เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯประเดิมไตรมาสแรกปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม – ธันวาคม 2567) มีรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัย 2,003 ล้านบาท เติบโต 15.7% ประกาศแผนงานปี 2568 เปิดตัวแนวราบ 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,803 ล้านบาท ครอบคลุมทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ นครราชสีมา และขอนแก่น ภายใต้แนวคิด ‘โลกที่ดี เริ่มจากชีวิตที่ดี’ตอกย้ำแบรนด์ระดับสากล ผู้นำตลาดแนวราบระดับลักชัวรี และทาวน์โฮมพรีเมียม พร้อมชูบ้านมาตรฐานอาคารเขียว LEED รายแรกของไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สมบูรณ์ วศินชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2568 เติบโต 23% จำนวน 11,200 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักมาจากบ้านเดี่ยว 46% ทาวน์โฮม 27% บ้านแฝด 12%และโครงการในต่างจังหวัด 13% โดยมุ่งตอกย้ำความเป็นแบรนด์สากล ผ่านการนำเสนอโครงการใหม่ ขยายแบรนด์ใหม่ และดีไซน์ฟังก์ชันใหม่ ที่เน้นการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มพรีเมียม และลักชัวรี ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม – ธันวาคม 2567) บริษัทรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัย 2,003 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าจากการโอนหลายโครงการ อาทิ โครงงการ Grandio บางนา กม.5, Grandio เกษตร – นวมินทร์, Grandio ฟิวเจอร์ – รังสิต, Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์ และ Golden Neo สุขุมวิท –ลาซาล
รวมไปถึงรายได้จากการจัดแคมเปญการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สร้างการรับรู้ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ภายใต้แคมเปญ “บ้านเฟรเซอร์ส คิดมาครบ” ที่มีการนำแนวคิด customer centric มาปรับใช้ โดยมุ่งเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลักยึดในการดีไซน์แบบบ้าน และฟังก์ชันภายในบ้านให้ครบตอบโจทย์ลูกค้าทุกเจเนอเรชัน
สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2568 มีจำนวน 6 โครงการมูลค่ารวม 9,803 ล้านบาท ครอบคลุมทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ นครราชสีมา และขอนแก่น แบ่งเป็น
• บ้านแนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 9,353 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว และบ้านแฝดระดับลักชัวรี ภายใต้แบรนด์ The Grand, Grandio และแบรนด์ใหม่ Gramour ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ากลุ่ม mid – high นอกจากนี้ยังมีทาวน์โฮมพรีเมียมแบรนด์ใหม่ Goldina ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ 3โครงการ มูลค่า 6,022 ล้านบาท อาทิ โครงการ The Grand ราชพฤกษ์-พระราม 5 ริเวอร์ฟร้อนท์ มูลค่า2,200 ล้านบาท และโครงการ Goldina สุขุมวิท-แบริ่ง เป็นทาวน์โฮม 3ชั้นมูลค่า 1,022ล้านบาท ส่วนต่างจังหวัดมี 2โครงการ ภายใต้แบรนด์ Grandio มูลค่ารวม 3,331 ล้านบาท

• คอนโดมิเนียม 1 โครงการ แบรนด์ KLOS รามอินทรา – แฟชั่น เป็นอาคารโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น มูลค่า 450 ล้านบาท ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จของคอนโดฯโครงการ KLOS รัชดา ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มคนซื้อรุ่นใหม่

ส่งให้ในปี 2568 บริษัทจะมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและพัฒนาจำนวน 81 โครงการ รวมมูลค่า 114,738 ล้านบาท แบ่งบ้านแนวราบ 79 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ พร้อมกันนี้ยังได้วางแผนขยายโครงการขนาดเล็กในเมืองมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าปัจจุบัน และขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ ด้วย 3 กลยุทธ์หลักภายใต้แนวคิด Together for the Greater Living – โลกที่ดี เริ่มจากชีวิตที่ดี
-Function and Care – ใส่ใจทุกรายละเอียดของการออกแบบสอดคล้องกับแนวทาง ESG ที่เน้นการเติบโตของธุรกิจไปพร้อมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการลดค่าใช้จ่ายให้ลูกบ้าน สะท้อนผ่านการดีไซน์ฟังก์ชันในบ้านที่คำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อาทิ การออกแบบช่องแสง ลม และพื้นที่เพดานที่สูงกว่ามาตรฐานในบ้านซีรี่ย์ใหม่เพื่อการถ่ายเทอากาศที่สะดวกยิ่งขึ้น ลดอุณหภูมิภายในบ้านในช่วงกลางวัน, ระบบกรองอากาศ Clean and Cool Air ที่ช่วยกรองเชื้อรา สารระเหย และฝุ่นได้ถึงระดับ PM 2.5, บริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้ลูกบ้าน, ฟังก์ชันห้องซัก ตาก รีดในร่ม
รวมไปถึงการออกแบบพื้นที่สวนสาธารณะภายในโครงการที่สอดรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่ อาทิ pet park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง และพื้นที่ปลูกผักปลอดสารพิษ นอกเหนือจากต้นไม้เพื่อการตกแต่งในพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ เป็นต้น
-Real Estate as a Service – ผ่านแนวคิด customer centric การนำเสนอบริการหลังการขายที่นำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผ่านแอพพลิเคชัน FTX ช่วยลูกบ้านในการเข้าถึงกิจกรรม สิทธิพิเศษ แจ้งงานซ่อม และติดตามสถานะงานซ่อมได้สะดวก และรวดเร็ว
-Sustainable Living –บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED v4.1 (Leadership in Energy and Environmental Design) สำหรับที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวในระดับ Gold ซึ่งเป็นมาตรฐานรางวัลที่ได้รับความน่าเชื่อถือสำหรับอาคารสีเขียวในระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ The Grand ริเวอร์ฟร้อนท์ ราชพฤกษ์ – พระราม 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวแห่งแรกในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองสำหรับบ้านต้นแบบมาตรฐาน โดยจะมีการนำหลักเกณฑ์การออกแบบบ้านที่ได้รับมาตรฐาน LEED มาปรับใช้ในทุกโครงการต่อจากนี้ ล่าสุดอยู่ระหว่างวางแผนยื่นขอรับรองมาตรฐาน TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) ซึ่งเป็นการประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย โดยสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI)






