ศุภาลัยเปิดบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ติดถนนพุทธมณฑล สาย 4ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท

ศุภาลัยปักหมุดแลนด์มาร์คใหม่ของการอยู่อาศัยย่านพุทธมณฑล เปิดตัวโครงการ “ศุภาลัย มณฑลา @          พุทธมณฑล” บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ Tropical Oriental บนทำเลพุทธมณฑล สาย 4 ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ที่มีอัตราส่วนการขายอยู่ที่ 15% สูงกว่าย่านบางบัวทองและย่านบางบัวทอง ในราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท เปิดจองในงาน Pre-Sales วันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2568

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พื้นที่ย่านพุทธมณฑลเป็นหนึ่งในทำเลที่บ้านราคาแพงขายได้ดีที่สุดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และมีแนวโน้มความต้องการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประเมินได้จากยอดขายรวมในปีที่ผ่านมา ย่านพุทธมณฑลเป็นทำเลที่ขายดีที่สุดในเขตกรุงเทพฯสำหรับบ้านที่มีราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท หากนับเฉพาะโครงการที่เปิดในปี 2567 สำหรับบ้านที่มีราคาเกิน 10 ล้านบาท ทำเลพุทธมณฑลมีอัตราส่วนการขายอยู่ที่ 15% สูงกว่าย่านบางบัวทองที่มีสัดส่วน 14% และย่านบางบัวทองที่มีสัดส่วน 13% โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ปี2563–2567 ราคาเฉลี่ยของบ้านบนที่ดินขนาด 100 ตารางวาในย่านพุทธมณฑลได้เพิ่มขึ้นจาก 11.24 ล้านบาท เป็น 19 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

ผังเมืองเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาบ้านในทำเลพุทธมณฑลสูงขึ้น

ขณะที่โครงการหลายแห่งในปัจจุบันมีราคาขายเริ่มต้นเฉลี่ยสูงถึง 20 ล้านบาท เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากข้อกำหนดที่ถูกจำกัดโดยผังเมือง ทำให้บ้านต้องมีราคาสูงตั้งแต่ต้น โดยในบางโซนของพุทธมณฑล มีการกำหนดโดยผังเมืองให้สามารถจัดสรรได้เฉพาะบ้านเดี่ยวที่มีขนาดตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไป ขณะที่ต้นทุนที่ดินสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ต้นทุนรวมสูงขึ้น และส่งผลให้ราคาขายต่อยูนิตพุ่งสูงขึ้น

ดังนั้นทำเลย่านพุทธมณฑลจึงเป็นทำเลที่โดดเด่นไม่เพียงแต่มีกำลังซื้อสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นทำเลที่ถูกจำกัดให้ต้องพัฒนาบ้านเดี่ยวในระดับราคาพรีเมียมเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมต่าง ๆ ที่จะเข้ามาอำนวยความสะดวกในอนาคต

“เมื่อผู้พัฒนาโครงการถูกจำกัดให้ต้องสร้างบ้านบนที่ดิน 100 ตารางวา ทำให้ไม่สามารภทำบ้านขนาดพื้นนที่ใช้สอย 130 ตารางเมตรได้ แต่จะสร้างบ้านไซส์ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้คุ้มค่ากับขนาดที่ดินที่ซื้อมา ซึ่งทำให้ราคาขายวิ่งสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น ผังเมืองจึงมีส่วนในการกำหนดให้ย่านพุทธมณฑลกลายเป็นทำเลที่มีราคาเริ่มต้นเฉลี่ยสูง และเป็นหนึ่งในทำเลที่ขายดีที่สุดสำหรับบ้านราคาแพง”

ขณะที่ทำเลพุทธมณฑลสาย 4 กำลังจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ทำเลนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการอำนวยความสะดวกในการเดินทางที่สำคัญหลายด้าน ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางเข้า-ออกเมืองอย่างมาก อาทิ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 (M81) ซึ่งจะช่วยลดความหนาแน่นการจราจรบนถนนบรมราชชนนีได้อย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่มีเส้นทาง M81 ซึ่งเชื่อมต่อไปยังนครปฐมและกาญจนบุรี ส่งผลให้การจราจรในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ส่วนต่อขยายทางยกระดับบรมราชชนนี (ลอยฟ้าบรมราชขนณี) จะมีส่วนต่อขยายมาลงยังบริเวณสาย 4 การต่อขยายเส้นทางนี้จะช่วยให้ผู้ใช้เส้นทางสามารถข้ามการจราจรที่ติดขัด และมาลงย่านสาย 4 ได้โดยตรง โดยมีกำหนดกาอสร้างแล้วเสร็จในปี 2571-2572

ขณะที่ถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 แม้ว่าถนนเส้นนี้จะยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยให้การเดินทางจากพื้นที่สำคัญ เช่น สาทรมาถึงโครงการใช้เวลาเพียงประมาณ 20 กว่านาทีเท่านั้นในช่วงกลางวันหรือวันทำงาน

ส่วนในอนาคตจะมีระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่จะต่อขยายเส้นทางจากสถานีหลักสองมาที่พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งอาจจะใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากจะมีการพิจารณาอีกครั้งในปี  2572 ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายจากตลิ่งชันถึงศาลายาคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2572 เช่นกัน โดยจะให้บริการมาถึงศาลายา การพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคเหล่านี้ที่เข้ามาในทำเลนี้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ทำเลพุทธมณฑลสาย 4 มีศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตสูงมาก

ทั้งนจากการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่าโซนพุทธมณฑลเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพที่ได้รับความนิยมสูงสำหรับโครงการแนวราบระดับพรีเมียมมูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากข้อกำหนดตามผังเมืองทำให้การพัฒนาโครงการในทำเลใกล้เคียงต้องใช้ที่ดินขนาดใหญ่และส่งผลให้ราคาบ้านอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดโครงการใหม่ส่งท้ายปี 2568 ชื่อว่า ศุภาลัย มณฑลา @พุทธมณฑล แต่ตั้งอยู่ในเขตผังเมืองที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้สามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในราคาต้นทุนที่เหมาะสม ส่งผลให้ทำเลดังกล่าวสามารถพัฒนาโครงการคุณภาพที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ในราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทได้

โดยโครงการศุภาลัย มณฑลา @พุทธมณฑล พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 190-393 ตารางเมตร ให้ความเป็นส่วนตัวครบครัน ในราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท ช่วยให้ผู้ซื้อรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงบ้านขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง

ชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวแบบบ้านซีรีส์ใหม่ล่าสุด “Tropical Oriental” ที่พัฒนาขึ้นจากการศึกษาความต้องการเชิงลึกของลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันการใช้สอยและประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานการพักอาศัยในธรรมชาติแบบเขตร้อนชื้น (Tropical) เข้ากับองค์ประกอบในสไตล์ตะวันออก (Oriental) ถ่ายทอดความร่วมสมัยของความเป็นไทยผ่านโทนสีเอิร์ธโทน พื้นที่โปร่งโล่งเปิดรับแสงธรรมชาติและการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่ให้ความผ่อนคลาย ถนนหลักได้รับการออกแบบให้ทอดยาวไร้เสาไฟบดบังสายตา ด้วยระบบสายไฟลงใต้ดินตลอดแนว ช่วยเสริมความโปร่งและความเป็นระเบียบเรียบร้อย

นอกจากนี้ยังนำแนวคิด Sustainable Living มาใช้ในการตกแต่งภายในบ้านตัวอย่างและอาคารสโมสร โดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย เช่น วอลเปเปอร์ ใช้หมึกพิมพ์ปลอดสารระเหย, แผ่นลามิเนตสำหรับเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ป้องกันไฟ เชื้อรา และแบคทีเรีย ได้มาตรฐานระดับสากล Carbon Reduction Label, ผ้าม่าน KLASM ปลอดฟอร์มาลดีไฮด์ ช่วยลดการสะสมสารระเหยในอากาศ อีกทั้งไอเดียตกแต่งด้วยงานฝีมือและภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ขอบผ้าม่าน นำผ้าย้อมครามแท้จากกลุ่มทอผ้ามัดหมี่ จังหวัดสกลนคร และ โคมไฟหวายจากชุมชนสามโคก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งผ่านการรับรองฉลากเขียว (Green Label) และฉลากลดคาร์บอน (Carbon Reduction Label) เป็นต้น

โครงการ “ศุภาลัย มณฑลา @พุทธมณฑล” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 61 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,380 ล้านบาท ออกแบบเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ บนพื้นที่กว้างขวางและเป็นส่วนตัวจำนวน 236 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท พร้อมแบบบ้านให้เลือกมากถึง 6 แบบ ด้วยพื้นที่ใช้สอย 190-393 ตารางเมตร 4-5 ห้องนอน 3-7 ห้องน้ำ 2 พื้นที่พักผ่อน 2-3 ที่จอดรถ รองรับแนวคิด Green & Smart Living ด้วยระบบ Home Automation & Security พร้อมติดตั้งโซลาร์เซลล์ทุกหลัง และรองรับ EV Charger  พร้อมสวนส่วนกลางขนาดกว่า 2 ไร่ที่รองรับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Pavilion จุดพักผ่อนกลางสวน Putting Green และสนามเด็กเล่น พร้อมอาคารสโมสรขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอก ฟิตเนสและสระว่ายน้ำระบบน้ำแร่ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV ครอบคลุมทั่วพื้นที่ และระบบเข้า-ออกอัตโนมัติแบบอ่านป้ายทะเบียน พร้อมรับประกันโครงสร้างนาน 10 ปี และส่วนควบ 2 ปี โดยจะจัดงาน Pre-Sales วันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ พิเศษสำหรับผู้จองภายในงาน รับฟรี! iPhone 17 Pro Max 256 GB พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมการโอน และค่าส่วนกลางนาน 3 ปี*

โพสที่เกี่ยวข้อง