แสนสิริได้พัฒนาระบบพรีคาสท์มาอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี จนก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการก่อสร้างในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีโรงงานพรีคาสท์รวม 6 โรงงาน พื้นที่รวมกว่า 200 ไร ตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ใช้เทคโนโลยี Semi Automated Carousel System ควบคุมการผลิตด้วยระบบคอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์ทุกขั้นตอน และใช้นวัตกรรมกรีนซีเมนต์ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 5-10 % (ต่อซีเมนต์ 1 ตัน)
ล่าสุดแสนสิริได้จับมือสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) สถาบันอุดมศึกษาที่โดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลุยศึกษาวิจัยพัฒนาผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเสริมกราฟีนป้องกันความร้อน สานต่อความสำเร็จจาก Sansiri Sustainable Home – Prototype 1 สู่การพัฒนาบ้าน Net-zero Home 2593 รองรับความต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่มีความโดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีกราฟีนในประเทศไทย เพื่อศึกษาวิจัยพัฒนาผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเสริม กราฟีนป้องกันความร้อน ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมการก่อสร้างใช้กราฟีนในการเพิ่มความแข็งแรงให้คอนกรีต อาทิ การผสมกราฟีน 0.1% หรือน้อยกว่าจะทำให้คอนกรีตแข็งแรงมากขึ้นถึง 35% หรือมากกว่า หรือใช้กราฟีนเสริมความแข็งแรงจะสามารถลดการใช้ปูนซีเมนต์ลงได้ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมีผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อน
โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการนำกราฟีนมาศึกษาวิจัยเพื่อคิดค้นพัฒนาผนังคอนกรีตสำเร็จรูปชนิดใหม่ เสริมกราฟีนเพื่อป้องกันความร้อนและลดความร้อนสะสม ซึ่งถือว่าเป็นงานวิจัยครั้งแรกในไทย และเป็นส่วนหนึ่งในโรดแมพของแสนสิริ สู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-zero Home 2593 หลังประสบความสำเร็จจากการพัฒนา Sansiri Sustainable Home – Prototype 1 บ้านต้นแบบที่ผสานความยั่งยืนไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยผนังคอนกรีตสำเร็จรูปชนิดใหม่เสริมกราฟีนนี้ จะถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบให้กับโรงงานพรีคาสท์ของแสนสิริ เพื่อใช้ผลิตผนังคอนกรีต ให้กับงานก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ในอนาคต เพื่อขยายผลให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว, คอนโดมิเนียม, ทาวน์โฮม, อาคารสำนักงาน, โรงงาน, โกดัง และอื่น ๆ ทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออกไปสู่ต่างประเทศ
รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล.ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งโรงงานต้นแบบผลิตกราฟีนระบบอัตโนมัติระดับอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยที่สามารถผลิตกราฟีนได้เอง ทดแทนการนำเข้าเป็นมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาทต่อกิโลกรัม และได้ต่อยอดการศึกษาและพัฒนาการนำกราฟีนไปประยุกต์ใช้ในนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อนำกราฟีนมาใช้เสริมในคอนกรีตสำเร็จรูป ป้องกันความร้อนจากภายนอก ถือเป็นนวัตกรรมที่มีศักยภาพสูงในการช่วยลดการใช้พลังงานในที่อยู่อาศัย และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยจะนำวัสดุอนุพันธ์กราฟีนที่มีชื่อว่า กราฟีนออกไซด์ (Graphene oxide, GO) ซึ่งสามารถผลิตได้ในปริมาณมากมาใช้เป็นวัสดุเสริม เพื่อช่วยเพิ่มสมบัติพิเศษให้กับผนังคอนกรีตสำเร็จรูป เนื่องจากวัสดุนาโน กราฟีนออกไซด์เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ หลายประการ แค่เติมลงไปในปริมาณน้อยในส่วนผสมของคอนกรีต จะสามารถเพิ่มสมบัติเชิงกลขึ้นจากเดิมได้ และช่วยเพิ่มความเป็นฉนวนป้องกันความร้อนจากเดิมได้ ทนทานต่อสารเคมี ความร้อนและแสงแดดได้ดี สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียได้ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย
ทั้งนี้ความสำเร็จในการพัฒนาผนังคอนกรีตสำเร็จรูปชนิดใหม่โดยการผสมเติมด้วยกราฟีนออกไซด์จากโครงการวิจัยในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มสมบัติในการป้องกันความร้อนให้ดีขึ้นจากเดิม และค้นหาสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างคอนกรีตกับกราฟีนออกไซด์ นับเป็นการค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมครั้งแรกในไทย