Happitat อาณาจักรความสุขแห่งใหม่ บนทำเลบางนา-ตราด พร้อมเปิดบริการ เม.ย. 2569

จุดหมายแห่งความสุขเหนือจินตนาการ ที่จะกลายเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ย่านบางนา-ตราด ซึ่งเป็นโครงการในเครือบริษัท แอ็กซ์ตร้า แฮปปี้แทท แนวคิดการสร้าง New Destination Paradigm การพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทาง ซึ่งธรรมชาติ ผู้คน และจินตนาการหลอมรวมอย่างลงตัว เกิดเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ การพักผ่อน การสร้างสรรค์ และการเฉลิมฉลอง ศูนย์กลางกิจกรรมสำหรับครอบครัว อาคารสำนักงานระดับพรีเมียม ถือเป็น Destination ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ทั้งด้านธุรกิจและที่อยู่อาศัย พร้อมด้วยศักยภาพทำเลที่เชื่อมต่อศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยงบลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท พร้อมเปิดบริการ เมษายน 2569 นี้

สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าปลีก และประธานคณะผู้บริหารกลุ่มสายงานบริหารพื้นที่ศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง การเข้าลงทุนพัฒนาโครงการ Happitat (แฮปปี้แทท) ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท เพื่อสร้างจุดหมาย หรือ Destination แห่งความสุข แห่งใหม่ ให้กับประเทศไทย จะเป็น The Magical Destination of Happiness ของครอบครัวและคอมมูนิตี้ของบางนา ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปค่อนข้างมาก และมีผู้เช่าแล้วกว่า 85% พร้อมเปิดให้บริการ เมษายน 2569 นี้

โดยทำเลบางนา กำลังกลายเป็นย่านศักยภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ด้วยประชากรกว่า 1.19 ล้านคน รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน ทั้งทางด่วน รถไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ทำให้บางนาเป็นศูนย์กลางของที่อยู่อาศัยและฮับเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ และประตูสำคัญสู่ภาคตะวันออก เป็น Destination ที่ดี ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้คน แต่ยังเชื่อมโยงเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และคุณภาพชีวิตเข้าด้วยกัน ดังเช่นการพัฒนาเมืองระดับโลก และย่านบางนา ก็กำลังอยู่บนเส้นทางเดียวกันในทุกวันนี้

จึงได้สร้าง New S-curve ของธุรกิจรีเทล ด้วยโครงการ Happitat ที่มีเป้าหมายในการสร้างมิติแห่งความสุขใหม่ให้กับชุมชน (Smart & Happy Community Center) มุ่งสู่การเป็น Destination แห่งอนาคต ที่ตอบโจทย์ชีวิตผู้คน ทั้งในมิติของความสุข ความสัมพันธ์ และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เพื่อสร้างความสุขอย่างถาวร นอกจากนี้ เรายังจะใช้ความเชี่ยวชาญด้านไฮเปอร์มาร์เก็ตอันดับหนึ่งของประเทศ คัดสรรสินค้าที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค พร้อมเตรียมเปิดตัวศูนย์รวมสินค้าคุณภาพรูปแบบใหม่ที่คัดสรรจากแหล่งผลิตชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

“เราตัดสินใจเปิดตัว Happitat ในช่วงเมษายน 2569 ซึ่งเป็นช่วงที่จังหวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ซึ่งเชื่อมั่นว่าเป็นช่วงเวลาที่คนไทยต้องการสิ่งใหม่ ที่เป็นทั้งรูปแบบและมิติใหม่ เพราะโครงการลงทุนแล้วต้นทุนดอกเบี้ยเดินแล้ว ดังนั้นการเปิดให้บริการได้เร็วที่สุดจะเป็นผลดีกว่าการรอไปเรื่อยๆ และหวังว่าจะเป็น Destination ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้กับประเทศ” สมพงษ์ กล่าว

สิทธิ์ อุดมกิจโชติ ผู้อำนวยการใหญ่ โครงการ Happitat เปิดเผยถึงการพัฒนาโครงการ Happitat โดยมีที่มาจากคำสำคัญ 2 คำ คือ Happiness และ Habitat ออกแบบให้แต่ละชั้นมีดีไซน์ที่แตกต่างกัน ตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการรวมไม่ต่ำกว่า 19 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นกลุ่มครอบครัว 60% กลุ่มวัยทำงาน 30% และกลุ่ม Active YOLD 10% มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2 แสน ตร.ม. ประกอบด้วยอาคารหลัก 3 อาคาร

1. อาคารบลูมมินัส (Bloominas – A Premium Community of Lifestyle) คอมมูนิตี้และไลฟ์สไตล์แห่งความสุขด้วยร้านค้า ร้านอาหารในคอนเซ็ปต์พิเศษ ฯลฯ ศูนย์รวมสินค้าคุณภาพรูปแบบใหม่ที่คัดสรรจากแหล่งผลิตชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

  • แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ / ร้านอาหารและคาเฟ่ ตั้งแต่สวนลอยฟ้า (Pocket Garden) ไปจนถึงรูฟท็อปเรสเตอรองท์ (Rooftop Restaurant)
  • สุขภาพและเวลเนส ตอบโจทย์คนรักสุขภาพและใส่ใจดูแลตัวเอง ด้วย Wellbe Fitness จากต่างประเทศเปิดตัวครั้งแรกในไทย พร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ด้านการดูแลสุขภาพเพื่อทั้งครอบครัว
  • Grand Stairs Digital Screen: จอดิจิทัลขนาดใหญ่ที่นำเสนอคอนเทนต์ระดับโลก และประสบการณ์ Immersive (World Class Immersive Content)

2. อาคารวันเดอร์ไวลด์ (Wonderwild – Places for Families) ‘ศูนย์กลางกิจกรรมสำหรับครอบครัว’ รวบรวมพื้นที่เสริมทักษะสำหรับเด็ก เวิร์กชอปสร้างสรรค์ อาคารสำนักงาน และ Lotus’s Eatery ความโดดเด่นของอาคาร อาทิ

  • Whimsical Market แลนด์มาร์กแฟนตาซีแห่งความสุข โดดเด่นด้วยต้นไม้ความสูงเท่าตึก 3 ชั้น เต็มไปด้วยแสง สี เสียง และประติมากรรมที่เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในธีมพาร์ค
  • Daily Delicious มิชลินฟู้ดฮอลล์ที่คัดสรรร้านอาหาร เสิร์ฟความอร่อยให้กับทุกเจเนอเรชัน
  • Family Play Time สนามเด็กเล่นลอยฟ้า พื้นที่กิจกรรมสร้างสรรค์ออกแบบมาเพื่อช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัว
  • Edutainment Zone ศูนย์รวมกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใหญ่และดีที่สุดในบางนา ครอบคลุมเวิร์กชอป คอร์สเสริมทักษะ และกิจกรรมที่ออกแบบให้เด็กและผู้ใหญ่สามารถเรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งในห้องเรียนและกลางธรรมชาติ
  • เดอะ ฮิลล์ท็อป ออฟฟิศ (The Hilltop Offices – Premium Office with Nature View) พื้นที่สำนักงานจำนวน 10 ชั้น (ชั้น 6–15) ออกแบบตามมาตรฐานการดีไซน์ระดับโลก โดยคำนึงถึงทั้ง ความสุขในการทำงาน และ การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและผืนป่า รองรับมาตรฐานสากล LEED Gold และ WELL Gold

3. อาคารเฟสตี้ ทาวน์ (Festie Town – Happening Space for All) ศูนย์กลางแห่งความสนุกสนานและการเฉลิมฉลอง เพียบพร้อมด้วยอีเวนต์ การแสดง ศูนย์กลางแสดง และโชว์สุดตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งปี มอบประสบการณ์พิเศษ ให้ทุกๆวันเหมือนอยู่ในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ด้วยการออกแบบพื้นที่เป็น Semi-Outdoor เปิดรับแสงธรรมชาติ โดดเด่นด้วยร้านค้าแบบ Duplex และ Triplex พร้อมรองรับการทำ Flagship Store เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ ไฮไลต์อาคารได้แก่

  • ลูมิส เธียเตอร์ ฮอลล์ (Lumis Theater Hall) ฮอลล์ขนาดความจุ 400 คน เป็นโรงละครเพื่อการแสดง โชว์ต่างๆ และเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในการจัดอีเวนต์ กิจกรรม งานประชุม งานสัมมนา และงานแสดงสินค้า หรือจัดงานเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ
  • ร้านค้าที่มาในคอนเซ็ปต์ที่มีอัตลักษณ์พิเศษ อาทิ ร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ คาเฟ่ ร้านอาหารแบบ Quick dine-in และ Rooftop Urban Farm
  • Lotus’s Privé ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ 7-11
  • Pet Destination พร้อมศูนย์ดูแลสุขภาพและสินค้าพรีเมียมสำหรับสัตว์เลี้ยงครบวงจร

นอกจากการเป็น The Magical Destination of Happiness ที่ทุกองค์ประกอบตั้งใจสร้างประสบการณ์สำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัย การออกแบบกิจกรรมที่นี่จะเป็นแบบ ‘Together Activities’ ที่ทุกคนในครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันได้ ยิ่งไปกว่านั้น ความสนุกและน่าตื่นเต้นยังไม่ได้หยุดอยู่ที่ Physical Layer เท่านั้น Happitat ยังเอามิติของความสุขและความตื่นตาตื่นใจที่หลากหลาย (Multi-layer of Happiness) รวมเข้าไว้ด้วย เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ทั้งในโลกจริง และโลกเสมือนจริง ผ่านประสบการณ์ Phygital Gamification ทั้ง Augmented Reality / Virtual Reality และ AI Assistance อีกด้วย

รวมถึงโครงการยังเป็นที่แรกในประเทศไทย ที่มี KPI เป็นความสุขของคนที่มาเยือน โดยมองว่าความสุขไม่ใช่เรื่องนามธรรมเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นสิ่งที่ต้องจับต้องได้ ดังนั้น จึงใช้ Happiness Index ผ่านเทคโนโลยี AI Camera เพื่อวัดรอยยิ้มของผู้มาเยือน ใช้เป็นตัวชี้วัด ทั้งด้านอารมณ์ ความพึงพอใจ ผลตอบรับ และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ต่อยอดให้เป็นประโยชน์ต่อคู่ค้า และลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาบริการและยกระดับ Happitat ให้ส่งมอบความสุขและประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น มาที่ Happitat มหัศจรรย์ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกวัน

โพสที่เกี่ยวข้อง