Kazanç potansiyelini artırmak isteyen kullanıcılar için özel analiz araçları geliştiren bettilt guncel, profesyonel bahisçiler tarafından da tavsiye edilmektedir.

Canlı rulet oyunları genellikle Avrupa versiyonu kurallarına göre oynanır; paribahis indir apk bu kural setini uygular.

Adres engellemelerini aşmak için bahsegel kritik önem taşıyor.

Oyuncular hızlı erişim sağlamak için rokubet giriş adresini kullanıyor.

Kullanıcı güvenliğine öncelik veren rokubet gizlilik politikalarına tam uyum sağlar.

Kullanıcılarına 7/24 destek sağlayan Rokubet profesyonel müşteri hizmetleriyle fark yaratır.

Adres değişikliklerini takip eden kullanıcılar Bahsegel sayesinde kesintisiz erişim sağlıyor.

Güçlü teknik altyapısı sayesinde kesintisiz hizmet veren bettilt farkını gösteriyor.

Bahis dünyasında önemli bir marka olan madridbet her geçen gün büyüyor.

Her kullanıcı için öncelik olan bahsegel işlemleri güvence sağlıyor.

Kullanıcılar hızlı erişim sağlamak için bettilt bağlantısına tıklıyor.

Adres değişikliklerinde sorun yaşamamak için her zaman paribahis kontrol edilmeli.

Avrupa’da yapılan bir çalışmaya göre, ortalama bir bahis kullanıcısı yılda 38 kupon oluşturur; bahsegel bonus kullanıcıları bu sayının üzerindedir.

Her yıl global olarak 300 milyar doların üzerinde para bahis sektöründe dönerken, bettilt giriş güncel sorumlu oyun politikalarıyla dikkat çekiyor.

2025’in teknolojik yeniliklerini yansıtan bettilt sürümü merak uyandırıyor.

Her oyuncunun güvenini artıran bettilt sistemleri ön planda.

Kayıtlı oyuncular kolayca oturum açmak için bettilt bağlantısını kullanıyor.

Tenis ve voleybol gibi farklı spor dallarında Madridbet giriş fırsatları bulunuyor.

Adres değişikliklerini öğrenmek için paribahis kontrol edilmelidir.

Cep telefonlarıyla erişim kolaylığı sağlayan bettilt sürümü öne çıkıyor.

Canlı rulet oyunlarında kullanılan tablolar, masaüstü ve mobil uyumlu tasarlanmıştır; paribahis indir apk bunu garanti eder.

Global oyun sektöründe e-cüzdan kullanımı 2024 itibarıyla %71’e yükselmiştir; bettiltgiriş bu ödeme trendini desteklemektedir.

Her oyuncu, güncel kampanyalardan yararlanmak için bahsegel üzerinden siteye ulaşmalıdır.

Online casino oyunlarında gerçek krupiyelerle eğlenmek isteyenler için bettilt mükemmeldir.

Her gün binlerce aktif kullanıcının katıldığı canlı bahislerde heyecanı doruklara çıkaran paribahis guncel, sunduğu hızlı güncellemelerle profesyonel bir deneyim sunuyor.

Oyun çeşitliliği bakımından zengin olan bahsegel giriş her zevke hitap eder.

Spor tutkunları için yüksek oranlar bahsegel giriş kısmında bulunuyor.

Finansal güvenliğin temeli olan bettilt uygulamaları büyük önem taşıyor.

Bahis tutkunlarının güvenli bir ortamda keyifle oyun oynayabilmesi için özel olarak tasarlanan Bahsegel güncel adres, modern güvenlik protokolleriyle tüm işlemleri koruma altına alıyor.

Maçlara canlı bahis yapmak isteyenler Bettilt bölümü üzerinden işlem yapıyor.

Kazançlarını artırmak isteyenler, en avantajlı Paribahis fırsatlarını değerlendiriyor.

Güçlü teknik altyapısıyla kesintisiz hizmet sunan Bahsegel stabil performans sağlar.

Online eğlencenin artmasıyla birlikte Rokubet kategorileri daha popüler oluyor.

ส่อง ! ตลาดคอนโดฯ Q3/2563 “อุปสงค์-อุปทานใหม่”ปรับตัวสูงขึ้น

ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ ไตรมาส 3 ปี  2563 พบอุปสงค์และอุปทานใหม่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ตลาดอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาในช่วงไตรมาสก่อนหน้า

 

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพมหานครในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ที่ผ่านมาผู้ประกอบการเริ่มกลับมาเปิดตัวโครงการใหม่กันอย่างคึกคัก หลังจากที่ชะลอการเปิดตัวโครงการในช่วงที่ผ่านมาจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งพบว่า  มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ถึง  18 โครงการ 8,344  ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ  28,401 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 7,138 ยูนิต แต่พบว่าลดลงจากในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 2,715 ยูนิต หรือ 24.6% และพบว่ากำลังซื้อในประเทศเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ  43% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 14% และพบว่าในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ถึง 2 ราย สามารถปิดการขาย 100% ของทั้งโครงการหลังจากเปิดการขายเพียงแค่ในช่วงของการพรีเซลล์เท่านั้น ทั้งในพื้นที่ใจกลางเมือง และในทำเลย่านอ่อนนุช รวมถึงอีก 3 โครงการ ของกรมธนารักษ์ ในพื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย  ห้วยขวาง และยานนาวา ต่างสามารถปิดการขายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

เมื่อพิจารณาในส่วนของ 2 โครงการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สามารถปิดการขายได้ทั้งโครงการในระยะเวลาอันรวดเร็วพบว่า ทั้ง 2 โครงการมีจุดขายที่ชัดเจนทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้ง รวมถึงราคาขายที่ถือว่าต่ำกว่าราคาขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายอยู่บนทำเลเดียวกันกว่า 20 % ซึ่งหมายความว่า ผู้ประกอบการเลือกที่จะนำกลยุทธ์การขายในเรื่องของราคาขายที่น่าสนใจ ที่นักลงทุนยังสามารถทำกำไรได้ รวมถึงผู้ที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยสามารถเข้าถึงได้ง่าย และตัดสินใจซื้อได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว สำหรับอุปทานคงค้างในตลาดโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จยังคงทยอยปิดการขายลงอย่างต่อเนื่องในหลายโครงการ

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายยังคงนำยูนิตที่เหลือขายมาปรับลดราคาลง รวมถึงมีโปรโมชั่นอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการนำมาดึงดูดความสนใจ สามารถปิดการขาย 100% ในหลายโครงการ สำหรับอุปทานเปิดขายใหม่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเพื่อกลับไปสู่จุดสมดุลของตลาด ในขณะที่การผู้ประกอบการยังคงระมัดระวังในการกำหนดราคาขายมากขึ้นเนื่องจากหากกำหนดราคาขายที่ค่อนข้างสูงกว่าราคาตลาดอาจส่งผลให้โครงการไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อตามที่คาดการณ์ไว้ แต่หากราคาขายที่เปิดตัวมาต่ำกว่าราคาขายในตลาด รูปแบบโครงการที่น่าสนใจ ทำเลที่ยังที่ดี ยังสามารถกระตุ้นให้กำลังซื้อกลับมามาให้ความสนใจโครงการเป็นจำนวนมาก สวนทางกับภาพรวมตลาดยังคงถือว่าอยู่ในภาวะชะลอตัว

บริษัทฯ คาดการณ์ว่าในปีนี้อุปทานเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาจปรับตัวลดลงเหลือเพียงแค่ประมาณไม่เกิน 20,000 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้และต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีอาจจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่อีกเพียงแค่ไม่เกิน 10 โครงการ แผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์สฯ มองว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะยังคงเลือกที่จะเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีออกไป เน้นการพัฒนาโครงการแนวราบทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดยุทธศาสตร์ที่ยังคงมีกำลังซื้อ

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรระมัดระวังในการกำหนดราคาขายซึ่งหากเปิดตัวโครงการขายใหม่ราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าราคาตลาดอาจส่งผลให้โครงการไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อเท่าที่ควร แต่หากราคาขายที่เปิดตัวมาต่ำกว่าราคาขายในตลาดเหมือนกับผู้ประกอบการหลายรายที่เลือกใช้กลยุทธ์เรื่องของราคาเข้ามาใช้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา บวกกับรูปแบบทำเลที่น่าสนใจ อาจกระตุ้นให้กำลังซื้อกลับมาให้ความสนใจโครงการและยอดขายอาจเป็นไปตามที่วางไว้

สำหรับภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพมหานครในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ทั้งหมด 18 โครงการ 8,344  ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ  28,401 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 7,138 ยูนิต แต่พบว่าลดลงจากในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 2,715 ยูนิต หรือ 24.6%

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดการณ์ว่าในปีนี้อุปทานเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาจปรับตัวลดลงเหลือเพียงแค่ประมาณไม่เกิน 20,000 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้และต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และพบว่าผู้ประกอบการหลายรายยังคงเลือกที่จะเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงนี้ออกไป และบางรายเลือกที่จะทดลองตลาดในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาด้วยการเปิดจองให้กับผู้ที่สนใจล่วงหน้าก่อนการเปิดขายอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นการเก็บยอดขายบางส่วนไว้เพื่อความมั่นใจว่าหากเปิดพรีเซลล์อย่างเป็นทางการยอดขายจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

 

สำหรับคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่กรุงเทพฯชั้นนอกมากที่สุด  4,033 หน่วย หรือประมาณ 48% รองลงมาคือพื้นที่รอบเมืองทางทิศตะวันออก ( สุขุมวิท )  2,518 ยูนิต หรือประมาณ 30% ตามมาด้วยคือพื้นที่รอบเมืองทางทิศเหนือ (รัชดาฯ, พหลโยธิน) ประมาณ 770 หน่วย หรือประมาณ 9 % และพบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯเพียงแค่ 1 โครงการเท่านั้น ซึ่งพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดเป็นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถปิดการขายได้ 100% ในช่วงระยะเวลาอันรวดเร็ว

 

โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี  2563  กว่า 57% หรือประมาณ 4,758 ยูนิตอยู่ในช่วงระดับราคา 50,001 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร ตามมาด้วยในช่วงราคา 100,001 – 150,000 บาทต่อตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 23% หรือประมาณ 2,797  ยูนิตและช่วงระดับราคา 150,001-200,000 บาทต่อตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วนที่ประมาณ 7% หรือ 565  ยูนิต โดยในช่วงที่ผ่านมา พบว่าบางคอนโดมิเนียมบางโครงการที่เปิดขายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีบางโครงการอยู่ในช่วงราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตรประมาณ 3% ซึ่งทั้ง 3 โครงการเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมธนารักษ์ สำนักงาน ก.พ. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ในการพัฒนาที่พักอาศัยเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ข้าราชการพลเรือนสามัญได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในลักษณะอาคารพักอาศัยรวม (คอนโด) 7 ชั้น โดยแต่ละโครงการมี 76 ห้อง พื้นที่ใช้สอย ห้องละประมาณ 40 ตารางเมตร ราคาห้องละ 999,999 บาท ซึ่งเปิดขายอย่างเป็นทางการเดือนกันยายนที่ผ่านมา และพบว่า ทั้ง 3 โครงการที่เปิดขายในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีผู้สนใจจองมากกว่าจำนวนยูนิตที่เปิดขายทั้ง 3 โครงการในระยะเวลาอันรวดเร็ว

 

นายภัทรชัย ยังคาดการณ์ว่า จากแผนของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์บางรายยังคงมีแผนที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตรทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและในพื้นที่ปริมณฑล เพื่อดึงดูดกำลังซื้อในกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ และกลุ่มนักลงทุนที่เน้นการซื้อเพื่อการปล่อยเช่าในช่วงระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ในภาวะที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งปัจจัยลบต่างๆที่ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนของกลุ่มผู้ซื้อและผู้ประกอบการ ทำให้เห็นการปรับตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการกลับมาลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ในระดับราคาขายเฉลี่ยประมาณ 50,000 บาทต่อตารางเมตรอีกครั้ง หลังจากในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้าเป็นเซ็กเมนต์ที่หายไปจากตลาด และพบว่าในช่วงระดับราคาดังกล่าวถึงแม้ว่าจะยังคงเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้ซื้อและนักลงทุนแต่ก็เป็นช่วงระดับราคาที่มีอัตราการปฏิเสธปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งบางโครงการสูงมากกว่า 30% ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้ประกอบการและเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมแผนป้องกันเพื่อให้อัตราการปฏิเสธปล่อยสินเชื่ออยู่ในระดับที่น้อยที่สุด

 

ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี  2563 พบว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ยังคงแพร่ระบาดหนักในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้กำลังซื้อต่างชาติในตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ผู้ประกอบการเน้นกับมาให้ความสำคัญกับกำลังซื้อในประเทศมากขึ้น

นายภัทรชัย กล่าวให้ความเห็นว่า อัตราขายรวมของคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2563 มีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 43% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 14% และพบว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ถึง 2 ราย สามารถปิดการขายทั้ง 100% ของทั้งโครงการหลังจากเปิดการขายเพียงแค่ในช่วงของการพรีเซลล์เท่านั้น ทั้งในพื้นที่ใจกลางเมือง และในทำเลย่านอ่อนนุช รวมถึงอีก 3 โครงการ กรมธนารักษ์ ในพื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย  ห้วยขวาง และยานนาวา ต่างสามารถปิดการขายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในส่วนของ 2 โครงการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สามารถปิดการขายได้ทั้งโครงการในระยะเวลาอันรวดเร็วพบว่า ทั้ง 2 โครงการมีจุดขายที่ชัดเจนทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้ง รวมถึงราคาขายที่ถือว่าต่ำกว่าราคาขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายอยู่บนทำเลเดียวกันกว่า 20 % ซึ่งหมายความว่า ผู้ประกอบการเลือกที่จะนำกลยุทธ์การขายในเรื่องของราคาขายที่น่าสนใจ ที่นักลงทุนยังสามารถทำกำไรได้ รวมถึงผู้ที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยสามารถเข้าถึงได้ง่าย และตัดสินใจซื้อได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

สำหรับอัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2563 กว่า 57% หรือประมาณ 2,501 ยูนิตอยู่ในช่วงระดับราคา <100,000 บาทต่อตารางเมตร ตามมาด้วยในช่วงราคา 100,001 – 200,000 บาทต่อตารางเมตร ที่ประมาณ 43% หรือสามารถขายได้ประมาณ 1,535 ยูนิตในช่วงไรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา จากอัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่หลายโครงการในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา สามารถปิดการขายได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้แต่ส่วนใหญ่พบว่า ราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ในช่วงไม่เกิน100,000 บาทต่อตารางเมตร นอกจากนี่พบว่ากำลังซื้อส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจกับโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จที่นำมาลดราคา ซึ่งเนื่องจากราคาที่น่าสนใจและเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จที่ลูกค้าสามารถเห็นห้องจริงที่จะซื้อ รวมถึงมีโปรโมชั่นอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการนำมาดึงดูดความสนใจ ซึ่งถือว่าโปรโมชั่นเหล่านี้สามารถดึงดูดใจให้ผู้ซื้อเกิดความสนใจกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้หลายโครงการที่ก่อสร้างเสร็จสามารถปิดการขายลงได้ 100% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา

 

ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 95,027 บาทต่อตารางเมตร ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 9.6% เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาเป็นการพัฒนาของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีระดับราคาขายที่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรและตั้งอยู่ในพื้นที่นอกใจกลางเมืองเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ประกอบการเริ่มกังวลใจกับการกำหนดราคาขายของโครงการใหม่มากขึ้น ในภาวะที่ตลาดยังคงชะลอตัว ไม่กล้าที่จะปรับราคาขายมากเกินไปเนื่องจากกังวลใจว่าอาจจะไมได้รับการตอบรับตามที่คาดการณ์ไว้ จึงส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยของตลาดมากนัก และพบว่า แทบจะทุกโครงการที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการขายในช่วงที่ผ่าน มีราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งส่งผลให้โครงการเหล่านั้นสามารถทำยอดขายได้ค่อนข้างสูงและบางโครงการสร้างปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว

 

โพสที่เกี่ยวข้อง