ส่อง 5 เทรนด์นวัตกรรมก่อสร้างผ่านงาน The NOVA Expo 2025สู่ทางออก Carbon Net Zero

EEC Academy เผย 5 เทรนด์นวัตกรรมก่อสร้างยุคใหม่ผ่านงาน The Nova Expo 2025 ผนึกองค์กรชั้นนำภาครัฐ เอกชน และ Thai ESCO สมาคมบริษัทจัดการพลังงานไทย ผลักดันอสังหาฯ ไทยคาร์บอนเป็นศูนย์ ภายใต้รูปแบบ “Climate Finance and Investment” พร้อมจัดงานใหญ่แห่งปี The Nova Expo 2025 “นวัตกรรมสีเขียวเปลี่ยนโลก” ระหว่าง 12 – 14 มีนาคม 2568 นี้ที่ BITEC บางนา

ดร.เกชา ธีระโกเมน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด หรือ EEC Academy เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศคิดเป็น  7 – 8% ของ GDP  และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมการก่อสร้างอยู่ที่ 1.5 – 2 ล้านล้านบาทต่อปี ส่งผลให้เกิดการจ้างงานตั้งแต่การค้าไปจนถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ขณะเดียวกันยังเป็นอุตสาหกรรมปลดปล่อยคาร์บอนมากกว่า 40% ของการปลดปล่อยคาร์บอนทั้งหมดของโลก

ดังนั้นเพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ ยกระดับสังคม ชุมชน สู่ความยั่งยืนแห่งอนาคต ซึ่งประชาคมโลกต่างให้ความสำคัญกับแนวทางการลดการปล่อยคาร์บอน เช่นเดียวกับผู้ผลิตและผู้พัฒนาโครงการต่างๆ ในวงการก่อสร้างทั้งในไทยและทั่วโลก ต่างหันมาให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสีเขียว เพื่อสร้างประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และมุ่งเป็นส่วนหนึ่งไปสู่การสร้าง Carbon Net Zero เพื่อส่งเสริมสุขภาวะและสุขภาพที่ดี บริษัท อีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด (EEC Academy) ในฐานะผู้นำด้านการออกแบบทางวิศวกรรมงานระบบที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ จึงได้ตอบรับเทรนด์โลกสีเขียวผ่านการจัดงาน “The NOVA Expo 2025” งานแห่งปีของวงการอสังหาฯ-ก่อสร้างซึ่งจัดต่อเนื่องมาหลายปี ที่รวบรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างสมัยใหม่

ทั้งนี้สาเหตุสำคัญของการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างว่า เกิดจากปัจจัยหลักๆ ที่ประกอบด้วย

-วัสดุก่อสร้างที่มาจากกระบวนการผลิต ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 8%

-การใช้พลังงาน โดยเฉพาะประเทศเขตร้อนอย่างเมืองไทย ที่มีการใช้พลังงานจากอุปกรณ์ทำความเย็นให้กับ อาคารสูงถึง 60-70% ของการใช้พลังงานทั้งหมด

-ขาดกระบวนการคัดแยกและกำจัดขยะอย่างมีประสิทธิภาพ

-การขนส่ง ด้วยระยะทางการขนส่งและรถขนส่ง ยังใช้พลังงานเชื้อเพลิง

ดังนั้นการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ควรต้องมีมาตรการที่ชัดเจน ได้แก่ การออกแบบอาคารที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานและการออกแบบอาคารใช้พลังงานต่ำหรือ Passive Design, การเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน, ภาครัฐควรมีมาตรฐานสนับสนุนการรับรองตามมาตรฐานอาคารเขียว และที่สำคัญที่สุดการใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาด เพื่อลดการพึ่งพาพลังงานจากกริดไฟฟ้า และสนับสนุนการใช้วัสดุรีไซเคิล ลดการเกิดขยะ และสามารถนำไปใช้ใหม่ได้ เพื่อให้เกิด Circular Economy Model

ขณะที่เทรนด์นวัตกรรมการก่อสร้างที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวและถูกนำมาใช้ในการยกระดับการก่อสร้าง โดยหลักๆ จะมีอยู่ 5 เทรนด์สำคัญ ได้แก่

1.การออกแบบและวางผังเพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (Green Design and Planning for Carbon Reduction) อาทิ การสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ การวางทิศทางอาคารเพื่อป้องกันความร้อน การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด คำนึงตั้งแต่ก่อนสร้างไปถึงการใช้งานอาคารไปอีก 30 ปี โดยมีเครื่องมือสำคัญ อาทิ เครื่องคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นต์ (Carbon Footprint Calculator) การประเมินวงจรชีวิตอาคาร (Lifecycle Assessment) และระบบรับรองอาคารยั่งยืน

2.การก่อสร้างแบบสำเร็จรูปและโมดูลาร์ (Green Modular and Materials Construction) เทคนิคการก่อสร้างที่ประกอบบางส่วนจากโรงงาน มาช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ลดการเกิดเศษวัสดุ โดยมีเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D และหุ่นยนต์ก่อสร้าง (Construction Robotics) เข้ามามีบทบาทสำคัญ

3.เทคโนโลยีสีเขียวและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Green Innovative Tech) ด้วยการใช้ระบบ IoT, AI และระบบอัจฉริยะ (Smart Systems) เข้ามามีส่วนในการออกแบบ ก่อสร้าง ควบคุมงานก่อสร้าง และบริหารงานอาคาร การนำ AI เข้ามาทำนายรูปแบบการใช้พลังงานและปรับระบบเรียลไทม์ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และยืดอายุการใช้งานของอาคาร โดยมีนวัตกรรมที่น่าสนใจ อาทิ Digital Twins (แบบจำลองเสมือนของอาคาร) ระบบทำความเย็นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์สมัยใหม่, สารทำความเย็นจากธรรมชาติ,เครื่องปรับอากาศแบบไร้ท่อ, การทำความเย็นด้วยพลังงานความร้อนใต้พิภพ, การทำความเย็นโดยอิสระ DOAS (Dedicated Outdoor Air System ระบบอากาศแยกส่วน)

4.เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ (Green Operation Quality) อาทิ การให้บริการพลังงานความเย็น ไม่ว่าจะเป็น Cooling as a Service (CaaS), Performance Guarantee รวมถึงการให้บริการบริหารระบบบำบัดน้ำเสีย (Smart Waste Water Management) ที่จะมาช่วยดูแลและบริหารจัดการระบบอาคารที่มีความซับซ้อน

5.เทคโนโลยีพลังงานสีเขียวที่เกิดขึ้นมากมาย (Green Innovation Energy) เช่น RE100 หรือการใช้พลังงานสะอาด 100%, พลังงานไฮโดรเจน, ระบบกักเก็บพลังงาน, ESCO หรือ Energy Service Company, ระบบทำความเย็นจากศูนย์กลางหรือ District Cooling System ซึ่งควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน การให้ความรู้ความเข้าใจถึงผลดีด้านสิ่งแวดล้อมและประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยีเหล่านี้

สำหรับงาน The Nova Expo 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2568 ที่ BITEC บางนา โดยภายในงาน The Nova Expo 2025 ยังได้ร่วมกับ Thai ESCO สมาคมบริษัทจัดการพลังงานไทย รวมกันผลักดันอสังหาฯ ไทยให้คาร์บอนเป็นศูนย์ ผ่านรูปแบบ “Climate Finance and Investment” พร้อมนำเสนอเทรนด์ธุรกิจ Energy Service Company ที่มีแนวโน้มเติบโตในไทยและต่างชาติ ทั้งรูปแบบการปรับปรุงการใช้พลังงาน และธุรกิจพลังงานรูปแบบใหม่ “พลังงานความเย็น” จากการสนับสนุนจากนโยบายโลก กองทุนนานาชาติ นโยบายรัฐไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารชั้นนำของไทย

สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/The-Nova-Expo-2025  หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/thenovaexpo

โพสที่เกี่ยวข้อง