เอสบีฯเผยทิศทางที่อยู่อาศัยปี62 เข้าสู่ยุคเมกะเทรนด์ คอนโดฯยังได้รับความนิยมสูง ตลาดลักชัวรี่จะมาแรงตามโครงการที่เปิดตัวใหม่ แต่หวั่นมาตรการแบงก์ชาติกระทบส่งผลชะลอตัวทั้งระบบ ทั้งเตรียมขยาย 2 สาขาในกทม.มูลค่าการลงทุน 900 ล้านบาท รุกโค้งสุดท้ายปี61 ด้วย“CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE” หวังตอบโจทย์กลุ่มGen Y ในกรุงเทพฯ และนักลงทุนครบวงจร ตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้แตะ 7,800 ล้านบาท
นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยถึง ทิศทางตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปี 2562 ว่า เทรนด์ที่อยู่อาศัยจะเป็นเมกะเทรนด์มากขึ้น สังเกตได้จากสัดส่วนการอยู่อาศัยของสมาชิกในแต่ละครอบครัวจะลดลง แต่มีการแยกตัวออกไปซื้อที่อยู่อาศัยเองมากขึ้น โดยคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองหรือใกล้แหล่งที่ทำงานจะยังเป็นเทรนด์ในการตอบโจทย์กลุ่มคนทำงาน เพราะผู้ประกอบการอสังหาฯยังมีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าเทรนด์การตกแต่งสไตล์ลักชัวรี่จะมาแรง แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการกำหนดเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value หรือ LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาเพื่อควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยและป้องกันปัญหาฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่อาจจะส่งผลให้ตลาดอสังหาฯและเฟอร์นิเจอร์ชะลอตัว ทำให้กระทบกับยอดขายและรายได้ ซึ่งยอดขายเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่มาจากการโอนที่อยู่อาศัย
สำหรับภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ในช่วง 10 เดือนของปี 2561ที่ผ่านมา ยังคงมีอัตราการขยายตัวเติบโตได้ที่ประมาณ 4-5% ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3 ตลาดมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นฤดูฝน แต่คาดว่าในปีนี้ยอดขายรวมจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 7,800 ล้านบาท จากปี 2560 มีสามารถทำยอดขายได้ 7,200 ล้านบาท ในขณะที่ปี2562 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 5-10%
นางธัญญรักข์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี2562 ทางกลุ่มเอสบี เฟอร์นิเจอร์ มีแผนที่จะเปิด “เอสบี ดีไซน์สแควร์” อีก 2 สาขา คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 900 ล้านบาท ได้แก่ สาขาเดอะมอลล์ บางแค พื้นที่ประมาณ 15,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท และสาขาพระราม2 พื้นที่เกือบ 10,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 300 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้มี “เอสบี ดีไซน์สแควร์”เพิ่มเป็น 14 สาขา จากปัจจุบันมีทั้งหมด 12 สาขา แบ่งเป็น 10 สาขาในกทม. ส่วนอีก 2 สาขา อยู่ที่ ภูเก็ตและนครราชสีมา ขณะที่ Koncept Furniture ปัจจุบันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 200 ร้านค้า
อย่างไรก็ตาม จากการที่ปัจจุบันคนนิยมอยู่อาศัยคอนโดฯมากขึ้น ทั้งที่ตกแต่งไว้อยู่เองและเพื่อปล่อยเช่า จากการเก็บข้อมูลพบว่า สัดส่วนกว่า 67-68% ซื้อเพื่ออยู่เอง อีก 31-32% เป็นการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า แต่ส่วนใหญ่ยังมีปัญหาและมีความยุ่งยากในการหาซื้อเฟอร์นิเจอร์เพื่อตกแต่ง ดังนั้นกลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ จึงได้นำเทรนด์การตกแต่งมาช่วยตอบโจทย์ลูกค้า ด้วยการนำโมเดล“CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE” (คอนโด โซลูชั่นส์ @ เอสบี ดีไซน์สแควร์) มาทำการตลาดในช่วงไตรมาส4/2561 เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้า โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายคือคนยุค Gen Y อายุระหว่าง 28-35 ปี ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ รวมถึงกลุ่ม นักลงทุน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ลงทุนในคอนโดฯ ระดับ Hi-end เพื่อปล่อยเช่าชาวต่างชาติ จะเป็นกลุ่มที่มองหาบริการตกแต่งคอนโดฯที่สร้างลุคหรูหรา ดูดีมีสไตล์ และอีกกลุ่มคือ ลงทุนในคอนโดฯ ระดับกลาง ซึ่งกลุ่มนี้จะมองหา Value ในการลงทุนตกแต่งในงบประมาณที่จำกัด ติดตั้งได้รวดเร็ว แต่ต้องออกมาดูดี ซึ่ง เอสบีฯสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 กลุ่ม ด้วยแพคเกจแต่งคอนโดฯสำหรับนักลงทุน ที่สามารถตกแต่งและให้ผู้เช่าขนกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยภายใน 30 วัน
กลยุทธ์หลักของ CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE คือ เน้นการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งที่เป็นกลุ่มอยู่ผู้อาศัย และกลุ่มนักลงทุนในหลากหลายช่องทาง รวมทั้งมีโปรโมชั่นและแพ็คเกจ แต่งคอนโดพิเศษ อาทิ ซื้อเฟอร์นิเจอร์คอนโดฯลดเพิ่มสูงสุด 10% สำหรับสินค้าตกแต่งอื่นๆ ได้แก่ ผ้าม่าน, วอลเปเปอร์, ฟิล์มกันความร้อน, Digital Door Lock, Smart Home System, ปูพื้น, กรุกระจก, ที่นอน, ชุดเครื่องนอน ฯลฯ
“เอสบี ดีไซน์สแควร์ มีศักยภาพครบทั้งเรื่อง 1.เฟอร์นิเจอร์ทั้งบิลท์อินและลอยตัว (ด้านความหลากหลายและสไตล์) 2.อินทีเรียดีไซน์เนอร์ ที่มีความเชี่ยวชาญในงานออกแบบตกแต่งคอนโด 3.วัสดุหรือ Raw Material สำหรับ งานตกแต่งที่มีให้ลูกค้าเลือกได้มากที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุด 4.มี Partner ที่หลากหลายและแข็งแกร่ง(ในทุกกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับงานตกแต่ง) 5.มีบริษัทในเครือที่ดูแลเรื่องงานตกแต่งภายในโดยเฉพาะ เราจึงมีความพร้อมที่จะเข้ามาช่วยดูแล งานตกแต่งคอนโดฯให้กับลูกค้าได้แบบเบ็ดเสร็จและครบวงจร เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตแบบ Smart Metro Lifestyleไม่ว่าจะแต่งคอนโดฯไว้อยู่เอง หรืออยากแต่งให้ปล่อยเช่าง่าย ขายต่อได้ราคา รับรองจะหมดปัญหาความวุ่นวาย”นางธัญญรักข์ กล่าว
โดยลูกค้าที่สนใจใช้บริการของ “CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE” สามารถเลือกรูปแบบการตกแต่งห้องได้ใน“เอสบี ดีไซน์สแควร์”ทุกสาขา โดยจำลองห้องตัวอย่างจาก 4โครงการ 6 รูปแบบ มาให้เลือก คือ Whizdom Essence Sukhumvit101,Ideo Sukhumvit93, The Line Sukhumvit101 , Knights Bridge Prime Onnut และ Ideo Mobi Sukhumvit66 ราคาเริ่มต้นที่ 3,500-11,000 บาท/ตารางเมรขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดีไซน์,วัสดุ และฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอย คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
“ลูกค้าจะได้ห้องที่สวยเหมือนห้องตัวอย่าง ควบคุมงบประมาณในการตกแต่งได้ เพราะจะรู้ราคาทันทีที่เลือกสไตล์การตกแต่ง ที่สำคัญคือได้บริการครบครัน ติดตั้งรวดเร็ว พร้อมเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการตกแต่งคอนโดฯ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1.สร้างแรงบันดาลใจ ด้วยห้องตัวอย่างทั้ง 6 แบบ เพื่อเลือกแบบที่ใช่ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ พร้อมพูดคุยกับ Condo Décor Planner 2.รู้ราคาทันที เพื่อควบคุมงบประมาณได้ตรงใจ กำหนดระยะเวลาตกแต่งและติดตั้งได้เอง และสามารถกำหนดวันเข้าอยู่ได้เลย 3.ตอบโจทย์การแต่งบ้านได้แบบรายบุคคลด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สามารถปรับ เปลี่ยน ย่อ ขยาย ขนาด ฟังก์ชั่น วัสดุ ดีไซน์ ก็ “สั่งทำได้” เพื่อเฟอร์นิเจอร์สวยพอดีกับพื้นที่และความต้องการของลูกค้า โดยมีอินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์ มืออาชีพคอยดูแลและให้คำปรึกษา และ 4.ครบทุกเรื่องตกแต่ง จบทุกความกังวลใจ ไม่เสียเวลา มั่นใจได้ในคุณภาพสินค้าและวัสดุ ไปจนถึงการจัดส่ง ติดตั้ง ดูแลงานแต่งคอนโดทุกขั้นตอนด้วยทีมงานมืออาชีพ”นางธัญญรักข์ กล่าว
ทั้งนี้คาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้ 300 ล้านบาทในปี 2562 อย่างไรก็ตามจากยอดขายที่ตั้งเป้า 7,800 ล้านบาทในปีนี้ คาดว่าจะมาจากลูกค้าธุรกิจค้าปลีก 80% ,ลูกค้าโครงการ 10% และจากการส่งออก 10% ซึ่งปัจจุบันส่งออกไปกว่า 40 ประเทศ ทั้งในเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง
ด้านนายเกลน ริชาร์ด แนกกลิส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายงานเครือข่าย การขายและฝ่ายการตลาด บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนบัตรเครดิตและบัตรผ่อนชำระในเครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์ กล่าวว่า ในฐานะพาร์ทเนอร์หลักของการเปิดตัวครั้งนี้ จึงได้มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จะแต่งคอนโดฯกับ CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE โดยเฉพาะ คือ ผ่อนนาน 24 เดือนกับบัตรกรุงศรี โดย เอสบี ช่วยชำระดอกเบี้ยให้ 10 เดือน, ได้รับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อใช้ Point เท่ายอดซื้อ, รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 60,000 บาท เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข,รับคะแนนสะสมสูงสุด 10 เท่า สำหรับทุกยอดใช้จ่ายผ่านบัตรและ Top Spender รับ Voucher จากธนาคารกรุงศรี สูงสุด15,000 บาท
