ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่อยู่ในภาวะซบเซา และการปิดการขายโครงการคอนโดฯไปแล้ว 6-7 โครงการ รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ลดลงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และไม่มีการขายและโอน “บิ๊กล็อต” เหมือนในช่วงไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ได้มีการขายและโอนห้องชุดโครงการลุมพินี เพลส พระราม 3 มูลค่าประมาณ 570 ล้านบาท ทำให้ตัวเลขยอดขายและยอดโอนในช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 ของบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยมียอดขายสะสม 6 อยู่ที่ประมาณ 3,400 ล้านบาท ลดลงประมาณ 28% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับรูปแบบการพัฒนาโครงการให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้คนและคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันมากขึ้น ถือเป็นการพลิกโฉมแบรนด์ LPN อย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน (Facility) เน้นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ เช่น เปลี่ยนจากห้องอ่านหนังสือหรือห้องสมุด เป็นห้องสัตว์เลี้ยง (Pet room) และห้องไลฟ์สด (Live streaming room)
พร้อมปรับกลยุทธ์ด้านราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น มุ่งเน้นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนปัจจุบัน ทำให้ราคาห้องชุดสามารถ “จับต้องได้มากกว่า” โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อห้องชุดของLPN ในปัจจุบันจะเป็นคนรุ่นใหม่ ช่วงอายุประมาณ 28-40 ปี (กลุ่ม Gen Millennial) ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือช่วง 30 กว่าปีขึ้นไป
รวมทั้งการกระจายความเสี่ยงสู่โครงการแนวราบมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบ้านหรูราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จำนวนยูนิตไม่เยอะ แบรนด์ “บ้าน 365”ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายการกระจายพอร์ตสินค้าและลดความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากLPN ยังคงมีที่ดินในมือจำนวนมากที่ยังไม่ได้นำมาพัฒนา โดยไม่มีการซื้อที่ดินเพิ่มเติมตั้งแต่ปี 2567 และมีแผนจะนำมาพัฒนาในอนาคต โดยใช้จุดแข็งด้านทำเล ประสบการณ์ด้านงานก่อสร้าง และการบริหารจัดการต้นทุนเพื่อนำเสนอราคาที่แข่งขันได้และคุ้มค่าได้
แผนเปิดโครงการใหม่และโครงการที่ดำเนินการอยู่
สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ เดิมวางแผนจะเปิดตัว 4 โครงการใหม่แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และบ้านแนวราบ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,000 ล้านบาท แต่ล่าสุดจะเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,300-3,400 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 2โครงการ และคอนโดฯ 1 โครงการ ส่วนอีก2โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้เป็นคอนโดฯและบ้านแนวราบถูกเลื่อนออกไปเปิดตัวปีหน้า เพื่อรอประเมินความพร้อมของตลาด คือ โครงการบ้าน 365 อักษะ มูลค่าประมาณ 1,285 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างปรับแบบบ้านใหม่ และคอนโดฯโครงการลุมพินี พารค นพรัตน์สเตชัน ลุมพินี พาร์ค นพรัตน์สเตชัน เดิมมีชื่อว่า PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA หรือ พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา
โดยในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา LPN ได้เปิดตัวโครงการแรกของปี คือ บ้านลุมพินี แก้วอินทร์ มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท จำนวน 107 ยูนิต ล่าสุดมียอดขายแล้วประมาณ 10% โดยจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
ส่วนแผนเปิดตัวโครงการในครึ่งปีหลัง วางแผนเปิดตัวโครงการลุมพินี พาร์ค อ่อนนุช 19 (LUMPINI PARK ON19) มูลค่า 1,500 ล้านบาท ในปลายเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนชื่อเดิมจากโครงการพาร์ค 168 อ่อนนุช 19 ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี 2566 และเป็นโครงการแรกของ LPN ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-friendly) โดยมีการออกแบบพื้นที่แบ่งแยกอาคารอย่างชัดเจนระหว่างตึกที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้กับตึกที่ไม่ได้รับอนุญาต เน้นกลุ่มเป้าหมาย Real User หรือผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงประมาณ 70% และ Investor หรือนักลงทุนประมาณ 30%
และช่วงไตรมาส 4 จะเปิดตัวบ้าน 365 เจษฎา ราชพฤกษ์ มูลค่ากว่า 1,365 ล้านบาท ตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ราชพฤกษ์ แคมปัส เป็นบ้านระดับลักชัวรีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนโครงการ
ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการขายหลายโครงการทำยอดขายได้ดีขึ้น เช่น คอนโดที่เพชรเกษม 98,โครงการลุมพินี พาร์ค พหล 32 มียอดขายดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ปัจจุบันขายได้กว่า 50%,โครงการซีเล็คเต็ด จรัญ 65 สเตชั่น คาดว่าจะปิดการขายหมดภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาได้ปิดการขายโครงการที่เตาปูนและเจ้าพระยาได้ 100%
เดินหน้าช่วยลูกค้ากู้ไม่ผ่านด้วยแคมเปญ “LPN ดูแลให้” และ “LPN เคลียร์ให้”
นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการคัดกรองลูกค้าในเบื้องต้น เพื่อช่วยควบคุมอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับ 40-50% เพื่อช่วยลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจากบริษัท ซึ่งมีความสามารถในการผ่อน แต่อาจจะยังมีภาระหนี้สินอยู่ ทำให้ธนาคารไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ โดยได้ออกมาตรการซัพพอร์ตลูกค้าผ่านแคมเปญ “LPN ดูแลให้” และ “LPN เคลียร์ให้” เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยมีทีมที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์การเงินคอยให้บริการ เพื่อบริหารจัดการเครดิต และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อบ้าน
แคมเปญ “LPN ดูแลให้” ในกรณีที่ลูกค้ายื่นเอกสารเพื่อขออนุมัติสินเชื่อกับธนาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ธนาคารยังไม่พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยลูกค้าสามารถยื่นเรื่องผ่อนดาวน์กับ LPN ด้วยการทำสัญญาปีต่อปี ระยะเวลาสูงสุด 2 ปี ซึ่งจะลูกค้าสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ทั้งบ้านและคอนโดฯราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อสร้างความพร้อมด้านการเงินให้กับลูกค้าก่อนขอสินเชื่อกับธนาคารอีกครั้ง
แคมเปญ “LPN เคลียร์ให้” เป็นการเพิ่มช่องทางให้กับลูกค้าที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อ และสร้างโอกาสการขายที่อยู่อาศัยให้กับ LPN ด้วยการให้สินเชื่ออเนกประสงค์ (Nonbank) ในกรณีธนาคารปล่อยสินเชื่อไม่เต็ม 100% หรือกรณีลูกค้าต้องการนำเงินไปปิดภาระหนี้ต่าง ๆ เพื่อสร้างประวัติทางการเงินที่ดี โดยเงื่อนไขแคมเปญดังกล่า เป็นการอนุมัติวงเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาท สำหรับโครงการบ้าน (ไม่จำกัดราคาบ้าน) และวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท สำหรับโครงการคอนโดฯ (ไม่จำกัดราคาคอนโดมิเนียม)
ขณะเดียวกัน LPN ได้เพิ่มพอร์ตบริหารจัดการห้องชุดให้เช่าเองประมาณ 1,800 ยูนิต ซึ่งมีอัตราการเข้าพักสูงถึง 90% ธุรกิจนี้ถือเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงและช่วยเติมเต็มในช่วงที่ตลาดการขายไม่แน่นอน
ล่าสุดบริษัทได้จับมือธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญ“ลุมพินี ช่วยผ่อน 36 เดือน” เพื่อสร้างโอกาสให้ทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยผ่อนสบายล้านละ 3,500 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 ปี สำหรับลูกค้าที่จองและทำสัญญาซื้อคอนโดมิเนียม 10 โครงการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2568