร็วสูงดึงอากาศเข้าไปในระบบ ผ่านการแยกฝุ่นและละอองน้ำ ด้วยเทคโนโลยี Jet Venturi Scrubber สามารถลดฝุ่นละอองได้สูงสุด 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
โดยตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ฟ้าใสได้รับการติดตั้งในพื้นที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ อาคารทรูดิจิทัลพาร์ค ช่วยลดค่าฝุ่นได้สูงถึง 50% มหาวิทยาลัยพะเยา ลดได้ 40% ช่วยสร้างเซฟโซนที่มีสภาพอากาศที่ปลอดภัยภายนอกอาคารได้ พร้อมเดินหน้าพัฒนาเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ๆ จากรุ่นฟ้าใส 1, ฟ้าใส 2 และ Fresh One เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในเมืองอย่างยั่งยืน

ล่าสุดได้เปิดตัว “ฟ้าใส มินิ” ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดที่ RISC ทำการวิจัยในปัจจุบัน ติดตั้งที่ DTGO CampUs ถนนบางนา-ตราด กม. 7 เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท MQDC เป็นโมเดลที่มีขนาดเล็กลงช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดด้านการเข้าถึงและติดตั้งในพื้นที่ แต่คงประสิทธิภาพสูง โดยสามารถลดฝุ่นพิษลงได้ถึง 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่รัศมีรอบตัวหอฟอกอากาศประมาณ 20 – 50 เมตร ความสูงประมาณ 5 เมตร (พื้นที่ประมาณ 12,000 ตรม.) เทียบเท่าขนาดหนึ่งสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ และได้มีการวัดประสิทธิภาพการฟอกอากาศในเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่า ฟ้าใส มินิ สามารถลดค่าฝุ่นได้ถึง 60%
ปัจจุบันบริษัทดี ซูพรีม จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิบัตรฟ้าใสเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดสู่การใช้งานในเชิงพาณิชย์ เน้นการพัฒนาให้มีความพร้อมสำหรับการจำหน่าย และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจากศูนย์วิจัยฯ RISC ดังนั้นจึงเริ่มมีองค์กรต่างๆ ติดต่อเพื่อนำไปใช้งานโดยเฉพาะในช่วงเข้าสู่วิกฤติฝุ่นพิษ อาทิ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งช่าติ ได้สั่งซื้อ “ฟ้าใส มินิ” และเตรียมติดตั้งในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้





