เป็นเวลากว่า 2 ปี ในการพัฒนาแบรนด์ใหม่ ของ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กับการเปิดตัวแบรนด์ EARN by LPN (เอิร์น บาย แอล.พี.เอ็น.)ใกล้นิคมอมตะซิตี้ บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,019 ล้านบาท และเคยสร้างปรากฏในรอบ VIP Day สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 100 ยูนิต มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท วันนี้พร้อมเปิดชมบรรยากาศจริงครั้งแรก 8-9 พ.ย. นี้
“อยู่ ‘เอิร์น’ ชีวิตเพลินกว่าใคร” Joyful Living at EARN
สโลแกนของโครงการ EARN by LPN ที่ถูกวาง Target เจาะกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่และกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเน้นที่ตั้งทำเลใจกลางนิคมอมตะนคร ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมใหญ่อันดับ 1 ของประเทศไทย เนื่องจากทำเลนี้ยังเป็นทำเลที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นแหล่งรวมของบริษัทต่างๆ กว่า 800 แห่ง ทั้งบริษัทไทยและต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานมากกว่า 200,000 คน จึงทำให้เป็นปัจจัยที่ทำให้ย่านอมตะยังเติบโตและน่าสนใจ เนื่องจากตั้งอยู่บนถนนสายหลักใจกลางของย่านอมตะที่เข้าถึงได้สะดวก ครบครันทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวก เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือมาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งนับเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงทำให้พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาตั้งบริษัทในพื้นที่แห่งนี้ รวมถึงการเดินทางเข้ามาของกลุ่ม expat ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้โครงการยังสะท้อนให้เห็นว่าเป็นคอนโดฯที่ตอบโจทย์ทั้งพักอาศัยเอง หรือเพื่อลงทุน ก็คุ้มค่าเพราะดีมานด์ที่อยู่อาศัยเพื่อเช่าในย่านนี้ยังสูงต่อเนื่อง จากการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ อาทิ EV, อิเล็กทรอนิกส์, โลจิสติกส์ และเทคโนโลยีขั้นสูง ส่งผลให้ดึงดูดแรงงานและผู้เช่าคุณภาพเข้าสู่พื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ การขยายถนนหลักหลายเส้นทางในโซนอมตะ-ศรีราชา ยิ่งตอกย้ำว่า “ทำเลนี้ยังมีศักยภาพเติบโตอีกมากใน 5-10 ปีข้างหน้า ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) 7-9% ต่อปี โดยค่าเช่าคอนโดฯขนาด 23 – 25 ตร.ม. อยู่ที่ 6,000 – 8,000 บาท/เดือน โดยกลุ่มผู้เช่าหลักคือ “พนักงานในนิคม” ที่ต้องการที่พักใกล้ที่ทำงาน รวมถึงกลุ่ม Expat ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย
โครงการ EARN by LPN พัฒนาเป็นอาคารพักอาศัย สูง 8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร, ความสูง 6 ชั้น 1 อาคาร โดยมีจำนวนรวม 1,810 ยูนิต ประกอบไปด้วยห้องพักอาศัย 3 รูปแบบ จำนวน 1,796 ยูนิต ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 23.50 – 36.50 ตร.ม. แบ่งเป็น ห้องสตูดิโอ, ห้องแบบ 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน พลัส โดยแต่ละรูปแบบมีการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่หลากหลาย พร้อมฟังก์ชันห้องรูปแบบ Combine ที่สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้เป็นขนาด 2-3 ห้องนอน ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มสิทธิ์การจอดรถภายในโครงการ อีกทั้งยังมอบสิ่งอำนวยความสะดวกจากพื้นที่ส่วนกลางอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ Half Olympic Swimming Pool, Futsal Field, Outdoor Gym, Jogging Track, Fitness พร้อมอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และ Co-Living space พื้นที่ขนาดโอ่โถง สามารถใช้เปลี่ยนบรรยากาศเป็น Workplace ที่เหมาะสำหรับคนทำงานอย่างแท้จริง กับพื้นที่สวนขนาดใหญ่ถึง 6 ไร่ นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงทั้ง CCTV / Face Scan / Digital Door Lock / ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ
จุดเด่นของ โครงการออกแบบอาคารแบบ I Shape Design ซึ่งทำให้สามารถเปิดรับแสงและลมธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่อาคารได้ตลอดเวลา เน้นการเชื่อมต่อเข้าสู่ธรรมชาติด้วยสวนระหว่างอาคาร ทำให้ทุกห้องจะมองเห็นวิวสวน ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อน อีกทั้งยังมีการเลือกสรรพันธุ์ไม้ที่ดูแลรักษาง่าย ทั้งยังเป็นพันธุ์ไม้ที่ช่วยฟอกอากาศ และสามารถดักจับฝุ่นละอองได้ดี ซึ่งสะท้อนแนวคิดความน่าอยู่ของ LPN จากภายในสู่ภายนอกได้อย่างดี มุ่งยกระดับการใช้ชีวิตด้วยคอนเซ็ปต์โครงการที่รองรับทั้งด้าน Wellness Safety Convenience และ After Service พร้อมทั้งการบริหารจัดการค่าส่วนกลางในอัตราที่ไม่สูง บริหารงานโดย บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ที่พร้อมส่งมอบบริการระดับมืออาชีพ เพื่อให้ชีวิตของคุณสมูทได้ทุกวันตลอด 24 ชม. และอำนวยความสะดวกในการจัดการผ่านแอพลิเคชั่น LPN Connect ทั้งการแจ้งซ่อม ติดตามพัสดุ หรือการจัดการในส่วนงานนิติบุคคลต่างๆ อีกทั้งยังตอบโจทย์ผู้เช่า จากพื้นที่ร้านค้าอีก 14 ยูนิตด้านหน้าโครงการ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านซักรีด รวมทั้งยังใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ตลาดสด เป็นต้น
ที่ผ่านมา LPN เคยพัฒนาโครงการในจ.ชลบุรี มาแล้วกว่า 4,000 ยูนิต ซึ่งได้ปิดการขายไปหมดแล้ว เอิร์น จึงเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดของ LPN ในชลบุรี ที่ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 70% ของยูนิตที่เปิดขาย โดยจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในเดือน พ.ย. นี้ และพร้อมเปิดชมอย่างเป็นทางการ ครั้งแรก 8-9 พฤศจิกายน 2568 นี้
