แอล.พี.เอ็น.วางกลยุทธ์ปี2568แนวคิด “Healthy Resilience” ภายใต้แกนหลัก “5P” วางแผนเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ปรับพอร์ตลงทุนซื้อที่ดินสำหรับการพัฒนาคอนโดฯมากขึ้นเปิด 2 โครงการใหม่ย่านรามอินทราและอ่อนนุช ตั้งเป้ายอดขาย 8,500 ล้านบาท และรายได้รวม 8,300 ล้านบาท พร้อมนำ LPN กลับสู่ TOP10 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯภายใน 5 ปี
ดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2568 ว่า จากสถานการณ์ของเศรษฐกิจปัจจุบัน ถือว่าเป็นปีที่ท้าทายการทำงานของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากกำลังซื้อที่อยู่อาศัยภายในประเทศชะลอตัว จากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงเกิน 90% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Products : GDP) และสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากความสามารถในการชำระคืนหนี้ของผู้ซื้อลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่พฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป จากผลการสำรวจของหลายสำนักวิจัยพบว่า คนรุ่นใหม่เน้นการเช่ามากกว่าการซื้อเนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอต่อการซื้อที่อยู่อาศัย โดยได้รับผลกระทบมาจากราคาที่ดินและราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอสังหารฯต้องปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ
โดยปีนี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจสู่แนวคิด “Healthy Resilience” ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่ต้องมีความยืดหยุ่นขึ้น เพื่อนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย ประกอบด้วยแกนหลัก “5P” ได้แก่ Products การปรับตัวในด้านของผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อในปัจจุบันมากขึ้น โดยปี 2568 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการในย่านถนนรามอินทราและอ่อนนุช มูลค่ารวม 3,350 ล้านบาท โครงการบ้านพักอาศัยระดับพรีเมี่ยมจำนวน 2 โครงการ บนทำเลถนนพระราม 5 และพุทธมณฑลสาย 4 มูลค่ารวม 2,650 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของคนทุกวัยอย่างมีสุขภาวะที่ดี ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งในรูปแบบของครอบครัวและการใช้ชีวิตแบบคนโสด ทำให้ปี 2568 นี้บริษัทมีแผนปรับพอร์ตการลงทุนซื้อที่ดินสำหรับการพัฒนาคอนโดฯมากขึ้น ซี่งเป็นจุดแข็งของ LPN ที่ลูกค้าให้การยอมรับและเชื่อมั่นมานาน อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ซื้อในปัจจุบันที่เน้นการเช่ามากกว่าการซื้อ ทำให้คอนโดฯยังเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้ซื้อเพื่อการลงทุน โดยสัดส่วนการเปิดคอนโดฯจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในปี 2569 เป็นต้นไป
ส่วนงานด้าน Process เน้นการปรับกระบวนการทำงานให้มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการใช้นวัตกรรม ข้อมูล และเทคโนโลยีให้มากขึ้น ตั้งแต่การจัดซื้อที่ดิน งานออกแบบ การก่อสร้าง การส่งมอบ และการบริหารจัดการโครงการหลังการส่งมอบ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและการก่อสร้างไปสู่การเป็น Net Zero Waste Developer ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2566
ส่วนงานด้าน People มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพการทำงานของทีมงานภายใต้แนวคิด “Work Smart with Commitment” ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการทำงาน การอบรมในทุกๆ ด้าน การใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยี ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ Partnership and Stakeholders: บริษัทพร้อมเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อต่อยอดในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ จนสามารถสร้างรายได้และยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ด้าน Performance ในปี 2568 นี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 8,500 ล้านบาท และรายได้รวม 8,300 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2567 ที่มียอดขาย 8,450 ล้านบาท และรายได้รวม 8,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายในการนำ LPN กลับไปสู่ TOP10 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯให้ได้ภายใน 5 ปี และตั้งป้าเติบโตอย่างมั่นคงในอัตรา 5 – 10% ต่อปี
โดยปัจจุบันบริษัทมีสินค้าคงเหลือพร้อมขายมูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) ในปี 2568 อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนปล่อยแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อทั้งลูกค้าที่ซื้ออยู่เอง และกลุ่มนักลงทุน