“เซ็นทรัลกระบี่”มิกซ์ยูสต้นแบบแห่งแรกของจังหวัดมูลค่า 4.5พันล้านเปิดบริการแล้ววันนี้

เซ็นทรัลพัฒนาเปิดตัวมิกซ์ยูสต้นแบบแห่งแรกของจังหวัดและแห่งที่ 6 ในภาคใต้บนพื้นที่รวม 114 ไร่   มูลค่าการลงทุน 4,500 ล้านบาท ประกอบด้วยด้วยศูนย์การค้าลำดับที่ 44 โรงแรม พร้อม 2 โครงการที่อยู่อาศัย Baan Ninya Krabi และ Phyll Krabi ชูศักยภาพกระบี่ในฐานะ ‘Tourism Powerhouse of Andaman’ เมืองท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก เจาะกลุ่มกำลังซื้อสูงในภาคใต้ รวมถึงนักท่องเที่ยวคุณภาพและกลุ่ม Expats & Long-Stay ตั้งเป้าทราฟฟิกกว่า 25,000 คน/วัน

 ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวเซ็นทรัล กระบี่ โครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกของจังหวัดและแห่งที่ 6 ในภาคใต้ ด้วยมูลค่าการลงทุน 4,500 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการรวม 114 ไร่ ประกอบด้วย ศูนย์การค้าลำดับที่ 44 ของเซ็นทรัลพัฒนา พื้นที่ 54 ไร่ พื้นที่อาคารรวม (GBA) 86,609 ตารางเมตร,BAAN NINYA KRABI วิลล่าหรูวิวภูเขา Panoramic View,คอนโดมิเนียมหรูบรรยากาศรีสอร์ตแบรนด์PHYLL และโรงแรม ภายใต้แนวคิด “Made by Krabi”

โดยในส่วนของศูนย์การค้าตั้งเป้าทราฟฟิก 25,000 คนต่อวัน และได้เสริมทัพกว่า 300 แบรนด์ลิสต์ชั้นนำ ครบทุกไลฟ์สไตล์ทั้งกิน ดื่ม ช้อป สุขภาพ และความบันเทิง โดยรวมแบรนด์ยอดนิยมจากกรุงเทพฯ เช่น Souri, Bonchon, Boost Juice, Bearhouse, Adidas, Beautrium, LUSH พร้อมร้านอาหารดังท้องถิ่นและคาเฟ่ชื่อดังของภาคใต้มาไว้ในที่เดียว อาทิ Much & Mellow, ธงทะเลซีฟู้ด, Kopi Tiam, และ Kinlenn Eatery & Play นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ได้แก่ Tops, Auto1, Supersports, B2S, Power Buy

นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกของไทยที่มุ่งสู่การรับรองมาตรฐานสากล EDGE Zero Certification มาตรฐานอาคารสีเขียว ยกระดับจังหวัดกระบี่สู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก สอดรับยุทธศาสตร์จังหวัด “Krabi Prototype” ให้เป็นศูนย์กลาง Sustainable Tourism สร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

กระบี่เป็นหนึ่งในจังหวัดศักยภาพสูงของภาคใต้ เป็น Tourism Powerhouse of Andaman ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 กว่า 91,000 ล้านบาท และติด Top 5 ของประเทศ (ไม่รวมกรุงเทพฯ) โดยคาดว่าปี 2568 รายได้จากการท่องเที่ยวจะเติบโตแตะ 1 แสนล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 6.3 ล้านคนต่อปี โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากยุโรป มาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์

ด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งของจังหวัดอยู่ระหว่างพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการขยายท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ เทอร์มินอลใหม่ ที่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 8 ล้านคนต่อปี โดยล่าสุดมีจำนวนเที่ยวบินในเดือนตุลาคมเฉลี่ย 900 เที่ยว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวไฮซีซั่น โดยเฉพาะในกลุ่มยุโรป สแกนดิเนเวีย อินเดีย ตะวันออกกลางและมาเลเชีย ที่มีการเชื่อมต่อเส้นทางบินใหม่กว่า 40 เที่ยวต่อสัปดาห์ พร้อมด้วยโครงการท่าเรือวงแหวนอันดามัน ที่เชื่อมกระบี่–ภูเก็ต–พังงาเป็น Triangle of Andaman รองรับเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูง สร้าง Seamless Connectivity ครบทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล

ส่วนประชากรในจังหวัดมีกำลังซื้อเติบโตต่อเนื่องจากทั้งคนในพื้นที่ และแรงหนุนของนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยจังหวัดกระบี่มีประชากรประมาณ 480,000 คน แต่อยู่ในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงของภาคใต้ โดยกว่า 70% เป็นคนวัยทำงาน วัยรุ่น และครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีกำลังใช้จ่ายและเปิดรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว นักลงทุนรุ่นใหม่ รวมถึง Expats และ Long-Stay Residents ที่เข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่แข็งแกร่งของจังหวัดกระบี่

โดยข้อมูลจาก The 1 Insight ระบุว่า คนกระบี่ส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง มีการใช้จ่ายสูงสุดเฉลี่ยกว่า 10,000 บาทต่อบิล ในกลุ่มสินค้า Luxury ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยประเทศถึง 2 เท่า และเพิ่มขึ้นกว่า 22% ในช่วง High Season โดยเฉพาะกลุ่มแฟชั่น มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยเกือบ 20,000 บาทต่อบิล สะท้อนถึงศักยภาพของกลุ่มลูกค้าภาคใต้ที่มีกำลังซื้อสูง และมีความพร้อมในการจับจ่ายสินค้าพรีเมียม

กรี เดชชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จังหวัดกระบี่กำลังเปลี่ยนจาก Tourism City สู่ Investment City อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการอยู่อาศัย ขณะที่ราคาที่ดินเฉลี่ยยังอยู่ในระดับ 70,000–75,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งต่ำกว่าเมืองภูเก็ตถึง 2 เท่า จึงมีโอกาสเติบโตระยะยาว และเมื่อรวมกับแรงส่งจากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทำให้ตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะบ้านและคอนโดมิเนียมในทำเลศักยภาพเติบโตต่อเนื่องจากดีมานด์จริงของคนในพื้นที่ นักลงทุนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติกลุ่ม Long-Stay

ดังนั้นเพื่อตอบรับจังหวะการเติบโตดังกล่าว กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาฯจึงได้ต่อยอดสู่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเซ็กเมนต์ Premium ถึง Super Luxury มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ Super Premium ซึ่งกว่า 80% เป็นคนไทย และอีก 20% เป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในประเทศ โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 25–26 ตุลาคมนี้ ประกอบด้วย

โครงการ Baan Ninya Krabi วิลล่าสไตล์ Modern Tropical ผสานความทันสมัยของการอยู่อาศัยกับบรรยากาศธรรมชาติในคอนเซ็ปต์ Urban Forest ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดจำนวน 100 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 48 ไร่ บ้านทุกหลังมาพร้อมวิวภูเขาแบบ Panoramic View พร้อมสระว่ายน้ำ Infinity Edge Lounge และระบบรักษาความปลอดภัย 7 ระดับ ราคา16–25 ล้านบาท*

โครงการ Phyll Krabi ออกแบบภายใต้แนวคิด “FLOW WITH NATURE’S RHYTHM” เชื่อมโยงชีวิตกับธรรมชาติอย่างลงตัว เป็นคอนโด Low-rise 4 ชั้น 5 อาคาร รวม 160 ยูนิต พร้อมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 4 ไร่ ห้องชุดเป็นแบบ Single Corridor ให้ทุกยูนิตมองเห็นวิวภูเขาและมีความเป็นส่วนตัวสูง โดยมีเพียง 8 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ราคา 3.99–10 ล้านบาท

โพสที่เกี่ยวข้อง