กลุ่มดุสิตธานีเดินหน้าต่อยอดการบริหารโรงแรมและที่พักอาศัยระดับลักชัวรีกว่า 75 ปี สู่การพัฒนา “Branded Residences” ภายใต้แบรนด์ดุสิตธานี เปิดตัวโครงการอจารา หัวหิน” ที่พักอาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี พร้อมพื้นที่สีเขียวกว่า 60% บนพื้นที่ของหัวหิน ซึ่งเป็นโครงการที่ 2 ของกลุ่มดุสิตธานีที่พัฒนาด้วยตนเองในฐานะ Property Developer ต่อจากโครงการ “Dusit Residences and Dusit Parkside at Dusit Central Park”
โดยโครงการออกแบบด้วยแนวคิด “The Only Thai Branded Residence” ที่สามารถพัฒนาและบริหารโครงการภายใต้แบรนด์ของตนเองได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ และดูแลโครงการด้วยบริการระดับโรงแรมมาตรฐานสากล แตกต่างจากโครงการทั่วไปที่มักใช้แบรนด์ต่างชาติเข้ามาเสริมมูลค่า
ทั้งนี้จากขอมูลของCBRE Global รายงานว่า Branded Residences เป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ และเป็นจุดแข็งของแบรนด์ทั้งในด้านคุณภาพ การออกแบบ และการบริการระดับพรีเมียม ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้โครงการได้สูงถึง 25-30% สะท้อนให้เห็นได้จากการเติบโตของตลาดในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก อาทิ เอเชีย-แปซิฟิกเติบโต 36%,EMEA หรือยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เติบโต 77% รวมถึงทวีปอเมริกาเติบโต 46%
ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือว่าจังหวัดภูเก็ต ครองอันดับ 1 ของ 10 เดสติเนชันที่ได้รับความนิยมในการพัฒนา Branded Residences ตามด้วยมะนิลา กรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์ พัทยา ดานัง ฮาลองเบย์ เซบู ปีนัง และหัวหิน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของเมืองตากอากาศอย่างหัวหิน ที่ยังคงเป็นหมุดหมายสำคัญในการดึงดูดการลงทุนด้านอสังหาฯระดับไฮเอนด์ ที่มาพร้อมแบรนด์และมาตรฐานการบริการในระดับโลก
ศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรม บริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการดำเนินการบริหารโรงแรมและรีสอร์ตรวม 300 แห่งกว่า 18 ประเทศทั่วโลกทั้งในและต่างประเทศ ทำให้กลุ่มดุสิตธานีได้ขยายขีดความสามารถสู่โครงการ The Residences at Dusit Central Park ที่พักอาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี ย่านพระราม 4 – สีลม และล่าสุดกับโครงการที่พัฒนาบนพื้นที่ศัหัวหิน คือ โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน ที่สะท้อนจุดแข็งของดุสิตธานีในฐานะแบรนด์ไทยที่สามารถพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีได้เองอย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้โครงการดุสิต อจารา หัวหิน ถูกออกแบบโดยคำนึงถึง Well-being และความสุขในระยะยาวของผู้อยู่อาศัย ด้วยสัดส่วนพื้นที่สีเขียวกว่า 60% พร้อมฟังก์ชันเพื่อสุขภาพกายและใจ เช่น สวนพักผ่อน สนามเด็กเล่น ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำระบบเกลือ อีกทั้งยังสนับสนุนแนวคิด Multi-generational Living หรือการอยู่อาศัยร่วมกันของคนทุกเจเนอเรชัน ผ่านการออกแบบพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุในครอบครัว
พร้อมนำเสนอการดูแลและการบริการแบบ The Only Thai Branded Residence ภายใต้การดูแลของกลุ่มดุสิตธานี ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของการบริการที่พิถีพิถันในแบบฉบับของดุสิตธานี ทั้งในด้านความสะดวกสบาย คุณภาพชีวิต และความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด ด้วยมาตรฐาน Gracious Hospitality ระดับเวิลด์คลาส ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับการบริหารโรงแรมและรีสอร์ทระดับโลก อาทิ บริการ Concierge ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง บริการทำความสะอาดที่พัก บริการเปลี่ยนผ้าปูเตียง การบริการดูแลพื้นที่สวนส่วนตัวของลูกบ้าน บริการรับมือเหตุฉุกเฉิน บริการซ่อมบำรุง บริการรถรับ-ส่งภายในโครงการ
รวมทั้งกิจกรรมเวิร์คช็อป เช่น การเรียนทำอาหาร งานศิลปะ งานฝีมือ การออกกำลังกายโยคะ และไทชิ เป็นต้น และบริการเสริมพิเศษ (A La Carte Services) ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ เช่น Room Service จนถึงเชฟส่วนตัว การบริการ Catering การจัดงานเลี้ยงภายในที่พัก สปาจากโรงแรม การใช้บริการรถของโรงแรม