ศุภาลัยเปิดขายคอนโดฯไซต์ใหญ่เริ่มต้น 35 ตร.ม.ราคาเฉลี่ย 7.7.แสนบาทแบรนด์”พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่”เกาะแนวMRTสายสีม่วงใต้

ศุภาลัยลุยหนักไตรมาส 4เปิด 8โครงการใหม่ มูลค่า 14,000 ล้านบาท เป็นบ้านแนวราบ 6โครงการทั้งในกรุงเทพ-ปริมลฑลและต่างจังหวัด คอนโดฯ 2 โครงการ กลางเดือนตุลาคมเปิดคอนโดฯใหม่บนทำเลฝั่งธนบุรี “ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน–วงเวียนใหญ่” จับจังหวะสร้างเสร็จพร้อมโอนเสร็จทันกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ที่เปิดให้บริการปี 2572 เน้นเจาะตลาด  Affordable เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท รองรับกลุ่มพนักงานและบุคลากรทางการแพทย์

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส4บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 8โครงการ มูลค่า 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนวราบ6โครงการ อยู่ในกรุงเทพ-ปริมลฑล 3 โครงการ โดยจะมีบ้านหรูแบรนด์ใหม่ ศุภาลัย มณฑลา ราคาเริ่มต้น7ล้านตั้งอยู่บนถนนพุทธมฑลสาย 4 ส่วนอีก3โครงการตั้งอยู่ในต่างจังหวัด ขณะที่คอนโดมิเนียม   มี3โครงการ โดยในช่วงวันที่ 18-19จุลาคมนี้จะเปิดตัวโครงการศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน–วงเวียนใหญ่ มูลค่าโครงการ 2,650 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงข่ายการเดินทางสำคัญของของฝั่งธนบุรี ตั้งอยู่ใกล้ MRT สายสีม่วงใต้ (เตาปูน–ราษฎร์บูรณะ) สถานีรพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ในระยะเพียง 350 เมตร ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดเปิดใช้งานในปี 2572 สอดคล้องกับกำหนดแล้วเสร็จของโครงการที่จะเริ่มลงมือก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้  หลังจากได้ผ่านการรายงานผลกระกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

ปัจจัยหลักที่ทำให้ทำเลนี้มีความน่าสนใจด้านอสังหาฯมาจากปัจจัยสำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการคมนาคมขนส่งและความสะดวกในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ซึ่งปัจจุบันมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ข้ามจากตากสินมาถึงบางหว้าอยู่แล้ว และมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่แล้ว ทำให้สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวกมาก และอนาคตที่กำลังจะมาถึงจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน–ราษฎร์บูรณะ) กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จใกล้เคียงกับการสร้างโครงการใหม่ ๆ ในพื้นที่ ทำให้การเชื่อมต่อในยานนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก และเป็นหนึ่งในสายที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลักอื่น ๆ ที่ตัดผ่านกลางกรุงเทพฯ เช่น สายสีเขียว, สายสีน้ำเงิน และสายสีส้ม โดยเดินทางไปถึงไอคอนสยามเพียง 2 สถานี, ย่านช่องนนทรีเพียง 5 สถานี และไปวัดมังกรเพียง 4 สถานี

แม้การเดินทางจากที่ตั้งโครงการเข้าสู่ย่านสาธรได้อย่างสะดวก แต่ราคาอสังหาฯในทำเลนี้ถือว่าต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับย่านสาธรที่มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 แสนบาทต่อตารางเมตร แต่ย่านตากสินมีราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ในช่วง 1.8 แสนบาทถึง2 แสนบาทกลาง ๆ ทำให้ทำเลนี้มีประสิทธิภาพด้านราคา (price performance) ที่ดีกว่า

ขณะที่ราคาที่ดินในทำเลนี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ช่วงที่รถไฟฟ้าเริ่มข้ามมาฝั่งธนบุรี โดยเมื่อช่วงปลายปี 2556 – 2557ที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวเปิดให้บริการข้ามมาฝั่งบางหว้าในช่วงแรก ๆ ราคาที่ดินยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 160,000 บาทต่อตารางวา และช่วงที่มีการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นและคนเริ่มคุ้นเคยกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ราคาที่ดินเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 240,000 ถึง 290,000 บาทต่อตารางวา  และตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ราคาที่ดินสูงขึ้นมาก ราคาสูงสุดเคยไปถึงประมาณ 290,000 ถึง 300,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถหาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการในราคาที่น่าสนใจได้ จึงทำให้มีซัพพลายใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยลง จากเดิมที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่เฉลี่ย 2,300 ยูนิตต่อปี แต่ในช่วงปี 22567 เหลือเพียง 911 ยูนิตต่อปี

ส่งผลให้สัดส่วนของคอนโดมิเนียมในระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทลดลงอย่างมากจากเดิมมีสัดส่วน 48% ลดลงเหลือเพียง 11% ของจำนวนที่เปิดตัวทั้งหมด ทั้งที่ลูกค้าระดับนี้ยังคงมีความต้องการซื้อที่พักอาศัยในทำเลที่เดินทางสะดวกในย่านนี้ ปัจจุบันราคาที่ดินได้กลับมาอยู่ในที่จุดหนึ่ง โดยราคาที่ดินแปลงที่นำมาพัฒนาโครงการศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน–วงเวียนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 260,000 บาทต่อตารางวาเท่านั้น ทำให้บริษัทสามารถพัฒนาห้องชุดในระดับราคาเริ่มต้น 2ล้านกว่าบาทออกมาขายได้ในสเปคระดับพรีเมียร์ที่ไม่มีการลดสเปคเพื่อลดราคาให้ต่ำลงขณะเดียวกันบริษัทได้ตัดแบ่งแปลงที่ดินส่วนที่ใช้ทำสำนักงานขายออกจากที่ดินโครงการหลักโดยสิ้นเชิง ทำให้ต้นทุนที่ดินที่นำมาคำนวณในตัวโครงการลดลงเป็นหลักพันบาทต่อตารางเมตรสำหรับทุกยูนิต ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อห้องชุดได้ในราคาที่ถูกลง

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการมีความหลากหลาย โดยส่วนใหญ่คือกลุ่มคนซื้อที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงย่านธุรกิจในราคาที่คุ้มค่า ทั้งพนักงานบริษัทโดยเฉพาะพนักงานบริษัทระดับกลาง ที่ต้องการที่พักอาศัยที่มีรถไฟฟ้าให้บริการ เดินทางเข้าย่านสาธรหรือใจกลางเมือง ได้สะดวก กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากทำเลนี้เชื่อมต่อกับโรงพยาบาลศิริราชได้ใน 6 สถานี และมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่อยู่ใกล้เคียงอยู่แล้ว กลุ่มเจ้าของกิจการ รวมถึงผู้ประกอบการที่ทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง และผู้อยู่อาศัยเดิมในทำเล ที่ต้องการอัปเกรดหรือขยายพื้นที่ใช้สอยให้ใหญ่ขึ้น เช่น จากดิม 1 ห้องนอนเป็น 1 Bedroom Plus หรือ 2-3 Bedroom เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยเดิมเริ่มไม่พอ

หากพิจารณาภาพรวมตลาดคอนโดฯช่วงปี 2567 เฉพาะเขตคลองสานซึ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน พบว่าอัตราการดูดซับ (Absorption Rate) ยังคงสูงเกินกว่ามาตรฐานตลาดโดยรวม สะท้อนถึงความต้องการแท้จริงที่ยังคงอยู่ ขณะที่ซัพพลายในโซนนี้กลับมีจำกัด โดยเฉพาะคอนโดฯระดับกลางบน ที่เน้นยูนิตขนาดเล็กแบบ Studio-1 Bedroom ส่วนราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่กระโดดไปแตะที่ระดับ 106,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารต้นทุน ทั้งด้านราคาที่ดินและค่าก่อสร้างทำให้ ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน–วงเวียนใหญ่ สามารถเปิดขายในราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 77,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งในพื้นที่อย่างมีนัยสำคัญ

ชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน–วงเวียนใหญ่ ออกแบบด้วยแนวคิด ‘ชีวิตที่มีคลาส ที่นี่มีให้ครบ’ ทั้งในแง่ของความงดงามของสถาปัตยกรรม และฟังก์ชันที่ออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตจริง โดยวางผังอาคารเป็นรูปตัว L ทำหน้าที่ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดในช่วงบ่าย และเปิดรับลมธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลาง การออกแบบอาคารเน้นแบบ Modern Classic ผสมผสานเส้นสายที่สมดุลเข้ากับองค์ประกอบสไตล์หรูหรา อาทิ ซุ้มโค้ง ช่องแสงขนาดใหญ่ บัวผนัง และพื้นผิววัสดุในโทนสีสุภาพเรียบหรู เพื่อให้สอดคล้องกับแบรนด์และภาพลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย

โดยตัวอาคารมีความสูง 38 ชั้น จำนวน 830 ยูนิต ขนาดห้องชุดหลากหลายตั้งแต่ 1-4 Bedroom พร้อมห้องแบบ One Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 35-190 ตารางเมตร ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 77,000 บาท เริ่มต้นที่ 2.19-18 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติมเต็มช่องว่างในตลาดที่ขาดหายไปนานและเป็นราคาเฉลี่ยที่ต่ำกว่าคู่แข่งทุกรายในทำเลเดียวกัน โดยโครงการที่อยู่ลึกเข้าไปในซอยยังมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 บาทต่อตารางเมตรหรือมากกว่านั้น ขณะที่โครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่าราคาขายอยู่ที่ประมาณ 120,000 บาทต่อตารางเมตร

โดดเด่นด้วยแปลนและฟังก์ชันของห้องพักที่ถูกออกแบบตามทิศทางแสงและลม อาทิ ห้องชุดในฝั่งทิศเหนือ–ตะวันออก จะได้รับแสงอ่อน ไม่ร้อน เหมาะกับผู้ที่ใช้ชีวิตในห้องเป็นหลัก เน้นฟังก์ชันยืดหยุ่น แบ่งสัดส่วนใช้งานได้หลากหลายโดยไม่เน้นครัวหนัก ส่วนยูนิตทิศตะวันตกวางครัวติดผนังนอก ระบายอากาศดี พร้อมห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่แต่งตัวชัดเจน และห้องนั่งเล่นรับแสงเต็มวัน  พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ พรีเมียม อาทิ Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศ 1 Way Cassette Type ที่มาพร้อม PM 1.0 Filter ช่วยกรองฝุ่นละเอียดและเชื้อโรค,ห้องครัว Smart Kitchen พร้อม Hob & Hood ด้านสุขภัณฑ์เลือกใช้แบบ Comfort Clean ที่สามารถยับยั้งเชื้อ E.coli และแบคทีเรียชนิดอื่นๆ ช่วยเสริมสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย

โพสที่เกี่ยวข้อง