แสนสิริเผยยอดขายครึ่งปีแรกอยู่ที่ 26,000 ล้านบาท คิดเป็น50% จากเป้าทั้งปีแข็งแกร่ง สวนกระแสภาวะภาวะตลาดอสังหาฯชะลอตัว พร้อม Sold Out 13 โครงการ มูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท ตุนBacklogในมือ 20,000 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ในปีนี้ถึง 50% ไตรมาส 3 เดินหน้าเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่า 15,300 ล้านบาท ขยายฐานลูกค้าทั้งกลุ่มซื้ออยู่อาศัยเองและนักลงทุน
วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 6เดือนแรกของปี 2568 บริษัททำยอดขายได้ 26,000 ล้านบาท คิดเป็น 50% จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 53,000 ล้านบาท สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแสนสิริ แม้ว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีความท้าทาย ทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศ สถานการณ์ทางการเมือง ปัญหาความขัดแย้งจากภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบต่อการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่ยังคงมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง การผ่อนคลายมาตรการ LTV ให้กู้ได้เต็ม 100% ในทุกระดับราคา และการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% เป็นแรงกระตุ้นกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าซื้ออยู่อาศัยเองและนักลงทุน เพื่อช่วยผลักดันให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาฟื้นตัวได้ โดยยอดขายหลักมาจากโครงการพีทีวาย เรสซิเดนซ์ สาย 1 คอนโดฯริมหาดพัทยา ที่ทำยอดขายได้สูงถึง 3,300 ล้านบาท และโครงการเดมี พระราม 9 – เหม่งจ๋าย ที่ปิดการขายได้ทั้ง 18 ยูนิตก่อนวันพรีเซลล์ล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ทำยอดขายได้กว่า 500 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทสามารถปิดการขายทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมรวม 13 โครงการ มูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท และเตรียมปิดการขายเพิ่มอีกกว่า 10โครงการในครึ่งปีหลัง ส่งผลให้มีBacklog หรือยอดขายรอโอนกว่า 20,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 50%
ส่วนไตรมาส 3 นี้ได้วางแผนเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 15,300 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 4โครงการและบ้านแนวราบ 1โครงการ ประกอบด้วย โครงการวาลเลส เฮาส์ คอนโดฯภายใต้แบรนด์ เฮาส์ ในทำเล T77 ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท เตรียมพรีเซลปลายเดือนสิงหาคมนี้ ,โครงการเซลฟ์ บาย แสนสิริ,โครงการไวด์เด็น บาย แสนสิริ คอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ในทำเลนางลิ้นจี่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและบริษัทโตคิว ดีเวลลอปเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ราคาเริ่ม 8.9 ล้านบาท,โครงการเดอะ เบส เออร์เบิน พระราม 9 และสราญสิริ จตุโชติ บ้านเดี่ยวดีไซน์ Urban Farmhouse ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
สำหรับการขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขายของแสนสิรินับจากนี้ไป บริษัทจะโฟกัสในเรื่องการบริหารจัดการโครงการพร้อมอยู่ และการเปิดโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพ ที่มีความต้องการซื้ออย่างชัดเจนจากกลุ่มผู้ซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุน ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูเก็ต รวมถึงการนำร่องทำ Investment Project ให้กับลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนในบ้านแนวราบ เช่น โครงการณรินสิริ กรุงเทพกรีฑา ที่มีการปล่อยเช่าในระดับราคา 400,000 – 500,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นผลตอบแทนที่สูงมากถึง 9% ต่อปี ปัจจุบันมีผู้สนใจติดต่อเช่าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาโมเดล Sansiri Community ในทำเลใหม่ๆ และการบริการหลังการขาย เพื่อช่วยผลักดันให้แสนสิริรักษาการเติบโตและครองความเป็นผู้นำในตลาดอสังหาฯ ได้อย่างต่อเนื่อง