เสนาดีเวลลอปเม้นท์เปิดแผนธุรกิจปี 2568 ลุยนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย นวัตกรรมทางการเงิน และผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ภายใต้กลยุทธ์ “Refined Focus” พร้อมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบรวม 12 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 15,500 ล้านบาท และยอดโอนกรรมสิทธิ์ 10,000 ล้านบาท
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทาย ทั้งปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ความเข้มวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และโครงสร้างเศรษฐกิจที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ทำให้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมียอดขายสูงถึง 12,500 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากอาคารสูง 82%และบ้านแนวราบ18% โดยเฉพาะโครงการ LivNex เช่าออมบ้าน ที่มียอดขาย 1,900 ล้านบาทจากจำนวนลูกค้าที่เข้าวร่วมโรงการ 976 ยูนิต และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 6,515 ล้านบาท สะท้อนความสามารถและศักยภาพของบริษัทในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2568 บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 11 โครงการมูลค่า 10,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 1 โครงการมูลค่า 3,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นโครงการที่เลื่อนตัมาจากปี 2567 ประมาณ 3โครงการ ส่วนใหญ่จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 และ3 และยังคงเน้นตลาด Affordable Segment ระดับราคา 1-3 ล้านบาทเป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่กลุ่มเสนาฯครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 20% หรือมากกว่า 20,000 ยูนิต โดยเฉพาะแบรนด์คอนโดฯ Cozi ระดับราคา 1.5-2.5 ล้านบาท ที่จะเปิดตัวในปีนี้มากถึ 6โครงการ โดยตั้งเป้ายอดขาย ไว้ที่15,500 ล้านบาท และยอดโอน 10,000 ล้านบาท ซึ่งได้รวมสัดส่วนรายได้จากโครงการ LivNex เช่าออมบ้านไว้ด้วย
โดยกลุ่มเสนาฯเป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกในไทยที่ได้ปลดล็อกโอกาสการเข้าถึงที่อยู่อาศัยผ่านการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และ Generation Rent ที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นทางการเงิน ด้วยการเปิดตัว “LivNex” นวัตกรรมเช่าออมบ้าน เมื่อปีที่ผ่านมา และปีนี้จะเปิดตัว “RentNex” Subscription คอนโดฯ โมเดล ซึ่งได้รับความสนใจและผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการ LivNex แล้วกว่า 976 ยูนิต มูลค่า 1,900 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวบ้านแนวคิดใหม่ในรูปแบบทาวน์โฮมและบ้านแฝด ภายใต้ชื่อ “บ้านทัน” เป็นบ้านแฝดพื้นที่ใช้สอย 180 ตารางเมตร ระดับราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้อการบ้านเดี่ยวแต่มีงบประมาณจำกัด และ “บ้านที” เป็นทาวน์โฮม พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นเกือบ 3 ล้านบาท โดยจะอยู่ในโครงการเสนา วิลเลจ และเสนา วีว่า ซึ่งในปีนี้จะเปิดตัวบ้านทัน และบ้านทีประมาณ 2,800 ยูนิต
ขณะเดียวกันบริษัททจะขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2568ผ่านกลยุทธ์ “Refined Focus” โดยแบ่งออกเป็น 4 แกนหลัก ประกอบด้วย
-No.1 in Affordable Market: ผู้นำตลาด Affordable โดยปัจจุบันมีบ้านและคอนโดฯพร้อมขายรวม 12,600 ยูนิต มูลค่ารวม 30,600 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มเรียลดีมานด์ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งคิดเป็น 54% ของครัวเรือนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
–Strong Partnership: ร่วมมือกับฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป พันธมิตรทางธุรกิจที่ได้ร่วมทุนกันมากว่า 9 ปีแล้ว และได้พัฒนาโครงการรวม 66 โครงการ มูลค่ากว่า 83,000 ล้านบาท รวมทั้งยังคงเดินหน้าจับมือร่วมทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยและพัฒนาโครงการคุณภาพร่วมกัน
-SENA Eco System to Make Us Stronger: การขับเคลื่อนธุรกิจที่เสริมสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจหลัก คือ SenX (เซ็นเอกซ์) ยกระดับบริการอสังหาริมทรัพย์ด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี ที่มีทั้งศูนย์ข้อมูลที่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการกับเสนา การให้บริการ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 16 ปี และการใช้ Smart Tech บริหารจัดการที่อยู่อาศัยในโครงการ เช่น ระบบ BMS, Carbon Monitoring, และ Waste Management ผ่านความร่วมมือกับ Recycle Day
–SENA Green Energy ธุรกิจพลังงานสะอาด The New S-Curve ด้วยการขยาย SENA Green Automotive สู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 3 แบรนด์ NETA, LEAP และ DEEPAL รองรับเทรนด์พลังงานสะอาด SENA Solar Energy ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร SENA Reforestation ตั้งเป้าปลูกป่า 2,000 ไร่ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ประมาณ 11,334 ตันต่อปี และ SENA Eco System การสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง
รวมทั้งยังเดินหน้าพัฒนาแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy House concept) ในการพัฒนา 42 โครงการ รวมจำนวน 4,290 ยูนิตเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนได้ไม่ต่ำกว่า 6,993 ตันคาร์บอนต่อปี ล่าสุดได้พัฒนาที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต บ้าน ZEH (Zero Energy House ) New Model บ้านเดี่ยวติดโซลาร์รูฟพร้อมแบตเตอรี่ กับ Segment High Class “Grand Serie” โดยเตรียมเปิดตัวครั้งแรกที่โครงการ เสนา พาร์ค แกรนด์ กม. 9 มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวบริการ V-Move, Smart Mobility concept นวัตกรรมที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้าเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ โดยตั้งเป้าจะนำไปใช้ใน 24 โครงการ แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 20 โครงการ และบ้าน 4 โครงการ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนได้ไม่ต่ำกว่า 11,720 ตันคาร์บอนต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 1,172,006 ต้น
