เซ็นทรัลพัฒนากวาดรายได้Q1กว่า 1.2 หมื่นล้านบาทจากธุรกิจให้เช่า-บริการและโรงแรม

เซ็นทรัลพัฒนาโชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 รายได้รวม 12,162 ล้านบาท  และกำไรสุทธิ 4,227 ล้านบาท รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น–มาตรการรัฐหนุนเดินหน้าวางแผนการลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง5ปีผ่านวิสัยทัศน์ ‘Pioneering Growth & Beyond’ มุ่งพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์

นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ CFO and President, Hotel and Office บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า การบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสแรกปี 2568 ได้รับแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ อาทิ โครงการ Easy E-Receipt ส่วนมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ คาดว่าจะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป ผนวกกับกลยุทธ์ Retail-Led Mixed-use Development ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของบริษัท ได้ผลักดันให้ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมีกำไร 4,227 ล้านบาทและรายได้รวม 12,162 ล้านบาทที่มาจากธุรกิจให้เช่า บริการและธุรกิจโรงแรม ขณะที่กลุ่มธุรกิจค้าปลีก และกลุ่มธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะเครือเซ็นทาราและ Go Hotel มีการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น สะท้อนความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง

ณ สิ้นไตรมาส 1 กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 42 โครงการ แบ่งเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล 40 แห่งตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 16 โครงการ ต่างจังหวัด 23 โครงการ และในประเทศมาเลเซีย 1 โครงการศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกา บางนาอีก 1 แห่ง คอมมูนิตี้ มอลล์ 16 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ยังบริหารศูนย์อาหาร 37 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 10 แห่ง โครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงรวม 44 โครงการ ล่าสุดเปิดตัวเมื่อ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวโครงการ Market Place เทพรักษ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “Urban Fresh Market” โมเดลคอมมูนิตี้มอลล์ย่านพหลโยธิน–วัชรพล บนพื้นที่กว่า 7,300 ตารางเมตร รวมร้านค้ากว่า 360 ร้านค้า

นอกจากนี้ยังได้เดินหน้าวิสัยทัศน์ ‘Pioneering Growth & Beyond’ วางแผนลงทุนระยะยาว 120,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสและโครงการ Transformation ทุกภูมิภาคภายใน 5 ปี (ปี2568–2572) ภายใต้กลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development เพื่อเสริมศักยภาพย่านและเมืองต่างๆ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ระดับโลก โดยเตรียมเปิดตัวเมกะโปรเจกต์และโครงการใหม่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึง 3 โครงการใหม่ล่าสุด ได้แก่ The Central พหลโยธิน เมกะโปรเจ็กต์ศูนย์กลางเศรษฐกิจ (New CBD) แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ, Central Northville มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใจกลางนนทบุรี และCentral Khonkaen Campus’ โครงการแห่งที่ 2 ในจังหวัดขอนแก่น

ขณะเดียวกันในปี 2568 ยังเตรียมเปิดตัวโครงการ‘Central Park  ศูนย์การค้าระดับ Masterpiece บน Prestigious Address ด้วยคอนเซ็ปต์ Here for Bangkok,Central Krabi ศูนย์การค้าต้นแบบด้าน Sustainable & Mindful Travel ควบคู่ไปกับเมือง รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยในมิกซ์ยูส บ้านนินญา กระบี่, คอนโดมิเนียม Phyll กระบี่ จะเปิดพรีเซลล์เดือนกรกฎาคม และบ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีกำหนดเปิดพรีเซลล์เดือนพฤษภาคมนี้

โพสที่เกี่ยวข้อง