“แสนสิริ”เปิดกลยุทธ์ LIFE-LONG PROMISE ปฏิวัติบริการหลังการขาย ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่

แสนสิริ ประกาศความสำเร็จผู้นำด้านบริการหลังการขายผ่านกลยุทธ์ “LIFE-LONG PROMISE” ครองใจลูกค้าทุกระดับเซ็กเมนท์มากกว่า 130,000 ครอบครัวทั่วประเทศ เดินหน้ายกระดับบริการ Set Standard อสังหาฯ ผ่าน 4 จุด “Quality-Security-Caring-Community” พร้อมการดูแลตรวจบ้านแบบ Proactive ทั้งแนวราบ-แนวสูง ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินในระยะยาว

จากการสำรวจของ Terra Media and Consulting ในปี 2567 พบว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในปี 2568 คือ การบริการหลังการขาย ระบบรักษาความปลอดภัย คุณภาพบ้าน และการดูแลจากทีมงานมืออาชีพ ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าเครดิตของแบรนด์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ความเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงเทรนด์สำคัญในวงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก ที่ผู้บริโภคมองการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นการลงทุนระยะยาว โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน (Total Cost of Ownership) มากกว่าแค่ราคาซื้อขายเริ่มต้น นอกจากนี้เทคโนโลยีและความปลอดภัยกลายเป็นปัจจัยสำคัญหลักในยุคที่การทำงานจากที่บ้านกลายเป็นความปกติใหม่

ทั้งนี้ในสภาวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันสูง การสร้างความแตกต่างด้วยบริการหลังการขายจึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ผู้พัฒนาโครงการสามารถรักษาฐานลูกค้าระยะยาวและสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง กลุ่มแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 130,000 ครอบครัวทั่วประเทศ จึงมองการลงทุนในบริการหลังการขายไม่ใช่เพียงต้นทุนแต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินของลูกค้าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

โดยในปี 2568 นี้ได้เดินหน้ายกระดับมาตรฐานบริการด้วย 4 จุดแกร่งหลักภายใต้กลยุทธ์ LIFE-LONG PROMISE ประกอบด้วย LIFE-LONG QUALITY ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าระยะยาว ด้วยคุณภาพการก่อสร้างและการรับประกัน ประกอบด้วย Quality Control ตรวจสอบมากกว่า 320+ รายการ ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงส่งมอบ, Warranty รับประกันโครงสร้างสูงสุด 5 ปี พร้อม Home Check-Up เชิงรุกสูงสุด 2 ครั้ง, Quality Passed Check 100% ตรวจเช็กด้วย 13 เครื่องมือทันสมัยก่อนส่งมอบ สอดคล้องกับเทรนด์ Global Housing Quality Index ทีระบุว่าคุณภาพที่อยู่อาศัยส่งผลต่อสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยโดยตรง ทำให้ผู้บริโภคยินดีจ่ายเพิ่มสำหรับบ้านที่มีคุณภาพสูงและการรับประกันระยะยาว

LIFE-LONG SECURITY การรับมือกับความกังวลด้านความปลอดภัยในยุคดิจิทัล ผ่านระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทำงาน 24 ชั่วโมง ประกอบด้วย AI CCTV Analytic ระบบ Motion Sensor วิเคราะห์ความผิดปกติด้วย AI แบบ Real-time, IoT Monitoring Management  ระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะ, Access Control ระบบควบคุมการเข้าออกด้วย Face Scan และ License Plate Reader และ Command Centre ห้องควบคุมที่ผนึกระบบ AI ป้องกันเหตุร้ายแรงได้ 100%

LIFE-LONG CARING การตอบสนองเทรนด์ลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวระดับพรีเมียม ด้วยการดูแลจากนิติบุคคลมืออาชีพจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ และ Fitwel ที่มีบริการครอบคลุม Living Management ดูแลพื้นที่ส่วนกลางด้วยมาตรฐานระดับสากล, Customized Service  บริการพิเศษด้วย Butler และ Concierge Service และ Asset Management คำแนะนำด้านอสังหาฯ ครบวงจร โดยข้อมูลจาก Luxury Institute ระบุว่า 78% ของลูกค้ากลุ่ม High-Net-Worth ให้ความสำคัญกับบริการ Concierge และพร้อมจ่ายเพิ่มสำหรับบริการที่เป็นส่วนตัวและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะบุคคล

 LIFE-LONG COMMUNITY รองรับการใช้ชีวิตแบบ Work-Life Integration ของผู้ลริโภคด้วยการสร้างคอมมูนิตี้ที่มี Facility ตอบโจทย์การใช้ชีวิตครอบคลุมทุกเจนเนอเรชันและสัตว์เลี้ยง เช่น Sansiri Backyard, Co-Kitchen และ Co-Working Space พร้อมกิจกรรมและสิทธิพิเศษสำหรับ Sansiri Family รองรับเทรนด์ “Third Place” หรือพื้นที่ที่สามนอกเหนือจากบ้านและที่ทำงาน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยการวิจัยจาก CBRE พบว่า 65% ของผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมต้องการพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบให้ทำงานและพักผ่อนได้ในพื้นที่เดียวกัน

โพสที่เกี่ยวข้อง