บริษัทแอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ได้ปักหมุดให้บริการด้านโรงแรมในเมืองเชียงใหม่แล้ว 3 โรงแรม คือ โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล และโรงแรม เชียงใหม่ แมริออท โฮเทล จากพอร์ตโรงแรมทั้งหมดที่เปิดให้บริการแล้วทั่วประเทศมากถึง 22 โรงแรม ล่าสุดเตรียมเดินหน้าพัฒนา 3 โครงการใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
ประเดิมด้วยการเปิดห้องบอลรูมอิมเมอร์ซีฟแห่งแรกของโลก “Plaii Ballroom” ในโรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล พร้อมระบบ LED รอบด้านเต็มรูปแบบ รองรับการประชุม งานอีเวนต์ และกิจกรรมระดับเวิลด์คลาส เพื่อรองรับกลุ่ม Innovation & Leisure MICE
นอกจากนี้ยังเตรียมงบลงทุนกว่า 11,950 ล้านบาท เพื่อพัฒนาพื้นที่ย่านช้างคลานผ่านโครงการ “Lannatique” ที่มีพื้นที่กว่า 21ไร่ แหล่งรวมผลิตภัณฑ์จากภาคเหนือ โดยเตรียมเปิดตัวเฟสแรกไตรมาส 4 ปี 2568 ด้วยแนวคิด “The Heart of Lanna Art Movement” นำเสนอหมู่บ้านศิลป์ 3 สไตล์
และเตรียมเปิดตัว “Chiang Mai Tram by Lannatique” รถแทรมไฟฟ้าท่องเที่ยวแห่งแรกของไทย เพื่อเชื่อมต่อแหล่งวัฒนธรรม-แลนด์มาร์กสำคัญทั่วเมืองเชียงใหม่ ด้วยแนวคิด Innovative and Sustainable Tourism ที่ผสานนวัตกรรมเข้ากับการอนุรักษ์วัฒนธรรม เศรษฐกิจชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล
วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา รายได้จาก3โรงแรมในเมืองเชียงใหม่ของ AWC เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในภาวะเฝ้าระวัง โดย Revpar หรือ Revenue Per Available Room เพิ่มขึ้นถึง 25 %โดยเฉพาะโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล มี Revpar สูงถึง 56% โดยบริษัทได้เดินหน้าตามนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เพื่อร่วมสร้างการท่องเที่ยวยั่งยืนของเมืองเชียงใหม่ ด้วยรูปแบบ Innovative and Sustainable Tourism เพราะประเมินว่าการท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างคุณค่าและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในเมืองเชียงใหม่
“Lannatique” พลิกโฉมย่านช้างคลานสู่แลนด์มาร์กศิลปวัฒนธรรมระดับโลกใจกลางเชียงใหม่
นอกจากนี้ AWC ได้เปิดตัวโมเดล ‘AWC’s Lifestyle Destination’ ในการพัฒนาโครงการลานนา ทีค เชียงใหม่ (Lannatique)เพื่อรวบรวมเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ชั้นยอดของเมืองเชียงใหม่มารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันบนเนื้อที่กว่า 21ไร่ ภายใต้แนวคิด “The Heart of Lanna Art Movement” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของอารยธรรมล้านนาออกมาในรูปแบบ “หมู่บ้านศิลปะร่วมสมัย” เชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับการสร้างสรรค์ในโลกปัจจุบันอย่างกลมกลืนผสานกับไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพระดับโลก ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 8,500 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 พื้นที่สำคัญ
Lannatique Kalare ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 17,500 ตารางเมตรที่เน้นศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ผ่าน 3 หมู่บ้านศิลป์ ได้แก่Thai Craftsmanship Village หมู่บ้านศิลปะไทยและหัตถกรรม,Cultural Village หมู่บ้านวัฒนธรรมหลากหลายของชาติพันธุ์ และ Creative Art Village หมู่บ้านสร้างสรรค์ศิลปะแบบใหม่
รวมถึงพื้นที่ Experiential Shop ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ของไทยที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมที่กระตุ้นทุกประสาทสัมผัส เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เข้าถึงเรื่องราว แนวคิด และคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในเบื้องหลังแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยจะเปิดให้บริการเฟสแรกในไตรมาส 4ปี 2568
รวมทั้งยังมีแผนพัฒนาโรงแรมระดับโลกขนาด 55,000 ตารางเมตร ที่จะผสานกับ Attraction ระดับโลกขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
“AWC ได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับแนวหน้าของไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะ การแสดง และอาหาร เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างครบวงจรให้กับโครงการ Lannatique Kalare โดยเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน ผู้ประกอบการ และชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนและสร้างสรรค์ประสบการณ์พิเศษ อาทิ 6ixcret Show โดยกันตภณ เนียมมณี นักออกแบบการแสดง เจ้าของผลงานสร้างสรรค์ในเชียงใหม่ เปิดโรงละครภายใต้แบรนด์ STARGANZA LIVE นำเสนอการแสดง Cabaret Show ร่วมสมัยที่หลอมรวมศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรมล้านนาท้องถิ่น บนพื้นที่รวมมากกว่า 500 ตารางเมตร นอกจากนี้เชฟเอก เอกพล พิชวงค์ เชฟอาหารไทยท้องถิ่นชื่อดังจากมิชลินไกด์ในเชียงใหม่ เตรียมเปิดโมเดลใหม่ของร้านเอกฉันท์ บนพื้นทีกว่า 500 ตารางเมตร”
Lannatique Bazaar ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 22,500 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด Contemporary Art กับพื้นที่ศิลปะร่วมสมัย รวมถึงโครงการโรงแรมที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร
Lannatique Market ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 87,000 ตารางเมตร ที่อยู่ระหว่างการศึกษาภายใต้คอนเซ็ปต์ในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน
ล่าสุด AWC ได้ยกระดับการบริการรองรับกลุ่มนักเดินทาง MICE ด้วยการเปิด “Plaii Ballroom” ห้องบอลรูมระบบอิมเมอร์ซีฟแห่งแรกของโลกภายในโรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล ด้วยจอ LED จากพื้นถึงเพดานครอบคลุมผนังทั้ง 4 ด้าน รองรับการจัดงานแบบ Innovative ทุกรูปแบบ รวมถึงพื้นที่ใหม่เพื่อการประชุมที่มาพร้อมห้องประชุมหลากหลายขนาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบ อาทิ ห้อง “Suthep Hall” ขนาดใหญ่รองรับผู้ร่วมงานกว่า 800 คน รวมถึงห้องคาราโอเกะ และกอล์ฟซิมมูเลเตอร์ ที่เชื่อมต่อกับโครงการ “Lannatique”
เดินหน้าโครงข่ายรถแทรมไฟฟ้าล้อยางเชื่อมเส้นทางวัฒนธรรมทั่วเมืองเชียงใหม่
ขณะเดียวกันยังได้วางแผนเปิดตัว“Chiang Mai Tram by Lannatique” รถแทรมไฟฟ้าล้อยาง นำเที่ยวแห่งแรกของประเทศที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Innovative and Sustainable Tourism เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ ชื่อดัง รวมกว่า 40 แห่งตลอดสาย อาทิ ประตูท่าแพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตลาดวโรรส คลองแม่ข่า โครงการ “Lannatique” พันธุ์ทิพย์ และโรงแรมในเครือ AWC เป็นต้น
ทั้งนี้รถแทรมไฟฟ้าล้อยางจะให้บริการกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยผู้ใช้บริการสามารถจอดรถส่วนตัวไว้บริเวณรอบนอก หรือในโครงการเครือ AWC แล้วเดินทางเข้าสู่เมืองด้วยรถแทรมไฟฟ้าล้อยางเพื่อลดการใช้พลังงานและการจราจรที่หนาแน่นในเขตเมือง โดยรายได้สุทธิจากโครงการ “Chiang Mai Tram by Lannatique” จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมเพื่อชุมชนยั่งยืนให้จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป