เมื่อกลางปี 2568 โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารไทยพาณิชย์วงเงิน 22,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จพร้อมโอนให้กับลูกค้าตามกำหนด พร้อมมุ่งขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ไปยังลูกค้าในต่างประเทศ อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เวียดนาม และกลุ่มประเทศในแถบทวีปยุโรป
สุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) หรือ MQDC กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของ MQDC ปี 2568 ยังคงเน้นดำเนินงานตามแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยกลางปีที่ผ่านมาโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 22,000 ล้านบาท จึงทำให้บริษัทเร่งก่อสร้างโครงการส่วนที่อยู่อาศัยให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายในปี 2569 ซึ่งปัจจุบันงานก่อสร้างโดยรวมคืบหน้าไปแล้วกว่า 70%
โดยโครงการที่พร้อมโอนให้ลูกบ้านเข้าพักอาศัยแล้ว ได้แก่ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias) เน้นด้านการดูแลกลุ่มวัยอิสระ 50+ ภายใต้คอนเซ็ปต์การบริการสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งได้ร่วมมือกับเบย์เครสต์ โกลบอล โซลูชั่นส์ (Baycrest Global Solutions) องค์กรชั้นนำด้านการดูแลผู้สูงวัยจากประเทศแคนาดาที่มีประสบการณ์กว่า 107 ปี เพื่อร่วมกันสร้างมาตรฐานใหม่ด้านสุขภาพของสังคมวัยอิสระ (Retirement Community) ในประเทศไทย ซึ่งได้เปิดบริการเต็มรูปแบบครบทั้ง 3 ด้านแล้ว ได้แก่ ที่พักอาศัย (Residences) ภายใต้คอนเซ็ปต์ Aging-in-Place ครบวงจรด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต Wellness Center และศูนย์สุขภาพและสมอง (Health & Brain Center) รวมถึงโครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม (Mulberry Grove The Forestias Condominiums) พร้อมโอนและมีลูกบ้านเข้าพักอาศัยแล้ว
ส่วนในปี 2569 จะมีโครงการสร้างเสร็จและทยอยให้กับลูกค้า 2 โครงการใหม่ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า (Mulberry Grove The Forestias Villas) และโครงการวิลล่าระดับอัลตร้าลักชัวรี แบรนด์ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ (Six Senses Residences The Forestias) มีจำนวน 27 ยูนิต เซอร์วิสระดับโลกที่บริหารจัดการโดยซิกส์เซนส์ (Six Senses) ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมไทย ผสมผสานกับแนวคิดของซิกส์เซนส์ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาวะการอยู่ร่วมกันในสังคมและความยั่งยืน เป็นที่พักอาศัยสไตล์ซิตี้ รีสอร์ทแห่งแรกของ ซิกส์เซนส์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่แบรนด์คอนโดมิเนียมสำหรับวัยทำงานรุ่นใหม่ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ (Whizdom The Forestias) ที่ผสานไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติ ยังคงผลักดันยอดโอนอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ทั้งวิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ มายโทเปีย (Whizdom The Forestias Mytopia) วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เดสทิเนีย (Whizdom The Forestias Destinia) และ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เพทโทเปีย (Whizdom The Forestias Petopia)
นอกจากโครงการที่พักอาศัยในแล้ว MQDC ยังมีโครงการบนทำเลถนนสุขุมวิท ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้าง เช่น โครงการคลาวด์ อีเลฟเว่น (Cloud11) รูปแบบมิกซ์ยูสมูลค่าโครงการประมาณ 43,000 ล้านบาท บนที่ดิน 27 ไร่ เชื่อมสถานีบีทีเอสปุณณวิถี ใกล้สถานีอุดมสุข ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ครบวงจร” ประกอบด้วย พื้นที่บริการให้เช่าสำหรับจัดตั้งสำนักงาน พื้นที่เช่าเพื่อการพาณิชย์สำหรับร้านค้า ศูนย์การเรียนรู้ พื้นที่จัดกิจกรรมแนวสร้างสรรค์ต่างๆ รวมทั้งมีโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมสร้างสรรค์ แบงค็อก (Sangsan Bangkok) ในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และโรงแรมโยเทล แบงค็อก (YOTEL Bangkok) สมาร์ทโฮเทลระดับโลก ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% และมีผู้เช่าพื้นที่โครงการแล้วมากกว่า 50% คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2569
นอกจากนี้มีโครงการคอนโดฯระดับซูเปอร์ลักชัวรีในย่านเอกมัย คือ มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท (Mulberry Grove Sukhumvit) ซึ่งจะเริ่มโอนและพร้อมเข้าอยู่ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2569 สำหรับครอบครัวหลากหลายช่วงวัย เดินทางสะดวกแวดล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล และรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเอกมัย
ล่าสุด MQDC มีนโยบายทำการตลาดต่างประเทศ และจัด Roadshow เพื่อสร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบการและกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือ ภูมิภาคเอเชีย ประกอบด้วย ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย ภูมิภาคยุโรป ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ภูมิภาคตะวันออกกลาง ย่านสหรัฐอาหรับอิมิเรต กาต้าร์ ตลอดจนประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย
