IMPACT ทุ่ม 5,000 ล้าน ลุยพัฒนาโรงแรมใหม่ ปั้นเมืองทองสู่ Tourism Destination

IMPACT ลุยสร้างโรงแรมใหม่เสริมเมืองทองธานี สู่ Tourism Destination ตั้งเป้าเปิด 3,000 ห้องภายในปี 2030 เสริมจุดเด่นรองรับอุตสาหกรรม MICE และท่องเที่ยวครบวงจร เผยรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี เป็นปัจจัยหนุนดึงคนเข้างาน ขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม

 อุตสาหกรรมไมซ์ (อุตสาหกรรมสร้างสรรค์งานอีเวนท์) เป็นหนึ่งในเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยปี 2568 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ (TCEB) ตั้งเป้าจำนวนนักเดินทางไมซ์ที่ 34 ล้านคน คาดว่าจะสร้างรายได้ 2 แสนล้านบาท สอดรับกับแผนการดำเนินงานของ IMPACT ที่จะเสริมทัพธุรกิจเพิ่มจุดแข็งรอบด้าน ความพร้อมในการรองรับการจัดงานนิทรรศการ คอนเสิร์ต ด้วยการลงทุนสร้างโรงแรมเพิ่มหนุนการเติบโตของธุรกิจทั้งปัจจุบันและอนาคต

พอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ IMPACT เปิดเผยว่า การปั้นเมืองทองธานีให้เป็น Tourism Destination คือแผนสำคัญสำหรับปี 2568 และเป้าหมายสำคัญคือการสร้าง Smart City ที่มีความพร้อมในหลายด้าน ระบบขนส่งสาธารณะจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยดึงดูด และทำให้คนตัดสินใจเดินทางมายังเมืองทองธานีง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบ CCTV ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่รวมถึงเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย และการลงทุนหลักนอกจากร่วมลงทุนในรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย 2 สถานีมายังเมืองทองธานีแล้ว ยังวางแผนลงทุน พัฒนาโรงแรมแห่งใหม่ระดับ 4-5 ดาว ขนาด 1,000 ห้อง ประเมินใช้เงินลงทุนประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จในปี 2571  นอกจากนี้ IMPACT ยังวางเป้าหมายขยายการลงทุนสร้างโรงแรมเพิ่มเติมเป็น 3,000 ห้อง ภายในปี 2573 และ 5,000 ห้องภายในปี 2578

การลงทุนด้านโรงแรมจะเพิ่มศักยภาพในการเป็นพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ ทั้งจากลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ นี่คือโอกาสด้านรายได้สำคัญ ทำให้ IMPACT ก้าวสู่สเต็ปของการเป็น Destination Tourism

สำหรับโครงการ Sky Entrance เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย จำนวน 2 สถานี คือ สถานี อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสถานีทะเลสาปเมืองทอง เชื่อมการเดินทางให้เข้าสู่งานประชุม งานแสดงสินค้าได้สะดวกขึ้น โดยกำหนดการสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย คาดจะเปิดให้บริการภายในช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ ในปีที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งปีที่อุตสาหกรรม MICE ในไทยประสบความสำเร็จอย่างมาก ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ IMPACT เกือบ 10 ล้านคน หลังการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายคาดว่าจะเพิ่มจำนวนผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้น

ภาพรวมของอุตสาหกรรมไมซ์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการสนับสนุนของภาครัฐ และแผนธุรกิจของ IMPACT ที่จะดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาจัดงานแสดงสินค้า การประชุมในไทยเพิ่มขึ้น สถานการณ์เศรษฐกิจทั้งไทยและโลก อาจมีผลกระทบต่อการจัดงาน ดังนั้น กลุ่มที่น่าจะมีโอกาส นั่นคือ จีน อินเดีย 2 ประเทศนี้มีปัจจัยหลายด้านที่ต้องโฟกัส ทั้งการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี โดยเฉพาะจีนที่ต้องสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ไม่ใช่การพูดคุยแค่กลุ่ม Exhibitor เท่านั้น แต่ต้องเชื่อมสัมพันธ์ไปถึง Exhibition Hall ให้เกิดความสัมพันธ์แบบไปกลับ หรือการหา Exhibitor ให้กันและกัน จีนเป็นประเทศใหญ่ เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดงานเมืองเดียวแล้วสามารถดึงดูดคนให้มารวมกันที่เดียวกัน ต้องขยายโอกาสออกไปยังเมืองต่างๆ ด้วย และอาจมีแผนที่จะตั้งศูนย์ธุรกิจที่จีนในอนาคต

เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ โครงการมูลค่าแสนล้านบาทของรัฐบาล นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กล่าวว่า “อิมแพ็คให้ความสนใจเช่นกัน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล ซึ่งเราเองมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน แต่คงไม่ใช่เรื่องที่จะโฟกัสเป็นอันดับแรก ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจ ที่มีการพัฒนาในทุกด้านเพื่อรองรับธุรกิจหลัก นั่นคือ ศูนย์การประชุมแสดงสินค้า นิทรรศการ และคอนเสิร์ต”

โพสที่เกี่ยวข้อง