ไซมิส แอสเสทขยายพอร์ตอสังหาฯเชิงสุขภาพเปิด “Silver Age Residence” ดึงศูนย์แพทย์ศรีพัฒน์เสริมทัพด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู

ไซมิส แอสเสทเดินหน้าขยายพอร์ตพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่ธุรกิจสุขภาพ เปิดตัวโครงการใหม่ “Silver Age Residence and Medical Center by Siamese Asset” มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท โครงการต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยที่เชื่อมโยงกับบริการทางการแพทย์เชิงป้องกันและฟื้นฟู บนทำเลย่านตลิ่งชัน เจาะกลุ่ม Silver Economy พร้อมผนึกกำลัง “ศูนย์การแพทย์ศรีพัฒน์” คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เสริมความแข็งแกร่งด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูผู้สูงอายุ คาดเริ่มเปิดขายไตรมาส2ปีหน้า และสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ปลายปี 2571

สุนันทา สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ “Silver Age Residence and Medical Center”  มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,300 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดขายในไตรมาส 2 ปี2569 และมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2571  เน้นเจาะกลุ่มกลุ่มลูกค้า silver economy ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยหนุนรายได้ตั้งแต่ปี 2571 ให้เติบโตแข็งแกร่ง  

โดยโครงการตั้งอยู่บนที่ดินริมถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร A เป็นศูนย์การแพทย์ Medical Center 45 เตียง ซึ่งได้ขออนุญาตเป็น “โรงพยาบาลส่งเสริมฟื้นฟูผู้สูงอายุ” โดยได้MOU ความร่วมมือกับ ศูนย์การแพทย์ศรีพัฒน์ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอาคาร B เป็นคอนโดมิเนียมสูง 21 ชั้น จำนวน 349 ยูนิต แบ่งพื้นที่การใช้สอยออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนใกล้โรงพยาบาลศิริราชที่เชื่อมต่อกับถนนจรัญสนิทวงศ์–บรมราชชนนี มีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินผ่าน ขณะที่อนาคตจะกลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่เป็นจุด Interchange สำคัญของสถานีรถไฟฟ้า 3 สาย รองรับกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป โซนโรงแรม บริหารโดยทีม Hospitality และโซนห้องพักเช่าระยะยาว รองรับนักลงทุน

มณเฑียร ยิ่งดำนุ่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการร่วม และประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ)  บริษัทไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดเด่นของโครงการนี้เน้นการลงทุนในระบบวิศวกรรมอาคาร (Building System) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินและยืดอายุการใช้งานของอาคาร โดยได้นำเทคโนโลยีเฉพาะของบริษัทที่พัฒนาขึ้นในชื่อ “Siamese Technology” มาใช้ในโครงการ อาทิ ระบบฟอกอากาศภายในอาคารที่สามารถกรองฝุ่นละเอียดระดับ PM 2.5 เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ระบบแอร์ VRV ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 20–30% และการติดตั้ง Solar Panel บนหลังคาอาคารเพื่อใช้ในระบบสาธารณูปโภค พร้อมกระจกประหยัดพลังงาน ช่วยลดความร้อนจากภายนอก เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมของโครงการ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่พักอาศัยที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ โดยใช้หลัก “Universal Design” ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและภายในห้องพัก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเป็นอิสระ เช่น ทางลาด ราวจับ ห้องน้ำกว้างไม่มีธรณี พื้นลดแรงกระแทก เฟอร์นิเจอร์ออกแบบให้พอดีกับสรีระผู้สูงวัย รวมถึงการติดตั้งเทคโนโลยีดูแลความปลอดภัย อาทิ อุปกรณ์ตรวจจับการล้มและระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉินภายในห้องพัก โดยจะมีการคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นก่อนเข้าอยู่อาศัย เพื่อให้ชุมชนภายในโครงการเป็นสังคมแห่งคุณภาพ

นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีพื้นที่สีเขียวส่วนกลางกว่า 1 ไร่ ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างอาคารทั้งสองและถูกออกแบบให้เป็น “Wellness Activity Zone” สำหรับผู้อยู่อาศัยทุกวัย อาทิ ลานไทชิ โยคะ สวนบำบัด (Therapeutic Garden) พื้นที่ปลูกต้นไม้ และลานกิจกรรมสำหรับครอบครัว พร้อมบริการด้านสุขภาพ เช่น โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี การดูแลฉุกเฉิน และการดูแลในภาวะพึ่งพิงในอนาคต

ด้านผศ.นพ.วนรักษ์ วัชระศักดิ์ศิลป์ รองผู้อำนวยการศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า อาคาร A ซึ่งเป็นศูนย์การแพทย์จะให้บริการคลินิกเฉพาะทางรวม 5 แผนก อาทิ คลินิกระบบประสาท กระดูก เวชศาสตร์ฟื้นฟู อายุรกรรม และศูนย์ภาพวินิจฉัย พร้อมรองรับผู้ป่วยพักฟื้นในรูปแบบ Nursing Home จำนวน 45 เตียง โดยมีเป้าหมายเป็นศูนย์เวชศาสตร์ป้องกันและฟื้นฟูสำหรับผู้สูงวัย รองรับผู้ป่วยวันละ 300 ราย และออกแบบอาคารให้ได้มาตรฐาน JCI (Joint Commission International) จากสถาบันของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล  เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้รับบริการ

โพสที่เกี่ยวข้อง