บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร ปรับกลยุทธ์รับมือผลกระทบจากปัจจัยภายนอกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวและเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่ รองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และย้ายถิ่นที่อยู่เพื่อลดความเสี่ยงจากอุทกภัยในอนาคต เตรียมพร้อมด้านสินค้าที่หลากหลายพร้อมบริการติดตั้ง ปรับปรุง ซ่อมแซม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง

สาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า ผู้ผลิต และจำหน่ายสินค้าระบบหลังคาทุกรูปแบบและผนังพร้อมบริการติดตั้ง ‘SPC Solutions’ แบบครบวงจร ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ในระยะสั้นจึงต้องมีการซ่อมแซมและปรับปรุงที่อยู่อาศัย โดยหลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรม รวมถึงมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย คาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่ค่อยๆ ฟื้นตัว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบกับบริษัท และกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานและรองรับการก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลังบริษัทจึงปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจเพื่อการปรับปรุงและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ และร่วมกับร้านค้าผู้แทนจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ต่างๆ ทั้งภายนอก เเละภายในที่มีความแข็งแรงทนทาน ทนน้ำ ความชื้น ติดตั้งง่าย และรวดเร็ว ล่าสุดได้พัฒนาอิฐมวลเบา MAX BLOCK ขนาดใหญ่ 60x60x7.5 เซนติเมตร สามารถก่อผนังเร็วขึ้น 3 เท่าช่วยลดต้นทุนและค่าแรง

นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมจัดกิจกรรมในพื้นที่ภาคต่างๆ เพื่อแนะนำสินค้าใหม่แก่ร้านค้าผู้แทนจำหน่าย บริษัทรับสร้างบ้าน ผู้รับเหมาก่อสร้างและต่อเติม รองรับการขยายตลาดรีโนเวทและงานก่อสร้างบ้านและโครงการที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งในจังหวัดหลักและหัวเมืองรอง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัท
ส่วนช่องทางตลาดต่างประเทศที่มีสัดส่วน 13-15% ของรายได้รวมบริษัทวางแผนรุกตลาดประเทศอื่นๆ นอกจากกัมพูชาให้มากขึ้น อาทิ สปป.ลาว, มาเลเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ส่วนเมียนมาแม้มีเหตุการณ์การเมืองภายในประเทศ แต่ยังคงมีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในระดับสูง โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการขายสินค้ามากยิ่งขึ้น





