กลุ่มดุสิตธานี เปิดตัว Sale Gallery โครงการ “ดุสิต อจารา หัวหิน” ในรูปแบบ Branded Residence เริ่มต้น 14 ล้านบาท

กลุ่มบริษัทดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เดินเกมรุกพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน เปิดตัว “Sales Gallery” โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน ที่พักอาศัย Low Rise, Low Density หนึ่งเดียวบนหัวหิน ที่สะท้อนแนวคิด Multi-generational Living โชว์จุดเเกร่งที่ให้ใช้ชีวิตได้เหนือกว่า ด้วย The Only Thai Branded Residence ในราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท โดยสามารถเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศจริงของพื้นที่พักอาศัยที่ออกแบบอย่างประณีตในทุกรายละเอียดได้แล้ว ณ Sales Gallery โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน บริเวณพื้นที่ด้านหน้าโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน

ณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด กล่าวว่า โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน เป็นโครงการที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญของกลุ่มดุสิตธานี ทั้งด้านการบริหารโรงแรม และการบริการ ที่จะขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ในรูปแบบ Branded Residences ให้ตอบโจทย์ความต้องการด้าน Well-being สร้างสุขภาพกายและใจ Multi-generational Living Concept โดยสานต่อบนพื้นที่ต้นกำเนิดของ Dusit Resort & Polo Club ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก มาร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์การพักอาศัยที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกบ้านในระยะยาว บนพื้นที่ 20 ไร่ ผ่านการวางผังโครงการในแบบ Low Rise, Low Density โดยมีเพียง 96 ยูนิต ภายใน 7 อาคาร แบ่งเป็นอาคารสูง 3 ชั้น และ 6 ชั้น พร้อมวางคอนเซ็ปต์ของพื้นที่สีเขียวที่มีขนาดใหญ่กว่า 60% ซึ่งรวมถึง Organic Garden และ Farm Animals ภายใต้แนวคิดของ “Bridging Oasis” เสมือนการเชื่อมต่อและการเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติตลอดช่วงเวลาพักผ่อน

“เราได้สร้างสรรค์ Dusit Ajara Hua Hin Sales Gallery ของโครงการดุสิต อจารา หัวหิน เพื่อสะท้อนความหรูหราผ่านแนวคิด Multi-generational Living  โดยได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารจริงเพื่อจัดแสดงห้องตัวอย่างจำนวน 2 ยูนิต ประกอบด้วย ห้องแบบ 1 ห้องนอน 88 ตารางเมตร  และ 2 ห้องนอน 156 ตารางเมตร ภายในพื้นที่ได้ตกแต่งในสไตล์เรียบหรู Timeless  ที่เน้นการใช้สี Earth Tone ผ่านการใช้วัสดุของไม้ หรือวัสดุเทียบสีไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นของความเป็นบ้าน และการเลือกใช้สีครีมขาวหรือสีโทนเทาอ่อนอมน้ำตาล เพื่อเพิ่มความสว่าง สงบ โปร่งสบายให้พื้นที่บริเวณ Multi-generational Sharing Space เป็นต้น”

ศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการดุสิต อจารา หัวหิน คือ การต่อยอดความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากกว่า 75 ปี ในวงการโรงแรมและการบริการระดับโลก ด้วยบริการในรูปแบบ Branded Residences ซึ่งนับเป็นจุดเเกร่งเพียงโครงการเดียวในหัวหินที่มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่า กับ The Only Thai Branded Residence อาทิ บริการ Concierge ส่วนตัวที่พร้อมช่วยเหลือทุกความต้องการตลอด 24 ชั่วโมง บริการทำความสะอาดในห้องพักและดูแลพื้นที่ส่วนกลางอย่างมืออาชีพ ไปจนถึงบริการเสริมที่ครอบคลุม ตั้งแต่การบริการ Room Service การบริการเชฟส่วนตัวและจัดงานเลี้ยงในบ้าน การบริการรถรับ-ส่ง พร้อมทั้งกิจกรรมพิเศษเพื่อสร้างความสัมพันธ์และคุณภาพชีวิต อาทิ การเรียนทำอาหาร ศิลปะ งานฝีมือ ออกกำลังกายโยคะ ไทชิ และเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรแบบยั่งยืนในฟาร์มออร์แกนิค

สำหรับโครงการดุสิต อจารา หัวหิน เป็นคอนโดอัลตร้าลักชัวรี Low Rise ในรูปแบบ Branded Residence มีทั้ง 3 ชั้น และ 6 ชั้น ภายใน 7 อาคาร จำนวนยูนิตทั้งหมด 96 ยูนิต พร้อมขนาดที่ดิน 20 ไร่ โดย Type Room มีทั้งหมด 4 แบบ คือ 1 Bedroom เริ่ม 70 – 90 ตารางเมตร, 2 Bedroom 120 – 180 ตารางเมตร, 3 Bedroom 250 ตารางเมตร และ Penthouses 300 ตารางเมตรจะอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร ในส่วนกลางเริ่มที่ 140 บาทต่อตารางเมตร โครงการจะเริ่มสร้างปี 2026 สร้างเสร็จภายในปี 2028 สิ่งอำนวยความสะดวก มี Oasis ตรงกลางโครงการ, Club House, สระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร, Pet Park (โครงการเป็น Pet Friendly), Kids Playground และ Kids Club นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกบ้าน ด้วยสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก Dusit Gold ระดับแพลตินัม ที่รองรับการใช้บริการโรงแรมในเครือดุสิตทั่วโลก

ภฤศธร สกุลไทย Senior Partner บริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด (PIA) กล่าวว่า นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายความสามารถในการดีไซน์พื้นที่ขนาดใหญ่ของแต่ละยูนิตให้มีเอกลักษณ์และความแตกต่างไม่เหมือนกัน เพื่อสร้างสรรค์ที่พักอาศัยในรูปแบบ Multi-generational Living โดยการออกแบบพื้นที่ภายในคำนึงถึงความต้องการและการใช้งานที่หลากหลายของคนทุกช่วงวัย รวมทั้งได้คำนึงถึงการออกแบบที่เป็นไปตามคอนเซ็ปของ Universal Design ทำให้สามารถแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลาย แบ่งเป็น พื้นที่ที่สมาชิกสามารถใช้เวลาร่วมกัน “Multi-generational Sharing Space” ประกอบไปด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว พื้นที่กึ่งกิจกรรมส่วนตัว “Semi-private Space” จะเป็นพื้นที่ทางเข้ายูนิตโดยสามารถ เลือกที่จะเปิดโล่งรับลมเป็น Semi-outdoor ร่วมกับพื้นที่ส่วนของเซอร์วิสต่างๆ เช่น Storage และ Helper’s room เป็นต้น และ Private area พื้นที่ส่วนตัวที่สุดที่มอบประสบการณ์แห่งการพักผ่อนกับ Master bedroom และห้องนอนอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังเพิ่มตัวเลือกสำหรับการ combine ยูนิตที่สามารถเชื่อมพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้ใหญ่ขึ้นรองรับกิจกรรมของทุกเจน การเพิ่มฟังก์ชั่น connecting door เพื่อเชื่อมโยงที่พักอาศัยและยังคงความเป็นส่วนตัวสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือปรับเปลี่ยน Pantry เป็น Asian  Kitchen รองรับการใช้ชีวิตจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับการเลือกใช้วัสดุภายในทีมงานคำนึงถึงการใช้งานจริงในระยะยาว สำหรับการวางผังโครงการได้มีการจัดวางยูนิตแบบ 2 Bedroom ไว้ที่หัวมุมของอาคารเพื่อเปิดรับวิวทั้ง 2 ด้าน และ Penthouse บริเวณพื้นที่บริเวณชั้น 5 และ 6 ของอาคาร ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลหัวหินและปลายขอบฟ้าได้

อ่านรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ : https://prop2morrow.com/849543/

โพสที่เกี่ยวข้อง