ที่นี่คือ โครงการมิกซ์ยูสระดับเมกะโปรเจกต์ บนอาณาจักรกว่า 2,000 ไร่ ที่ออกแบบ ภายใต้แนวคิด The World Class Community for Multigenerational Living
“เรนวูด ปาร์ค (Reignwood Residence)” โมเดลเมืองนวัตกรรมการอยู่อาศัยแห่งอนาคต ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกช่วงวัย ที่มีทั้งสนามกอล์ฟ,โรงเรียนนานาชาติ KIS ,Sport Expert Life Community การพัฒนาศูนย์กีฬาและสปอร์ตคอมเพล็กซ์ เพื่อรองรับการพัฒนานักกีฬามืออาชีพ ที่มีทั้ง Sport Rehab ฟิตเนส คอร์ดกีฬาประเภทต่างๆ สระว่ายน้ำ และคลาสออกกำลังกาย บนเนื้อที่รวมกว่า 30,000 ตารางเมตร
และยังมีที่ดินเปล่าจำนวน 41 แปลง พร้อมบ้านเดี่ยวในโครงการเซเรโนจำนวน 101 ยูนิต ซึ่งทั้ง 2โครงการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่รอบสนามกอล์ฟโรบินส์วูด บ้านเดี่ยวของโครงการโซเนีย บ้านสไตล์โมเดิร์นที่ผสานกับภูมิทัศน์ธรรมชาติได้อย่างลงตัวจำนวน 352 ยูนิต และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อีกจำนวน 120 ยูนิต

รวมทั้ง Sport Lifestyle Community ที่มีทั้งลู่วิ่งจักรยาน สวนหย่อมรองรับการเดินออกกำลังกายทั่วทั้งโครงการ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่ รวมทั้ง Park11 คอมมูนิตี้มอลล์ ไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้ เพื่อรองรับสมาชิกลูกบ้านของโครงการเรนวูด ปาร์ค และคนในพื้นที่ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ส่วนอีกหนึ่งไฮไรส์สำคัญของโครงการนี้ คือ เรนวูด โกลด์บอล เฮอริเทจ สำหรับการต้อนรับเรนวูด โกลด์บอล อีลิท ที่สร้างขึ้นบนเกาะใจกลางของโครงการบนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ รวมถึงการสร้างประโยชน์สู่ชุมชน ทั้งกาสร้างงาน สร้างอาชีพให้ชุมชนโดยรอบ รวมถึงการสร้างสิ่งแวดล้อม
ที่สำคัญโครงการได้ผ่านการออกแบบเมืองที่มีศักยภาพให้พร้อมรับมือวิกฤตต่างๆ ทั้งภัยธรมชาติจากน้ำท่วม และแผ่นดินไหว โดยโครงสร้างอาคารทั้งโครงการสามารถรองรับการเกิดแผ่นดินได้ไม่น้อยกว่า 7 ริกเตอร์ โดยมีบริษัท A49 เป็นผู้ออกแบบบ้านในโครงการ และมีบริษัทฤทธา จำกัด เป็นผู้รับเหมางานก่อสร้างที่อยู่อาศัย ขณะที่โครงการมีระบบ After-Sales Service ที่ดูแลแบบ Proactive พร้อมระบบแจ้งเตือนความปลอดภัย และสื่อสารกับผู้อยู่อาศัยอย่างทันเหตุการณ์

จุดเริ่มต้นของโครงการเกิดจากแนวคิด ในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 น่าจะมีสถานที่ๆปลอดภัย สำหรับทุกคนที่ต้องอยู่ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จึงได้มองเห็นโอกาสในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ทำให้ วรพนิต รวยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรนวูด กรุ๊ป เดินหน้าก่อสร้างโครงการเรนวูด ปาร์ค โดยเลือกทำเลย่านลำลูกกาซึ่งแปลงที่ดินเดิมเป็นบ่อปลาและบ่อกุ้งของชาวบ้านมาเป็นที่ตั้งของโครงการ และใช้ระยะเวลากว่า 3ปี (ปี 2562 – 2564) ในการรวบรวมแปลงที่ดินขนาดใหญ่กว่า 2,000 ไร่ มาพัฒนาเป็นโครงการ Mix used พร้อมทั้งพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 16 ล้านบาท ถึง 300 ล้านบาท ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูง พร้อมทั้งพื้นที่ส่วนกลางขนาดกว้างขวางและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่
ซึ่งโครงการมีความใส่ใจและวางรากฐานให้แข็งแรง เพื่อรองรับคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการสร้างคอมมูนิตี้ที่สามารถเป็นศูนย์กลางของทุกคนในครอบครัวได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีคุณค่าภายใต้แนวคิด Inclusive Community โดยคำนึงถึงความหลากหลายของผู้คน เพราะมองว่า “บ้านที่ดี ต้องมีเพื่อนบ้านที่ใช่ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีร่วมกัน จึงให้ความสำคัญกับ “เพื่อนบ้าน” และ “สภาพแวดล้อม” เป็นสำคัญ

ส่วนภายในโครงการถูกออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวมากถึง 700 ไร่ หรือคิดเป็น 35% ของพื้นที่ทั้งหมด พร้อมต้นไม้ขนาดใหญ่กว่า 10,000 ต้นที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ และฟื้นฟูระบบนิเวศให้มีความหลากหลายทางชีวภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่ระบบแหล่งน้ำขนาดใหญ่ มีทั้งทะเลสาบรูปหัวใจ (Heart Lake)พื้นที่กว่า 57 ไร่ และบึงโดยรอบสนามกอล์ฟขนาดใหญ่อีก 89 ไร่ เพื่อช่วยสร้างระบบหมุนเวียนน้ำภายในโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ปล่อยน้ำเสียสู่ภายนอก พร้อมติดตั้งเครื่องเติมอากาศ 28 เครื่อง เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมถึงติดตั้งระบบ Solar Floating ในทะเลสาบรูปหัวใจ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 2 เมกะวัตต์ และติดตั้ง Solar Cell อีก 16 จุดทั่วพื้นที่ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 400 กิโลวัตต์ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 2 สถานี (รวม 6 หัวจ่าย) นอกจากนี้ยังบริจาคที่ดิน 4 ไร่ด้านหลังโครงการเพื่อจัดตั้งสถานีไฟฟ้าย่อยขนาด 100 เมกะวัตต์ ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพการจ่ายไฟในพื้นที่ชุมชนโดยรอบโครงการ
เรนวูด ปาร์ค จึงไม่ใช่เพียงแค่โครงการที่พักอาศัย แต่คือการสร้างระบบนิเวศแห่งการใช้ชีวิตที่สมดุลระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และชุมชน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนในทุกมิติอย่างแท้จริง





