แอสเซทไวส์ เปิดพรีเซลตึกใหม่ “KAVALON” ทุกชั้นราคาเดียว เริ่ม 1.69 ล้านบาท ชู 5 ไฮไลท์ยกระดับชีวิตคนรุ่นใหม่ ทำเลชิดรั้ว ม.กรุงเทพ รังสิต เพียง 100 ม. ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง เชื่อมั่นศักยภาพย่านรังสิต นักศึกษา-คนทำงานเยอะ คาดปล่อยเช่า Yield สูงเฉลี่ย 8% ต่อปี มาพร้อมห้อง Fully Furnished ติดตั้งเครื่องกรองน้ำทุกยูนิต เสริมฟังก์ชันใหม่แห่งเดียวในย่านกับ Walk-in Closet และยูนิตพิเศษ Duplex Access Pool เชื่อมสระว่ายน้ำ ส่วนกลางสุดล้ำ 5 โซน รองรับทุกไลฟ์สไตล์กว่า 60 รายการ สะดวกอีกขั้นกับ Smart Technology ดูแลความปลอดภัยทั่วโครงการ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมใช้ IoT จัดการพลังงานในอาคาร ติดตั้ง EV Charger ทุกตึก ลุ้นรางวัลใหญ่รถ EV มูลค่า 1 ล้านบาท เฉพาะวันที่ 29 มี.ค. 68 เท่านั้น
พชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดพรีเซลตึกใหม่โครงการ “เควาลอน” คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ที่มีส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 5 โซน รองรับทุกไลฟ์สไตล์ มูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดพรีเซลตึกใหม่ เริ่มต้น 1.69 ล้านบาท* พร้อมลุ้นรับรถยนต์ไฟฟ้า มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท สำหรับผู้ที่จองและทำสัญญาในวันที่ 29 มี.ค. 2568 เท่านั้น
“เรานำประสบการณ์และ Insight ที่ได้จากการพัฒนาโครงการในโซน Kave Town ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพทั้ง 5 โครงการ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักศึกษา ผู้ปกครอง และนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน Sold out แล้วทุกโครงการ มาต่อยอดเป็น KAVALON โครงการแคมปัสคอนโดมิเนียมที่ยิ่งใหญ่และครบครันกว่าเดิม ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ The Journey is Yours อาณาจักรใหม่ที่ทุกจินตนาการ มีได้ไม่รู้จบ ด้วยฟังก์ชันภายในห้องพักที่โดดเด่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พื้นที่ส่วนกลางสุดล้ำขนาดใหญ่รองรับทุกกิจกรรม และทำเลที่ใกล้ยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น”
โครงการ KAVALON เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 9 อาคาร จำนวนห้องชุดรวม 2,192 ยูนิต ร้านค้าอีก 3 ยูนิต และแยกอาคารจอดรถอีก 1 อาคาร บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตในที่เดียวด้วยฟังก์ชันและดีไซน์ที่เหนือกว่าทั้ง 5 ด้าน ได้แก่
1.ทำเลชิดรั้วมหาวิทยาลัย ปากซอยโครงการใกล้กับประตูทางเข้าของ ม.กรุงเทพ รังสิต เพียง 100 ม. และอยู่ติดถนนพหลโยธิน-รังสิต ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยาและดอนเมืองโทลเวย์ สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่าย ทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีรังสิต และรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น Mingle Mall, Future Park, เซียร์ รังสิต, ตลาดสี่มุมเมือง
2.ห้องฟังก์ชั่นใหม่แห่งเดียวในย่าน นอกจากห้องพักแบบ Fully Furnished หลากหลายรูปแบบ ขนาดตั้งแต่ 22.20-53.40 ตร.ม. แล้ว ยังมียูนิตดีไซน์พิเศษอย่างห้อง Duplex Access Pool เชื่อมกับสระว่ายน้ำส่วนกลาง และห้อง Exclusive Garden เพิ่มพื้นที่ระเบียงกว้างขึ้น สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวสวนสีเขียว ทุกยูนิตยังติดตั้งเครื่องกรองน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัย และลดการใช้ขวดน้ำพลาสติก รวมถึงเสริมฟังก์ชันใหม่แห่งเดียวในย่าน อาทิ Walk-in Closet เพิ่มพื้นที่จัดเก็บของ ห้องครัวแบบปิด ลดปัญหากลิ่นรบกวนภายในห้องพัก เหมาะกับคนชอบทำอาหาร
3.ส่วนกลางสุดล้ำ โดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากถึง 60 รายการ สระว่ายน้ำ 3 สระ ในพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 5 โซน รวมพื้นที่กว่า 7,802 ตร.ม. ตั้งแต่โซน Mix Forest เน้นตกแต่งด้วยต้นไม้และโทนสีเขียว เช่น Mystic Lobby, Taste Heaven รองรับการทำอาหาร, Snooker Club โซน Theme Park ตกแต่งคล้ายสวนสนุก มีกิจกรรมให้ทำมากมายอย่างสระว่ายน้ำ, Slider Tower, Music Lab, Podcast Room, Cineplex Suite โซน Futuristic World เอาใจสาย E-Sport เช่น Laser Shooter, Immersive VR, Sport Simulator, E-Sport League โซน Healing พื้นที่รีแล็กซ์ผ่อนคลาย อาทิ Knowledge Nook, Therapy Retreat, Napping Valley, Relaxation Haven และโซน Magic Island ที่มีทั้งฟิตเนส, Magic Party และ Silent Disco รวมถึงมีรถ Shuttle Bus บริการรับ-ส่งหน้าโครงการ
4.มี Smart Technology อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อยู่อาศัย ทั้ง Smart Access ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า และ LPR ตรวจจับป้ายทะเบียนรถที่เข้า-ออกโครงการ Smart Secure ติดตั้งกล้อง CCTV เสาอัจฉริยะ พร้อมสัญญาณ SOS เตือนภัย โทรศัพท์และ Dashboard เฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยให้ผู้อยู่อาศัยตลอด 24 ชม. และ Smart Booking จองใช้พื้นที่ส่วนกลาง พร้อมเช็กสถานะพัสดุผ่านแอปพลิเคชัน
5.คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม นำแนวคิด GrowGreen มาใช้ภายในห้องพักและส่วนกลาง อาทิ ใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ, ติดตั้งระบบคัดแยกขยะ ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและถังขยะในชุดครัว, ใช้เครื่องปรับอากาศที่กรองฝุ่น PM2.5, ปลูกต้นไม้กรองฝุ่น, ม่านต้นไม้แนวตั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียว, ใช้หลอดไฟ LED ประหยัดไฟ, ใช้ระบบ IoT ช่วยบริหารจัดการพลังงานในโครงการ, ใช้สีทาอาคารที่ช่วยสะท้อนความร้อน และติดตั้ง EV Charger 18 จุด กระจายทั่วทุกอาคาร รองรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า