บริษัท วิมานสุริยา จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง กลุ่มดุสิตธานี และกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ผู้พัฒนา Dusit Central Park และผู้พัฒนา The Residences at Dusit Central Park เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่แห่งการใช้ชีวิตด้วยแนวคิด Well-being ด้วยการเป็นโครงการแรกของอาเซียนที่รองรับมาตรฐานระดับโลก LEED Gold v4.1 Residence Multi-Family ควบคู่กับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยกระดับสู่การเป็นแลนด์มาร์คระดับโลก
ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาการโครงการ Dusit Central Park มุ่งยกระดับมาตรฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้แกนความคิด “Sustainability Development” บนพื้นที่ Super Core CBD ที่เชื่อมต่อย่านธุรกิจและแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ มากมาย โดยเฉพาะ The Residences at Dusit Central Park ที่ยกระดับบรรทัดฐานใหม่สำหรับที่พักอาศัยที่ดำเนินการพัฒนาตามมาตรฐานสูงสุดอย่าง LEED Gold v4.1 Residence Multi-Family เพื่อให้ผู้พักอาศัยมั่นใจได้ถึงคุณภาพชีวิตที่ดีแบบองค์รวม ทั้งด้านการออกแบบที่สวยงาม การเลือกใช้วัสดุและองค์ประกอบคุณภาพสูง ตลอดจนพื้นที่สีเขียวที่สร้างขึ้นด้วยความใส่ใจในสุขภาพของผู้พักอาศัย ในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดการปล่อยน้ำเสียและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
The Residences at Dusit Central Park ได้รับการออกแบบมาอย่างรอบคอบ พร้อมยกระดับมาตรฐานที่พักอาศัยทั้งด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตท่ามกลางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี ทำเลบน Super Core CBD ถนนพระราม 4 – สีลม เชื่อมต่อทั้งย่านธุรกิจ แหล่งไลฟ์สไตล์ และระบบขนส่งมวลชน BTS สถานีศาลาแดง และ MRT สถานีสีลม เพื่อเพิ่มตัวเลือกในการเดินทางและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม การก่อสร้างคำนึงถึงความสะอาดเพื่อลดฝุ่นและเสียง เลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน ปลอดภัยต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ออกแบบเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า มีระบบ Water Treatment การจัดการขยะอย่างเป็นระบบ และนำนวัตกรรมพลังงานทางเลือกมาใช้ ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพอากาศและแสงสว่างภายในอาคาร เพื่อให้อาคารลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง ครอบคลุมทุกมิติอย่างยั่งยืน
“จากการเริ่มต้นการออกแบบ การวางแผนก่อสร้าง และการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ภายในโครงการ Dusit Central Park และอาคารที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park สามารถลดการใช้ทรัพยากรระหว่างการก่อสร้าง โดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรีไซเคิลวัสดุก่อสร้าง ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำ พร้อมสร้างออกซิเจนคืนสู่ระบบนิเวศและสังคมเมือง ส่งผลให้อาคารลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ “
โดยเกณฑ์และข้อกำหนดของ LEED Gold v4.1 Residence Multi-Family มาเป็นบรรทัดฐานในการพัฒนาโครงการฯ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของอาเซียนและเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย โดยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เสริมสุขภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย โดยมีเกณฑ์สำคัญใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1.ด้านคุณภาพอากาศ ด้วยการใช้มาตรฐานการกรองอากาศ MERV 6 ที่จะช่วยลดฝุ่น 5 และมลภาวะภายในที่พักอาศัย และการเลือกใช้ระบบมอนิเตอร์คุณภาพอากาศแบบ Real Time ทั้งในลิฟต์และห้องพักอาศัย 2.ความสะอาด การวางระบบป้องกันน้ำรั่วซึม รวมถึงการเลือกวัสดุที่ช่วยป้องกันเชื้อราและความชื้น 3.ความเป็นส่วนตัว การใช้ประตูทางเข้าที่พักอาศัยและหน้าต่างที่ช่วยป้องกันและลดเสียงรบกวน และ 4.ความสบายในการพักอาศัย: ออกแบบอาคารให้สามารถรับลมและแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ในทุกห้องเพื่อให้อากาศถ่ายเทและหมุนเวียนได้ดี ลดและป้องกันความร้อนภายในอาคารด้วย Fin และ Façade นอกจากนี้ โครงการยังเสริมสุขภาพกายและใจผ่าน Residents’ Private Garden พื้นที่สีเขียวร่มรื่นที่เชื่อมต่อกับสวนลอยฟ้าดุสิตอรุณ ภายในโครงการ และออกแบบทุกยูนิตให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ทั้ง Dusit Residences สไตล์ Classic Luxury และ Dusit Parkside สไตล์ Lifestyle Luxury รวมถึงเพนท์เฮ้าส์บนชั้นสูงสุดที่มอบประสบการณ์อยู่อาศัยเหนือระดับ