วิทยา พรหมชนก ประกาศจุดยืนการดำเนินธุรกิจบริษัทคิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิด 2 โครงการในไตรมาส 3 มูลค่ารวม 806 ล้านบาท
นายวิทยา พรหมชนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทคิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดเปิดเผยว่า กลุ่มเรียลดีมานด์ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก โดยขึ้นอยู่กับสินค้าที่มาตอบโจทย์ทั้งในแง่ของทำเลและราคาเป็นปัจจัยสำคัญ ขณะเดียวกันมองตลาดอสังหาฯในปี 2564 ว่าตลาดอสังหาฯจะค่อยๆกลับมาเติบโตขึ้น ด้วยประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางแห่งหนึ่งที่กลุ่มนักท่องเที่ยวเลือกมาเที่ยวและลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สะท้อนให้เห็นในเรื่องของการดูแลทางด้านสาธารณสุขของประเทศไทยที่มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี จึงเป็นประเทศเป้าหมายที่กลุ่มนักท่องเที่ยวให้ความเชื่อมั่นและกลับมายังประเทศไทยทำให้ตลาดอสังหาฯจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
หลังการเข้าดำรงตำแหน่งของนายวิทยา พรหมชนก ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทคิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เมื่อราวเดือนเมษายน 2563 ประกาศจุดยืนแนวทางการดำเนินธุกิจที่มีธรรมาภิบาลและค่านิยมในองค์กร โดยคำนึงถึง คุณค่า (Value) กับ ผลผลิต (Productivity) ทั้งงานและการให้บริการให้มีประสิทธิภาพ เรียนรู้สู่การปรับตัวและวิถีใหม่ (New Normal) อยู่ตลอดเวลา ตลอดจนความรวดเร็ว (Speed) และความสามารถในการทำงาน (Skill) ที่ดีอีกด้วย
เปิด 2 โครงการในไตรมาส 3 มูลค่าโครงการรวม 806 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ 1. DAYS Ramintra – Watcharapol (เดย์ส รามอินทรา – วัชรพล) มูลค่าโครงการ 676 ล้านบาทที่บริหารงานในนาม บริษัท อาร์เบอร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ คิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ออกแบบและสร้างสรรค์ภายใต้ แนวคิด ‘Workplace Inspired โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น บนเนื้อที่ 9-1-8.3 ไร่ รวม 76 ยูนิต เป็นอาคารสำนักงาน 2 รูปแบบคือ แบบ B ขนาด 26.4 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 308 ตารางเมตร/ยูนิต และแบบ C ขนาด 24.75 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 282 ตารางเมตร/ยูนิต และ 2.The Cube Boutique Ramintra 109 (เดอะคิวบ์ บูทิค รามอินทรา 109) มูลค่าโครงการ 130 ล้านบาท คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทโลว์ไรส์ (Low rise) สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 68 ยูนิต มีขนาดตั้งแต่ 28 – 33.5 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน และแบบ 1 ห้องนอนพลัส
บริษัทฯวางแผนการดำเนินในปี 2564 โดยมองหาที่ดินในการพัฒนาแนวราบในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันบริษัทฯมีที่ดินในพื้นที่ต่างจังหวัดไม่ว่าจะเป็น จังหวัดภูเก็ต หรือจังหวัดชลบุรี ในพื้นที่อำเภอศรีราชา ที่เตรียมพัฒนาโครงการราว 2-3 โครงการในปีหน้า (2564) แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ และเตรียมความพร้อมของบริษัทฯภายในปี 2565 เพื่อเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ “ในฐานะที่ผมเคยเป็นผู้บริหารค้าปลีกมาก ถือว่ามีความรู้ความสามารถในเรื่องของธุรกิจค้าปลีกในระดับหนึ่ง ในการดำรงตำแหน่งที่บริษัทเทสโก้ โลตัสมากว่า 20 ปี ทำให้เราเข้าใจลูกค้าและเข้าใจถึงรายละเอียดได้ดี เนื่องจากลูกค้ามีจำนวนมากและหลากหลาย เมื่อก้าวเข้าสู่ธุรกิจอสังหาฯถ้าเราเข้าใจลูกค้า เราใส่ใจลูกค้า และสร้างทีมงานให้เกิดความมั่นใจ จะเป็นพลังที่นำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ พนักงานถือเป็นหัวใจสำคัญขององค์กร” นายวิทยากล่าว
