บริษัทปรีดา เรียล เอสเตท จำกัด ของ3พี่น้องตระกูล”ปรีดานนท์” ที่สืบทอดธุรกิจของรอบครัวมายาวนานถึง 63 ปีภายใต้ปรีดา ปรุ๊ป โดยได้เริ่มสร้างแบรนด์คอนโดฯของตัวเองครั้งแรกภายใต้แบรนด์ “บ้านสามเสน” ก่อนจะมาปลุกปั้นคอนโดฯแบรนด์ “Grene” อย่างจริงจังครั้งแรกเมื่อปี 2551 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแบรนด์ของตนเอง

โดยคอนโดฯโครงการแรกภายใต้แบรนด์ “Grene” ชื่อว่า กรีเน่ คอนโด สุทธิสาร ตั้งอยู่ในย่านสุทธิสาร ใกล้ซอย 22  มิถุนา บนพื้นที่ 1 ไร่ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 128 ยูนิต มูลค่าโครงการ 280 ล้านบาท เน้นสร้างความแตกต่างด้วยการนำสระว่ายน้ำไปไว้บนดาดฟ้า

ส่วนโครงการที่ 2 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ติดถนนแจ้งวัฒนะ และใกล้ถนนประชาชื่น ชื่อว่า กรีเน่ คอนโด แจ้งวัฒนะ ออกแบบเป็นตึกสูง 22 ชั้นมี 376 ยูนิต ราคาขาย 55,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งถูกกว่าผู้พัฒนารายใหญ่ที่มาเปิดตัวในพื้นที่ใกล้เคียงกันที่ขายในราคา 65,000 บาทต่อตารางเมตร โดยโครงการได้รับอานิสงส์จากวิกฤตเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 แต่ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านปากเกร็ดที่น้ำไม่ท่วม ทำให้สามารถปิดการขายโครงการได้ภายในปี 2557

ปิติพัฒน์ ปรีดานนท์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทปรีดา เรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า หลังจากโครงการที่2 ประสบความสำเร็จด้านการขายด้วยการปิดการขายไปเมื่อช่วงปี 2557 ทำให้แบรนด์กรีเน่ได้รับการยอมรับการกลุ่มคนซื้อคอนโดฯมากขึ้น โดยเปรียบเทียบแบรนด์ DNAของ Grene มีความคล้ายคลึงกับแบรนด์ Isuzu ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง (affordable),มีความแข็งแกร่งทนทานและมีคุณภาพ ทำให้บริษัทได้มองหาที่ดินแปลงใหม่ เพื่อเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม จนได้ที่ซื้อที่ดินแปลงใหญ่ถึง 17 ไร่ในย่านสรงประภา เดิมวางแผนจะพัฒนาเป็นบ้านแนวราบในรูปแบบทาวน์โฮม มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ได้ปรับเปลี่ยนเป็นสินค้าคอนโดฯแทน ใช้ชื่อโครงการว่ากรีเน่ ดอนเมือง-สรงประภา มูลค่าโครงการ 2,864 ล้านบาท จำนวน 1,456 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่มากสำหรับบริษัทที่ไม่ได้เป็นบริษัทเป็นมหาชน

พร้อมสร้างความแตกต่างของวัสดุที่พรีเมียมขึ้น ทำเลที่ตั้งติดถนนใหญ่มากขึ้น และมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ตั้งอยู่ในโครงการด้วย เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ทำเลที่เป็นศูนย์กลางการจ้างงานขนาดใหญ่ เช่น สนามบินดอนเมือง, AOT, ศูนย์ราชการ, และพื้นที่เขตทหาร นอกจากนี้ยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีแดงประมาณ2 กิโลเมตร

โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็นเฟสทั้งหมด 3เฟส และแบ่งที่ดินออกเป็น 4 โฉนด โดยให้โฉนดที่ 4 (ถนนตรงกลาง) เป็นของเจ้าของร่วมในคอนโดฯ พร้อมเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ประมาณ 4 ไร่ตั้งอยู่ในเฟส 1 และ 2 รวมกัน มีอัตราส่วนพื้นที่ก่อสร้างต่อพื้นที่ดินเพียง 1:2 ในขณะที่ทำเลในย่านนั้นสามารถทำได้ถึง 1:3 ทำให้โครงการไม่แออัด

เฟสแรกใช้ชื่อโครงการว่า กรีเน่ ดอนเมือง-สรงประภา เดอะ มัลดีฟ เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2562 แต่สามารถขายได้หมดอย่างรวดเร็วทั้งที่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ มีพื้นที่โครงการรวมกว่า 5 ไร่ จำนวนยูนิตทั้งหมด 568 ยูนิต มูลค่าโครงการ 958 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าหลักของเฟส 1 เกือบ 90% คือ บุคลากรสายการบิน เช่น แอร์โฮสเตส, กัปตัน, และพนักงานใน AOT (Airport of Thailand) เนื่องจากมีการขยายเฟส 3 ของดอนเมืองในช่วงปี 2561-2562

ส่วนเฟส 2 กรีเน่  ดอนเมือง-สรงประภา เดอะ ไมอามี่ เดิมโครงการนี้ได้ปิดการขายไปแล้วช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เมื่อโครงสร้างสร้างเสร็จและโอนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีลูกค้าจำนวนหนึ่งยื่นกู้ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินไม่ผ่าน เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักเป็นนักลงทุน, ผู้ที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้วที่ต้องการขยายครอบครัว,ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวและออนไลน์ ทำให้มีห้องชุดหลุดดาวน์จำนวนหนึ่งนำกลับมาขายใหม่ ปัจจุบันโครงการทำยอดขายได้แล้ว 90%

ล่าสุดโครงการอยู่ระหว่างการขายคอนโดฯพร้อมอยู่เฟส 3 “กรีเน่ ไพร์ม เดอะ ซานโตรินี ที่มีการยกระดับวัสดุให้พรีเมียมขึ้น เช่น ใช้หินอ่อนสำหรับสระว่ายน้ำ รวมถึงมีห้องจัดเลี้ยง ห้องทำงาน (working space) และห้องออกกำลังกายแบบ Double volumeพร้อมนวัตกรรมด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ มีการติดตั้ง AC และ DC Fast Charger (120 kW) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่คอนโดฯในพื้นที่ใกล้เคียงยังไม่มี และใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ (LPR) ในการเข้าออก

เจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงานและเริ่มสร้างครอบครัว เหมาะทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือซื้อเพื่อการลงทุน ปัจจุบันมีลูกค้าเข้าอยู่อาศัยแล้ว 60%  ล่าสุดได้จัดโปรโมชันคอนโดฯแต่งครบ พร้อมผู้เช่า รับผลตอบแทนสูงสุด 6% ต่อปี สำหรับปีแรก* ราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท ฟรีค่าส่วนกลางนาน 1 ปีและฟรีทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอน* สำหรับลูกค้าที่จองวันนี้ จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2568 เท่านั้น

ปิยะฉัตร ปรีดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทปรีดา เรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า โครงการ Grene Prime เดอะ ซานโตรินี  ออกแบบภายใต้แนวคิด LIFE IN BALANCE กับบรรยากาศของเกาะซานโตรินี สถาปัตยกรรมมีความโดนเด่นเป็นเอกลักษณ์แห่งทะเลอีเจียน  พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่สไตล์รีสอร์ท ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 4 ไร่ ติดถนนสรงประภา เป็นคอนโดโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้องชุดรวม 344 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เริ่มต้น 31-39 ตารางเมตร มีรูปแบบห้องพักอาศัยให้เลือก 2 แบบคือ 1 Bedroom ขนาด 30.31-35.50 ตาราเมตร และ 1 Bedroom Plus ขนาด 37.98-39.36 ตารางเมตร

ภายในห้องชุดตกแต่งครบแบบ Fully Furnished โดย SB Design เฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวสูงสุดจำนวน 13 ชิ้น พร้อมชุดครัวครบชุด (Hob, Hood, Sink), แอร์ Wall Type และ Digital Door Lock ออกแบบพื้นที่ให้ใช้งานได้จริง มีมุมเก็บของ รองรับทั้งการอยู่อาศัยคนเดียวและแบบครอบครัว

พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ในบรรยากาศแบบซานโตรินี ด้วย The Santorini Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมกับน้ำตกจากุซซี่, Beach Lounge Area, Seaside Terrace, Santoria Pavilion สำหรับนั่งเล่น, Kids Pool & Playground, Fitness Center, Yoga Studio, Social Lounge  Co-working Space, Meeting Pods และ Townhall, ห้องซาวน่า, Jogging Track รอบโครงการ และ 7-ELEVEN ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนกลางของโครงการ กล้องวงจรปิด CCTV, ระบบ Smart Barrier Gate, ระบบผ่านเข้า-ออกอาคาร Key Card Access, ระบบรักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และที่จอดรถ 36% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)