ไรมอน แลนด์ฯ ประกาศผลงานยอดขาย 9 เดือนแรกของปี’66 อยู่ที่ 1,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 1,442 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% เผยผลตอบรับจากโครงการคอนโดฯพร้อมอยู่ดีเยี่ยม ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” โกยยอดโอนทะลุถึงประมาณ 4,300 ล้านบาท และ “เทตต์ สาทร ทเวลฟ์” กวาดยอดโอนไปแล้วประมาณ 1,300 ล้านบาท
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด(มหาชน) หรือ RML เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปี 2567 ว่าเป็นปีที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังคงต้องเผชิญกับสิ่งที่ท้าทายอยู่มาก จากปัจจัยลบหนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6% ในขณะเดียวกันก็มีปัจจัยบวกจากแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะขยายตัวขึ้น 4.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ที่ 3.8% จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวรวมทั้งภาคการส่งออกที่กลับมาขยายตัว อีกทั้งจะได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากนโยบายภาครัฐ ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาฯ จะต้องมีการปรับตัวให้เร็วและให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดย RML เองถึงแม้จะพัฒนาโครงการเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ได้รับผลกระทบต่ำ แต่บริษัทฯ ก็ติดตามสถานการณ์ตลาดต่อเนื่อง โดยมีการปรับรูปแบบของโครงการให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยน รวมถึงวางกลยุทธ์ราคาให้เหมาะสม เพื่อร่วมเพิ่มมูลค่าและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับตลาดอสังหาฯ ลักชัวรี่และอัลตร้า ลักชัวรี่ ตลอดจนผลักดันให้บริษัทฯ เองยังคงรักษาระดับผลการดำเนินงานที่ดีไว้ได้ภายใต้ความท้าทายนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยให้ความสำคัญในการบริหารจัดการทางด้านการเงิน เพื่อรักษาเสถียรภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ภาพรวมของ RML ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม – กันยายน 2566) บริษัทฯ สร้างยอดขายได้ดี โดยโครงการที่ขายอยู่ได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างสูงจากกลุ่มลูกค้าทั้งในด้านการขายและโอนโครงการ เห็นได้จากคอนโดฯ อัลตร้าลักชัวรี่ “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” ที่ขายเกือบหมดครบ 100% แล้ว เหลือขายเพียง 1 ยูนิตเท่านั้น และมียอดขายลูกค้าต่างชาติเต็มโควตา ในขณะที่คอนโดฯ ลักชัวรี่ “เทตต์ สาทร ทเวลฟ์” ที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเพียงไม่นาน แต่กระแสตอบรับดีมาก ปัจจุบันมียอดขายถึง 97% เช่นเดียวกัน โดยมียอดขายโควตาลูกค้าต่างชาติไปแล้ว 40% นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีรายได้จากค่าเช่าและบริการของอาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ที่สูงที่สุดในไทย คือ “โอซีซี”(One City Centre) อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกรวมถึงความสนใจจากลูกค้าแล้วประมาณ 70%”
ทั้งนี้ บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 จำนวน 3,081ล้านบาท โดยแผนธุรกิจต่อจากนี้ บริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” และ “เทตต์ สาทร ทเวลฟ์” ซึ่งคาดว่าปีนี้จะโอนได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ 5,000 ล้านบาท ส่วนสำหรับพอร์ตด้านกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม อาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ‘โอซีซี’ คาดว่าจะมีรายได้จากค่าเช่าและบริการเข้ามาต่อเนื่อง โดยเมื่อสะพานเชื่อม (Sky bridge) ต่อกับบีทีเอสเพลินจิตสร้างเสร็จภายในปลายปี 2566 นี้ จะช่วยผลักดันให้ผู้เช่ามาเช่าพื้นที่ “โอซีซี” เพิ่มมากขึ้น
สำหรับไฮไลต์แผนธุรกิจปลายปี 2566 นี้จนถึงต้นปี 2567 บริษัทฯ เล็งเปิดขายโครงการแนวราบบนทำเลสุขุมวิท อย่างไม่เป็นทางการให้กับลูกค้ากลุ่มยอดซื้อสูงสุดในฐานข้อมูลของ RML เองก่อน โดยจะมีราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 300 ล้านบาทต่อหลัง ซึ่งจะถือเป็นโครงการสุดพิเศษบนพื้นที่หายากที่สุดของวงการอสังหาฯ พร้อมการออกแบบที่หรูหรา รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านครบครันเหนือระดับ สะท้อนความเป็นผู้นำวงการพัฒนาอสังหาฯ อัลตร้าลักชัวรี่ของ RML ได้อย่างชัดเจน เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นที่ต้องการทั้งจากตลาดต่างประเทศและในประเทศอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันถือว่าไม่มีคู่แข่งในตลาด
