ราคาที่อยู่อาศัยไตรมาส 4/67สูงต่อเนื่องรับปัจจัยต้นทุนราคาที่ดินค่าก่อสร้างพุ่งดันโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เพิ่ม

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานสถานการณ์ราคาที่อยู่อาศัย  ไตรมาส 4 ปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาบ้านจัดสรร และห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยราคาบ้านจัดสรรใหม่เพิ่มขึ้น 0.8%ติดต่อกัน 9 ไตรมาส ส่วนราคาห้องชุดใหม่ เพิ่มขึ้น 3.6% ต่อเนื่อง 8 ไตรมาส เป็นผลจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งราคาที่ดิน ราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าก่อสร้าง รวมถึงค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่มีราคาสูงขึ้น จากปัจจัยต่อไปนี้

 -ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ–ปริมณฑล ไตรมาสที่ 4 มีค่าดัชนี 131.4 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพื้นที่กรุงเทพฯมีค่าดัชนีเพิ่มขึ้น 2.3% ซึ่งสูงกว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) ที่มีค่าดัชนีลดลง -1.0% โดยการลดลงดังกล่าวเกิดจากการปรับราคาลดลงของดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ อย่างไรก็ตาม

โดยเมื่อแยกประเภทบ้านจัดสรร พบว่า ราคาบ้านเดี่ยวในไตรมาส 4 ปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.1 ขณะที่
ราคาทาวน์เฮ้าส์ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% นอกจากนี้ยังพบว่า มีการจัดรายการส่งเสริมการขาย โดยการให้ส่วนลดเงินสด
ในไตรมาสนี้สูงถึง 29.6% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งมีสัดส่วน 21%

ขณะที่บ้านเดี่ยวในกรุงเทพ ฯ ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดในไตรมาสนี้ ได้แก่ ย่านมีนบุรี–หนองจอก–ลาดกระบัง ในกลุ่มราคาเกิน 10 ล้านบาท ส่วนทำเลบ้านเดี่ยวใน 3 จังหวัดปริมณฑล ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ ย่านลำลูกกา
–คลองหลวง–ธัญบุรี ในกลุ่มราคา 7.51–10 ล้านบาท​ ส่วนทาวน์เฮ้าส์ในกรุงเทพฯ ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ ย่านพระโขนง บางนา สวนหลวง ประเวศ ในกลุ่มราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮ้าส์ใน 3 จังหวัดปริมณฑล ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ ย่านบางกรวย บางใหญ่ บางบัวทอง ไทรน้อย ในกลุ่มราคา 2.01 – 3 ล้านบาท

ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ไตรมาส 4 ปี 2567 ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 159.9 จุด เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การเพิ่มขึ้นดังกล่าวสะท้อนถึงต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าที่ดินในบริเวณตามแนวรถไฟฟ้าที่มีประชาชนใช้บริการ
เป็นจำนวนมาก อาทิ รถไฟฟ้า BTS สายสีลม และรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน เป็นต้น โดยราคาห้องชุดในพื้นที่
กรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้น 3.4% แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าราคาห้องชุดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและนนทบุรี ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนอาคารชุดในกรุงเทพฯ ที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดในไตรมาสนี้ ได้แก่ ย่านห้วยขวาง–จตุจักร–ดินแดง ในกลุ่มราคา 3.01–5 ล้านบาท -ขณะที่ทำเลพื้นที่ปริมณฑลในจังหวัดสมุทรปราการและนนทบุรี มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดในไตรมาสนี้ ได้แก่  ย่านสมุทรปราการ–พระประแดง–พระสมุทรเจดีย์ ในกลุ่มราคา 2.01–3 ล้านบาท​

ขณะที่ต้นทุนค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน (HCCI) ณ ไตรมาส 4 มีค่าดัชนีเท่ากับ 139.9 เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แสดงให้เห็นถึงต้นทุนค่าก่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่มีการปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงาน โดยสุขภัณฑ์ ราคาเพิ่มขึ้นถึง 12% กระเบื้องเพิ่มขึ้น 5.6%  อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ราคาเพิ่มขึ้น 3.7% ไม้และ
ผลิตภัณฑ์ไม้ ราคาเพิ่มขึ้น 2.2%​ และวัสดุอื่นๆ เพิ่มขึ้น 5.7% เป็นผลมาจากราคาน้ำมันและราคาพลังงานที่สูงขึ้นในตลาดโลก ส่วนค่าแรงงานเพิ่มขึ้น 4%

ทั้งนี้ภาวะที่ต้นทุนค่าก่อสร้างปรับราคาเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ราคาขายที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อของประชาชนลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราที่ต่ำ ดังนั้น สถาบันการเงินของรัฐ โดยเฉพาะธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้จัดทำโครงการสินเชื่อ
อัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงานและยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยคาดว่าโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจในการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงต้นปี 2568 ได้เป็นอย่างดี

โพสที่เกี่ยวข้อง