ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562  ONCE PATTAYA  โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ เปิดตัวขึ้นบนทำเล Pattaya สาย 3 ด้วยรูปแบบโครงการ Mixed Use สร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดคอนโดฯ พัทยาเป็นอย่างมาก ด้วยรูปแบบโครงการที่มีความน่าสนใจ การออกแบบ Design  ที่หรูหราทันสมัย ซึ่งไม่ Surprise  ครับ  Once Pattaya  ได้กวาดยอดขายอย่างงดงาม ทำให้ผู้พัฒนาโครงการอย่าง Honour Thailand ได้รับคำชมจากทั้งกลุ่มลูกค้าและสื่อต่างๆ ที่ได้มีโอกาสเข้าชมโครงการในวันที่ตึกเปิดตัวอย่างเป็นทางการนี่คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ทำให้  Honour Thailand ไม่รอช้า ที่จะมองโอกาสหาที่ดินแปลงใหม่ที่ Prime กว่าเดิม ซึ่งไม่ง่าย เพราะหลายคนรู้ดีว่า ที่ดินในพัทยาที่สวยๆ ในโซนดีๆ นั้นหาแทบไม่ได้แล้ว  และยิ่งเป็นที่ดินบนทำเลที่ถูกยกย่องว่าเป็น เพชรยอดมงกุฏ ของพัทยาอย่าง ‘วงศ์อมาตย์’  นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย

วงศ์อมาตย์ – พัทยาเหนือ มีความ Elite ที่แตกต่างจากหาดอื่นในพัทยาอย่างสิ้นเชิง ภาพลักษณ์ของ วงศ์อมาตย์ คือ บรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว และเปี่ยมด้วยเอกสิทธิ์  ชายหาดมีความสะอาด และสวยงามกว่าหาดพัทยากลางที่พลุกพล่านจอแจ  หรือหาดจอมเทียนที่เน้นกิจกรรมทางน้ำ และดูไกลจากความเป็นเมืองพัทยา ด้วยเหตุนี้วงศ์อมาตย์จึงเป็นที่ตั้งของโรงแรม 5 ดาว และคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่มาโดยตลอด คุณค่าหลักของวงศ์อมาตย์ คือการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับบน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่แสวงหาความหรูหรา และความสงบอย่างแท้จริง ทำให้วงศ์อมาตย์มีสถานะเทียบเท่ากับย่านที่พักอาศัยสุดหรูของเมืองใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Monaco แห่งกรีซ, นีซ แห่งฝรั่งเศส  ทำให้ ‘วงศ์อมาตย์’ คือย่านที่ Premium ที่สุดของพัทยาในเวลานี้ 

เทศบาลเมืองพัทยา วางแผนพัฒนาเมืองพัทยาจากเมืองท่องเที่ยว  พลิกโฉมสู่มหานครแห่งการลงทุนและการใช้ชีวิตระดับโลก ทำเลที่มูลค่าเติบโตไม่สิ้นสุด พัทยาในปี 2025 ไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยวชายทะเลอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่การเป็น “มหานครแห่งใหม่ของภาคตะวันออก” (New Eastern Metropolis) อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยแรงขับเคลื่อนจากเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เป็นรูปธรรมและใกล้แล้วเสร็จ ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจ และไลฟ์สไตล์ของเมืองถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น การลงทุนในคอนโดมิเนียมที่พัทยาในเวลานี้ โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพสูงอย่าง “วงศ์อมาตย์-พัทยาเหนือ” จึงเปรียบเสมือนการลงทุนในอนาคตที่จับต้องได้และมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด  

ถ้าจะพูดถึงประเด็นเรื่อง EEC  เป็นตัวช่วยผลักดันตลาดอสังหาฯ พัทยา นั่นก็ยังคงเป็นเรื่องจริงแม้ประเด็นนี้จะถูกพูดถึงกันมาหลายปีแล้ว แต่เราเห็นได้ชัดว่า ปัจจุบันมีหลากหลายธุรกิจโดยเฉพาะ Automobile จากจีนได้เข้ามาทำตลาด และก่อตั้งโรงงานในเขตจังหวัดภาคตะวันออกกันมากเลยทีเดียว  แต่อีกจุดเปลี่ยนที่ช่วยกระตุ้นให้ตลาดที่อยู่อาศัยพัทยามีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้นนั้นมาจากการทุ่ม 1.34 ล้านล้านบาทเนรมิต ‘ห้วยใหญ่’ 1.4 หมื่นไร่ เมืองใหม่ EEC ปั้นกรุงเทพฯ แห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ในเขตบางละมุง ที่ห่างไปเพียง 10 กิโลเมตร จากตัวเมืองพัทยาเท่านั้น

การเกิดขึ้นของ “เมืองอัจฉริยะ ศูนย์กลาง EEC  ปั้นเป็นกรุงเทพแห่งที่ 2”  บริเวณห้วยใหญ่ ไม่ใช่เพียงการสร้างเมืองใหม่ แต่คือการวางรากฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคตให้กับภาคตะวันออกทั้งหมด และสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพัทยา นี่ไม่ใช่การสร้างคู่แข่ง แต่คือการสร้าง “เครื่องยนต์ขับเคลื่อนอุปสงค์ (Demand Engine)” ขนาดมหึมา ที่จะส่งผลบวกโดยตรงต่อตลาดคอนโดมิเนียมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  โดยภายในเมืองใหม่ห้วยใหญ่  Smart City  มี 6 กลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่ ธุรกิจสำนักงานภูมิภาค และธุรกิจบริการทางการเงิน ธุรกิจการแพทย์แม่นยำ และการแพทย์เพื่ออนาคตธุรกิจการศึกษา และศูนย์วิจัยพัฒนาระดับนานาชาติ สำหรับธุรกิจเพื่ออนาคต ธุรกิจบริการ เช่น ท่องเที่ยว สันทนาการ กีฬา ธุรกิจบีซีจี และธุรกิจที่อยู่อาศัย และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ผสมผสานหรือมิกซ์ยูส

โดยสามารถวิเคราะห์ผลกระทบเชิงบวก ต่อตลาดที่อยู่อาศัยในพัทยา ได้ 5 มิติหลัก ดังนี้

1. การสร้างอุปสงค์ (Demand) คุณภาพสูงระลอกใหม่
เมืองอัจฉริยะห้วยใหญ่ถูกวางให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจ การเงิน และเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจะดึงดูดประชากรกลุ่มใหม่ที่มีลักษณะเฉพาะเข้ามาในพื้นที่:

• กลุ่มผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญ (Executives & Specialists): ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานในสำนักงานใหญ่, ศูนย์กลางทางการเงิน, และบริษัทเทคโนโลยี
• กลุ่มนักลงทุนและนักธุรกิจ (Investors & Entrepreneurs): ที่เข้ามาแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใน EEC
• กลุ่มบุคลากรทักษะสูง (Skilled Workforce): วิศวกร, โปรแกรมเมอร์, นักวิจัย และบุคลากรทางการแพทย์

ผลกระทบต่อคอนโดพัทยา: ประชากรกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการที่พักอาศัยคุณภาพ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเลือกอาศัยอยู่ “ใน” เมืองใหม่ที่เน้นการทำงาน
พวกเขาจะมองหาทำเลที่ตอบโจทย์ “ไลฟ์สไตล์หลังเลิกงาน” ซึ่งพัทยามีความพร้อมอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งชายหาด ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลชั้นนำ คอนโดมิเนียมในพัทยาจึงกลายเป็น “บ้าน” ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ทำงานในเมืองใหม่ห้วยใหญ่

2. การยกระดับสู่ “ทำเลพักอาศัยระดับภูมิภาค” (Regional Residential Hub)
ที่ผ่านมาพัทยาถูกมองว่าเป็น “เมืองท่องเที่ยว” แต่การมาถึงของเมืองใหม่ EEC จะเปลี่ยนสถานะของพัทยาให้กลายเป็น “เมืองพักอาศัยหลักของภาคตะวันออก”

• Work-Life Integration: แนวคิด “ทำงานในห้วยใหญ่ พักอาศัยในพัทยา” จะกลายเป็นเรื่องปกติ ด้วยระยะทางที่ขับรถเพียง 20-30 นาที ทำให้สามารถแยกโลกของการทำงานที่จริงจังออกจากโลกของการพักผ่อนริมทะเลได้อย่างชัดเจน
• Hub&Spoke Model: พัทยาจะกลายเป็นศูนย์กลาง (Hub) ของการใช้ชีวิต ขณะที่เมืองอัจฉริยะ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และแหลมฉบัง เป็นก้าน (Spoke) ของการทำงาน

3. การเกิด “Zoning Effect” ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
อุปสงค์กลุ่มใหม่จะทำให้ลักษณะเด่นของแต่ละโซนในพัทยามีความชัดเจนและเป็นที่ต้องการมากขึ้น:

• วงศ์อมาตย์ / พัทยาเหนือ: จะกลายเป็นทำเลเนื้อหอมที่สุดสำหรับกลุ่มผู้บริหารระดับสูง และชาวต่างชาติที่ต้องการความหรูหรา ความเป็นส่วนตัว และวิวทะเลที่สวยงามที่สุด ราคาคอนโดฯ ในโซนนี้จะยิ่งถูกผลักดันให้สูงขึ้นจากอุปสงค์คุณภาพ
• จอมเทียน / นาจอมเทียน: จะตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวและผู้ที่ต้องการไลฟ์สไตล์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยชายหาดที่ยาวและบรรยากาศสบายๆ
• พัทยากลาง: จะเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ และนักธุรกิจที่ต้องการความสะดวกสบายในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและแสงสียามค่ำคืน

4. แรงหนุนต่อตลาดเช่าระยะยาว (Long-Term Rental Market)
ตลาดเช่าในพัทยาจะเปลี่ยนโฉมจากเดิมที่พึ่งพานักท่องเที่ยวระยะสั้น ไปสู่ตลาดเช่าระยะยาวที่มีเสถียรภาพสูงขึ้น

• Corporate Leases: บริษัทต่างๆ ที่เข้ามาตั้งในเมืองใหม่ EEC จะมีความต้องการเช่าคอนโดฯ ให้กับพนักงานและผู้บริหารระดับสูง เป็นสัญญาเช่าระยะยาว 1-3 ปี
• อัตราผลตอบแทน (Rental Yield) ที่มั่นคง: นักลงทุนที่ซื้อคอนโดฯ ปล่อยเช่าจะมีความเสี่ยงลดลงจากความผันผวนของฤดูกาลท่องเที่ยว และมีรายได้ค่าเช่าที่สม่ำเสมอจากผู้เช่าคุณภาพ
• ความต้องการเช่าคอนโดขนาดใหญ่: กลุ่มครอบครัวที่ย้ายเข้ามาจะมองหาคอนโดขนาด 2-3 ห้องนอนมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีซัพพลายน้อย

5. การเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ในระยะยาว (Long-Term Asset Value Appreciation)
นี่คือผลกระทบที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุน การเกิดขึ้นของเมืองใหม่เปรียบเสมือนการ “ตอกเสาเข็มเศรษฐกิจ” ให้กับพื้นที่ ซึ่งจะค้ำประกันการเติบโตของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว

• อุปทานที่ดินมีจำกัด: ที่ดินแปลงสวยสำหรับพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยา โดยเฉพาะทำเลติดหาดอย่างวงศ์อมาตย์ มีอยู่อย่างจำกัด เมื่ออุปสงค์คุณภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ที่ดินมีเท่าเดิม ย่อมส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
• ความเชื่อมั่นของนักลงทุน: การลงทุนระดับเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐและเอกชนในเมืองใหม่ เป็นการการันตีอนาคตของพื้นที่ ที่ระดมเม็ดเงินลงทุน มากกว่า 1.34 ล้านล้านบาท  สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ตลาดท่องเที่ยว พัทยา กลับมาเติบโตต่อ หลักจากช่วงโควิด-19 

คาดการณ์ว่าในปี 2025 ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 (ประมาณ 18-20 ล้านคนต่อปี สำหรับชลบุรี โดยมีพัทยาเป็นหัวใจหลัก) แต่มีแนวโน้มที่น่าสนใจดังนี้:

การฟื้นตัวของตลาดจีน: นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมา แต่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ (FIT) และกลุ่มครอบครัวคุณภาพสูงมากขึ้น

การเติบโตของตลาดอินเดีย และตะวันออกกลาง: เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2025

ตลาดยุโรปและอเมริกา: กลับมาอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มที่พักระยะยาว (Long-stay) และ Digital Nomads ที่มองหา Work-Life Balance

นักท่องเที่ยวชาวไทย: ด้วยการเดินทางที่สะดวกขึ้น ทำให้พัทยาเป็น Weekend Getaway ยอดนิยมตลอดทั้งปี สร้างรายได้หมุนเวียนอย่างสม่ำเสมอ

ONCE WONGAMAT  เป็นโครงการที่สานต่อความสำเร็จของแบรนด์ ONCE Condominium ที่ Honour Thailand  ไม่ได้ต้องการให้เป็นแค่โครงการใหม่  แต่ต้องเป็น ICONIC ให้เมืองพัทยา และยกระดับเมืองพัทยาให้กลายเมืองท่องเที่ยว ที่น่าอยู่อาศัย ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของเมืองแห่งแสงสียามค่ำคืนเท่านั้น นี่คือแนวคิดในแบบคนพัทยา ของเจ้าของโครงการที่ไม่ได้มองผลกำไรแค่ในตัวเลข แต่กำไรนั่นหมายถึงความสุข ความสำเร็จที่ได้ช่วยพัฒนาเมืองให้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กันการคว้าที่ดินผืนงามบนทำเลวงศ์อมาตย์ ที่เกือบจะติดวงเวียนปลาโลมา ใกล้ Terminal21 และอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมอย่าง Grande Centre Point Space Pattaya  ซึ่งถ้าจะถามว่าตอนนี้แถวไหนบนพัทยาที่คนนึกถึงที่สุด ก็ต้องบอกว่า ย่านวงเวียนปลาโลมานี่แหละ  เรียกว่าเทียบได้กับโซนชิดลม-หลังสวน-ราชดำริ ที่กรุงเทพฯ เลยทีเดียว และไม่เท่านั้น ทาง Honour Thailand  ยังต้องการพัฒนาทำเลย่านนี้ให้เป็น New Lifestyle Destination  ของทุกคนทุกวัย ด้วยการพัฒนา Community Mall  ใหม่ที่ชื่อ again Pattaya หรือ อเกณฑ์ พัทยา ให้เป็นจุดนัดพบใหม่ ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ชั้นดีมารวมกันไว้ที่นี่ อย่างเช่น Tops Supermarket,Tops Wine Cellar, EI Gaucho , NITAN Nakluea, Beer Hubb  รวมถึง Makkha Health & Spa  เป็นสถานที่ให้ทุกคนได้มาพักผ่อน สังสรรค์ ได้ในทุกๆ วัน ซึ่งถ้ามองภาพใหญ่ของรอบๆ วงเวียนปลาโลมาในตอนนี้ ก็เรียกได้ว่า เป็นโซน Lifestyle แห่งใหม่ของเมืองพัทยาได้เลย

ONCE WONGAMAT ถูกวาง Position ว่าจะต้องเป็น Iconic ใหม่ให้กับเมืองพัทยา  ดังนั้นโครงการจะต้องเป็นที่สุดในทุกๆ รายละเอียด ตั้งแต่ตำแหน่งที่ตั้งที่ดิน ที่บนทำเลวงศ์อมาตย์ โซน 𝐋𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐋𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐃𝐢𝐬𝐭𝐫𝐢𝐜𝐭 ติดกับ again Pattaya, ห่างจาก Terminal 21 เพียง 150 เมตร, ห่างหาดพัทยาเหนือเพียง 590 เมตร  และที่ดินโครงการ เป็นแบบ FreeHold ที่หาได้ยากแล้วในทำเลแบบนี้  ความสูงของ ONCE WONGAMAT ก็เรียกว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในพัทยาเหนือ (ณ ตอนนี้) เลยก็ว่าได้  ตัวอาคารสูง 56 ชั้น ด้วยความสูง 239 เมตร จะทำให้โดดเด่น เห็นได้แต่ไกล สร้างความภาคภูมิใจให้กับเจ้าของผู้ครอบครองที่นี่ แบบตะโกนกันเลยทีเดียว  และเมื่อต้องการเป็นที่สุดการคัดสรร Partner ที่มาร่วมก็ต้องที่สุด Honour Thailand  จึงได้คัดเลือก bouygues-thai (บวิค-ไทย) ผู้รับเหมา ที่มีผลงานก่อสร้างอาคารระดับ ICONIC  มาแล้วอย่าง MAHANAKORN  แน่นอนว่า ผู้รับเหมาชั้นแนวหน้าอย่างนี้ การันตีผลงานได้ สำหรับงานออกแบบสถาปัตยกรรม ก็เลือกใช้  Design 103 International หนึ่งในบริษัทออกแบบชั้นนำ ที่มีผลงานการออกแบบ อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ,โรงแรม Four seasons @Chaopraya River   เรียกได้ว่านี่คือการร่วมมือของทีมผู้พัฒนา นักออกแบบ และ ทีมงานก่อสร้างระดับชั้นแนวหน้า และยังมั่นใจได้อีกเพราะตอนนี้ EIA  ของทาง ONCE WONGAMAT ผ่านและได้เริ่มเดินหน้าการก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

สำหรับห้องพักอาศัย ที่นี่ มีทั้งหมด 548 ยูนิต โดยห้องพักอาศัยจะเน้นพื้นที่ค่อนข้างใหญ่  ห้องเริ่มต้น 1 ห้องนอน ไปจนถึงขนาด Penthouse  โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

• 1 Bedroom               34 ตร.ม.
• 1 Bedroom Veranda   54 ตร.ม.
• 1 Bedroom Corner     56 ตร.ม.

• 2 Bedroom Corner       74 ตร.ม.
• 2 Bedroom                   80  ตร.ม.
• 2 Bedroom Ocean Wongamat 88 ตร.ม.
• 2 Bedroom Ocean Pattaya 90 ตร.ม.

• 3 Bedroom Corner                    123 ตร.ม.
• 3 Bedroom Ocean Wongamat 164 ตร.ม.
• 3 Bedroom Ocean Pattaya 172 ตร.ม.
  
• Penthouse Wongamat bay        386 ตร.ม.
• Penthouse Pattaya bay            414 ตร.ม.
• Penthouse Sea view                461 ตร.ม.
  
• President Penthouse Wongamat bay  354  ตร.ม.
• President Penthouse Pattaya bay      413  ตร.ม.
• President Penthouse Sea view          461 ตร.ม
  

ซึ่งก็เรียกว่าเหมาะสม เพราะอย่างที่บอกคือ ONCE WONGAMAT มอง Target คือ กลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่จริง หรือถ้าจะลงทุนก็จะลงทุนเพื่อปล่อยเช่า กลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ย้ายเข้ามาทำงานพร้อมครอบครัว  หรือชาวต่างชาติที่มีกำลังเช่าสูง การมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเยอะก็จะสามารถปล่อยเช่าได้ง่ายกว่า และทุกห้องได้ความพิเศษคือการออกแบบให้สามารถมองเห็นทะเลได้ตั้งแต่ชั้นเริ่มต้น  ความสูงของห้องก็ให้มากถึง 3 เมตร พร้อมผนังกระจกแบบ Full Height  ช่วยให้ มิติการพักอาศัยในห้อง ดูโปร่งดูโล่งเข้าไปอีก และที่สำคัญคือ ระบบแอร์ โครงการจะรวมคอยน์ร้อน ไปไว้ที่จุด Service รวมของอาคาร ทำให้ไม่เสียพื้นที่ภายในห้อง และที่ไม่เหมือนใคร คือที่หน้าห้องจะมี Uniqueness Cabinet – ตู้รับของส่วนตัวเฉพาะยูนิต ทำให้เมื่อมีเอกสารหรือมีของมาส่ง ก็จะสามารถมาส่งมอบให้เราได้ถึงหน้าห้องนั่นเอง  จุดเล็กๆ น้อยแต่น่าสนใจมาก

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก โครงการมีการวาง Concept เป็น The Forest, The Valley The Beach และ The Ocean สอดรับกับการเป็นโครงการ Sea View ที่ไม่ไกลจากทะเล  โดยมีการจัด Facility ไว้เต็มๆ 8 ชั้น พร้อม Lobby สุดหรูหราอลังการ และยังมีที่จอดรถรองรับไว้มากถึง 43 %  ถือว่าเยอะมากๆ สำหรับคอนโดฯ ในพัทยา

สำหรับ Facility  The Beach  จะเริ่มที่ ชั้น 36 ซึ่งเหมาะกับกลุ่มครอบครัว ที่มีสมาชิกเด็กๆ จะประกอบไปด้วย  Beach pool / Kids pool / Kids room / Game room / Arcade room / Golf simulator / Sauna

และ ชั้น 37  ก็จะมีสวนแบบ Semi-outdoor garden  ห้อง Fitness  และ ห้องดูหนังแบบส่วนตัว

สำหรับ Facility The Ocean จะเริ่มที่ชั้น 50  จะมีสระว่ายน้ำ Ocean pool ซึ่งเป็น Infinity Edge Pool อีก 1 สระ  / Co-Living lounge / Fitness studio Pilates /ห้องแต่งตัว Dressing room  ห้องจัดเลี้ยง Private dining / Steam / Hot & Cold tub 
และชั้น 51 ก็จะเป็นโซนที่ให้ขึ้นมาดูวิวพร้อมห้อง Fitness Studio Yoga / Co-working Space / พร้อมสวนแบบ Semi-outdoor

เมื่อเทียบกับ ยูนิตที่ ประมาณ 500 กว่าๆ ก็ถือว่าให้ Facility มาให้ได้หรูหรา เข้ากับ Super-Luxury Lifestyle มากๆ ความ Rare ที่เป็นเหมือนเพชรยอดมงกุฏระดับนี้ ทั้งทำเลที่ตั้งโครงการของ ONCE WONGAMAT เอง ที่อยู่บนทำเลวงศอมาตย์ ที่หาที่ดินแบบ Freehold ได้ยากมากๆแล้ว  และยังอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับย่าน Lifestyle ใหม่ของพัทยา บริเวณวงเวียนปลาโลมา ที่ล้วนแต่เป็นที่ดินแบบ Leasehold ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ร้านอาหาร และห้าง รวมถึงทาง Honour Thailand  เองก็ยังทุ่มทุนในการพัฒนาที่ดินข้างๆโครงการ ปรับภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยการเปิด again Pattaya ที่เป็น Community Mall ทำให้เพิ่มมูลค่าของโครงการ ONCE WONGAMAT ได้ต่อไปในระยะยาว  เพราะไม่ใช่แค่ซื้อโครงการเพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ที่นี่ จัดได้ว่าเป็นการซื้อสินทรัพย์ในระดับ Investment Grade ที่รอปัจจัยบวกในวันที่แผนโครงสร้างพื้นฐานของพัทยาเสร็จสมบูรณ์ ทั้งภาพใหญ่ EEC ,เมืองอัจฉริยะห้วยใหญ่ บางละมุง หรือแม้แต่สนามบินอู่ตะเภาใหม่ และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่วันนี้มีการปรับรูปแบบสัญญา ที่เราน่าจะได้เป็นรูปเป็นร่างภายในปี 2572-2574

ONCE WONGAMAT เปิดตัวด้วยราคา 6.9-59.9  ล้านบาท หรือเฉลี่ยเริ่มที่ 2 แสนบาท นิดๆ ต่อตรม. บนทำเล Luxury Living District ใกล้วงเวียนปลาโลมา ใจกลางพัทยาเหนือ รูปแบบโครงการที่เป็น New Iconic ใหม่แห่งเมืองพัทยา ดีไซน์สวยหรู Function ห้องหน้ากว้างลงตัว  ส่วน Facility ให้มาครบครัน  ก็ถือว่าคุ้มค่า และช่วงเปิดตัวนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษกับแคมเปญ Live&Drive Luxury หรือเลือกรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 1,000,000 บาท* 

เตรียมพบกับงาน Grand Opening เปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรก สุด Exclusive ก่อนใคร ที่ ONCE WONGAMAT SALES GALLERY  @again Pattaya วันที่ 22 พ.ย. 68 พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายภายในงาน   

ลงทะเบียนนัดหมาย และสิทธิพิเศษ ได้ที่   https://bit.ly/4odsaH2   หรือโทร 038-413-160