ออริจิ้น เวอร์ติเคิล ตอกย้ำความสำเร็จแบรนด์ Origin Plug & Play คอนโดเลี้ยงสัตว์ที่มีอยู่ในพอร์ต 25 โครงการ จำนวน 4,960 ยูนิต มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มคนโสดและไม่มีลูก สอดรับธุรกิจสัตว์เลี้ยงเติบโตก้าวกระโดด คาดปีนี้มูลค่าตลาดรวมของธุรกิจสัตว์เลี้ยงแตะ 92,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น13% จากปีที่แล้ว พร้อมเดินหน้าส่งมอบคอนโดฯใหม่ Origin Plug & Play E22 Station กวาดยอดขายแล้ว 93% ดีไซน์ห้องเพดานสูง ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท*
อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL ในเครือบริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มออริจิ้นฯให้ความสำคัญกับตลาดคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ เพราะมองเห็นการเติบโตของแนวโน้มของตลาดในแทบทุกด้าน เช่น ตลาดอาหารสุนัขและแมว, โรงพยาบาล, บริการ, และอุปกรณ์เสริม (accessory)ต่างๆ ซึ่งมีการใช้จ่ายใช้สอยเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงค่อนข้างเยอะ ส่งผลให้การสร้างโอกาสในการลงทุนและการเช่า
เนื่องจากในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียม โดยมีการเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์และการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น (The Driver) ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงได้เปลี่ยนจาก “เจ้าของสัตว์เลี้ยง” (Pet Owner) ไปสู่ “Pet Humanization” โดยมองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นเหมือนลูกหรือสมาชิกในครอบครัว ส่งผลให้เกิดการดูแลอย่างเต็มที่เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดี
ทำให้ตลาดรวมของธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตค่อนข้างก้าวกระโดด คาดการณ์ว่าปีนี้มูลค่าตลาดรวมของธุรกิจสัตว์เลี้ยงจะมีประมาณ 92,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น13% จากปีที่แล้ว เนื่องจากมีการใช้จ่ายที่สูงขึ้นเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง อาทิ อาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ การรักษาพยาบาลทางการแพทย์ โดยค่าใช้จ่ายในการเข้ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยง หากเป็นเคสปกติจะไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 บาท แต่หากเป็นเคสหนักอาจสูงถึง 20,000-30,000 บาทต่อครั้ง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายรวมต่อตัวต่อปีต่อปีจากเดิมเกือบ 8,000 บาทเพิ่มขึ้นเกิน 50,000 บาทแล้ว
ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มขยายอาณาจักรในการลงทุน “Pet Friendly condominium” มากขึ้น โดยมีการออกแบบพื้นที่และฟังก์ชันต่างๆที่แบ่งโซนที่พักอาศัยระหว่างคนที่เลี้ยงสัตว์และคนที่ไม่เลี้ยง เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง
ล่าสุดกลุ่มออริจิ้นฯได้มีการลงทุนโครงการคอนโดฯที่เป็น Pet Friendly แล้วประมาณ 25 โครงการ จำนวน 4,960 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 12,000 ล้านบาท และมีหลายโครงการประสบความความสำเร็จด้านการขาย โดยเฉพาะโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วจำนวน 7 โครงการ เช่น โครงการ Park Origin Petchkasem 54 ทำยอดขายได้แล้ว 81% และโครงการ Origin E22 Station ทำยอดขายได้แล้ว 93% ส่วนในช่วงไตรมาส 4 นี้บริษัทจะมีโครงการคอนโดฯ Pet Friendly ที่จะสร้างเสร็จเพิ่มอีก 3 โครงการ ประกอบด้วย The Origin บางแค,Origin Place บางนา และ The Origin พหลฯ 57
ขณะที่กลุ่มเป้าหมายกลุ่มผู้ซื้อคอนโดของ Origin ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปเป็นคนโสดหรือกลุ่มที่ไม่มีลูก แต่มีรายได้ระดับหนึ่งที่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารสัตว์และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทจะแบ่งสัดส่วนการพัฒนาห้องชุดที่เป็น Pet-Friendly ประมาณ 30% และอีก 70% เป็นห้องชุดทั่วไปในโครงการที่เป็น Pet-Friendly เช่น โครงการคอนโดฯโลว์ไรส์ 8 ชั้น 3 อาคารแบ่งจะสัดส่วนเป็น 30-30-40 คาดว่าในอนาคตอาจปรับสัดส่วน Pet-Friendly เพิ่มขึ้นเป็น 40-50%
ตลาดคอนโดฯ Pet Friendly มีโอกาสที่ดีทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและการปล่อยเช่า เนื่องจากสามารถเรียกเก็บค่าเช่าได้สูงกว่าคอนโดเช่าแบบปกติ เช่น คอนโดฯปกติมีค่าเช่าอยู่ที่ 8,000 บาท แต่หากเป็นคอนโดฯ Pet-Friendly ค่าเช่าจะสูงประมาณ 10,000-12,000 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการดูแลบำรุงรักษาที่สูงขึ้น
ทั้งนี้แบรนด์ Origin Plug & Play ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์คอนโดมิเนียมของ ORIGIN VERTICAL ที่เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยคุ้มค่า ทำเลเดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า มีจุดเด่นที่ฟังก์ชันห้องชุดเป็นแบบเพดานสูง ส่วนกลางครบในราคาที่จับต้องได้
โดยโครงการล่าสุด ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ อี 22 สเตชั่น (Origin Plug & Play E22 Station) คอนโดฯระดับ Mid – High End สร้างเสร็จพร้อมอยู่และสามารถเลี้ยงสัตว์ใด้ อาคารสูง 25 ชั้น จำนวน 1,044 ยูนิตและร้านค้า 1 ยูนิต รูปแบบห้องชุดเป็นห้องเพดานสูง 4.2 เมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 22 – 34.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* โดยได้แบ่งพื้นที่ชั้น 9 ถึงชั้น 14 สำหรับยูนิตที่เลี้ยงสัตว์ได้ พร้อมแยกส่วนล็อบบี้และแยกการใช้ลิฟต์ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมี Pet Zone อยู่ที่ชั้น 9 ประกอบด้วย cat room (ห้องสำหรับแมว) และ dog room (ห้องสำหรับสุนัข) ที่แยกออกจากกัน