3 ค่ายอสังหาฯขนบ้าน–คอนโดฯ ถล่มแคมเปญรับไตรมาส 3/65 เริ่มจากเสนาดีเวลลอปเม้นท์ฯยกทัพ 21 โครงการ จัดแคมเปญ พิเศษ “DETAILS FOR THE BETTER LIVING ทั้งควงพาร์ทเนอร์ชิพระดับโลก HUAWEI ร่วมแจมรับของแถม ฟรี X3 ด้าน LPN ให้ผ่อนคอนโดฯถูกกว่าราคาน้ำมัน “เจาะราคาหน้าไซต์ ผ่อนต่ำล้านละ 33 บาท/วัน” หวังเพิ่มโอกาสให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้น พร้อมกู้ได้ 100% ขณะที่ “แกรนด์ ยูนิตี้” ผนึก ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ลุยเปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุดกับ “Grand Unity Grand Sale” มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปีใน 6 โครงการ รับโปรโมชั่นเพิ่ม 3 ต่อเน้นๆ
SENA ควง HUAWEI จัดแคมเปญให้ฟรี X 3 ต่อ
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางเสนาฯมุ่งพัฒนาสร้างสังคมสีเขียวให้เกิดขึ้นในหมู่บ้านและโครงการต่างๆ ทั้งการนำนวัตกรรมเทคโนโลยี การผลิตไฟฟ้าไปใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง มีบริการสถานีชาร์จไฟฟ้า (EV Station) และวางระบบติดตั้ง EV Charger ภายในบ้าน เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ปัจจุบันโครงการของเสนาฯมีการติดตั้งโซลาร์ในทุกโครงการมากกว่า 700 หลังคาเรือน คิดเป็นการผลิตไฟกว่า 2,000 กิโลวัตต์ โดยทุกโครงการของเสนาฯพัฒนาขึ้นด้วยการนำหลักการ ESG หรือ Environment, Social, Governance เข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการที่ควบคู่กับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Made From Her “คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า” ด้วยความละเอียดในการกลั่นกรอง ใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความแตกต่างทั้งสินค้าและบริการ นอกจากนี้ได้มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการออกแบบด้วยวัสดุมีคุณภาพเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเชื่อว่า “ความละเอียดจะทำให้เราสามารถมอบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าได้”
“ดิจิทัล พาวเวอร์ กลุ่มธุรกิจน้องใหม่ของหัวเว่ย ให้บริการในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ โดยปัจจุบันหัวเว่ยส่งมอบโซลูชันอินเวอร์เตอร์อัจฉริยะ (Smart Inverter) จำนวนกว่า 2.4 กิกะวัตต์ ให้บริการลูกค้าและพันธมิตรมากกว่า 1,000 รายด้วยต้นทุนเฉลี่ยตลอดอายุการใช้งาน (LCOE) ที่คุ้มค่าที่สุด โดยรวมแล้วมีศักยภาพในการผลิตพลังงานสะอาด 6.18 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 6.16 ล้านตัน เฉพาะปีพ.ศ. 2564 คาดการณ์ว่ามีการติดตั้งผลิตภัณฑ์อินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์เป็นจำนวนกว่า 40,000 ครัวเรือน” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
ด้านนายโลแกน หวี่ ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ในครั้งนี้ว่า หัวเว่ยมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศในอาเซียนที่มีความมุ่งมั่นด้านความเป็นกลางด้านคาร์บอนอย่างจริงจัง ซึ่งหัวเว่ยจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายสีเขียวของประเทศไทยด้วยการรวบรวมเทคโนโลยีดิจิทัลพาวเวอร์, โซลูชันล้ำสมัย, และการสร้างความร่วมมืออย่างเปิดกว้างกับคู่ค้าในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างทั่วถึง และครอบคลุม การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการผสมผสานจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย โดยหัวเว่ยมีจุดแข็งในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานดิจิทัล และความเป็นผู้นำในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่จะมาช่วยพัฒนาให้หมู่บ้านและโครงการต่างๆ ของไทยสามารถประยุกต์ใช้พลังงานสะอาดอย่างแพร่หลายขึ้น ช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว ช่วยกระตุ้นตลาดโซลาร์เซลล์ และช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรม EV ในประเทศไทยไปพร้อมกัน” นายโลแกน กล่าว
ปัจจุบันมีจำนวนครัวเรือนในประเทศไทยที่หันมาติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาเพื่อช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มตลาดบ่งชี้ว่าน่าจะมีการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์มากถึง 80,000 ครัวเรือนภายในปี พ.ศ. 2565 ซึ่งนอกจากจะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในบ้านลงไปได้เป็นอย่างมากแล้ว ผู้ติดตั้งโซลูชันดังกล่าวในโครงการของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ฯยังจะได้รับโซลูชันอินเวอร์เตอร์ที่มีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ และมีความเสถียรจากหัวเว่ย พร้อมทั้งยังมีส่วนช่วยสนับสนุนเรื่องการพัฒนาคาร์บอนต่ำในประเทศ
โดยล่าสุด แคมเปญพิเศษ “DETAILS FOR THE BETTER LIVING คิดละเอียดกว่า เพื่ออยู่อย่างยั่งยืน” ทางเสนาฯร่วมจัดตอกย้ำแนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่าง HUAWEI ผู้นำนวัตกรรมพลังงานโซลาร์ รวมพลังช่วยกัน เพื่อลดการสร้างมลภาวะและปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ (NET ZERO CARBON) และต้องการให้คนไทยเข้าถึงพลังงานสะอาดได้ง่ายขึ้น พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดโลกร้อนไปด้วยกัน ทั้งนี้ ทางเสนาฯยังได้นำอุปการณ์จาก HUAWEI เข้ามาใช้ในโครงการบ้าน อาทิ SMART PV INVERTER ซึ่งเป็นอุปกรณ์แปลงพลังงานจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับ และ PID Recovery ช่วยฟื้นฟู ประสิทธิภาพและลดการเสื่อมสภาพของแผงโซลาร์เซลล์ รวมทั้งนำฟังก์ชัน AFCI ป้องกันการเกิดไฟไหม้ด้วยการตัดวงจรอบบอัตโนมัติมาใช้ในโครงการของเสนาฯ ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจติดตั้งโซลูชันด้านดิจิทัลพาวเวอร์และโซลาร์เซลล์ (PV) จากหัวเว่ย
รวมทั้งยังได้มีการจัดโปรโมชันพิเศษ GREEN MORE! FREE MORE! ร่วมกัน สำหรับลูกค้าที่สนใจซื้อบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮมโครงการใหม่พร้อมอยู่จากเสนาฯ ทั้ง 21 โครงการการที่เข้าร่วม ตั้งวันนี้ – 31 สิงหาคม 2565 รับของแถมฟรี X3 เช่น 1.Solar roof 2.Smart TV จาก Huawei 3.ส่วนลดดอกเบี้ย 1%ปีแรก และส่วนลดสูงสุด 700,000 บาท รวมมูลค่าสูงสุด 800,000 บาท ประกอบด้วย SENA GRAND HOME รังสิต – ติวานนท์ ,SENA PARK GRAND รามอินทรา -กม.9,SENA PARK VILLE รามอินทรา – วงแหวน ,SENA VILLE ลำลูกกา – คลอง 6, SENA VILLE บรมราชชนนี – สาย 5,SENA VILLAGE รังสิต – ติวานนท์ ,SENA VILLAGE รามอินทรา – กม.9 ,SENA VELA เทพารักษ์ – บางบ่อ, SENA VIVA เพชรเกษม – พุทธมณฑล สาย 7, SENA AVENUE1 รังสิต – คลอง 1, SENA AVENUE รัตนาธิเบศร์ – บางบัวทอง, SENA AVENUE บางปะกง – บ้านโพธิ์, SENA VILLAGE รัตนาธิเบศร์ – บางบัวทอง, SENA VELA รังสิต – คลอง 1, SENA VIVA วงแหวน – บางบัวทอง, SENA VIVA รัตนาธิเบศร์ – บางบัวทอง, SENA VELA สิริโสธร, SENA VIVA ศรีราชา-อัสสัมชัญ ราคาเริ่ม 2.19 – 12 ล้านบาท
LPN ให้ผ่อนคอนโดฯถูกกว่า…ราคาน้ำมัน
นางปนัดดา ขจรศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า ในไตรมาส 3/2565 นี้ บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “เจาะราคาหน้าไซต์ ผ่อนต่ำล้านละ 33 บาท/วัน” เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น ด้วยการผ่อนค่างวดคอนโดมิเนียมเพียงล้านละ 33 บาทต่อวัน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าราคาน้ำมันและภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในปัจจุบัน โดยนำโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ทั้ง 15 โครงการ มาเข้าร่วมแคมเปญ เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนกันยายน 2565 นี้
ทั้งนี้ นอกจากลูกค้าจะได้รับแคมเปญ “เจาะราคาหน้าไซต์ ผ่อนต่ำล้านละ 33 บาท/วัน” แล้ว ลูกค้ายังจะได้สิทธิพิเศษกับส่วนลดและของแถมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น อยู่ฟรีนาน 6 เดือน*, ฟรีค่าส่วนกลางนาน 3 ปี*, ฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอนฯ*, ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า*, เฟอร์นิเจอร์ (เฉพาะยูนิตที่กำหนด)* และมูลค่าส่วนลดอื่นๆ* (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
สำหรับโครงการทั้ง 15 แห่ง ประกอบด้วย
#คอนโดในเมือง
1) ลุมพินี สวีท ดินแดง – ราชปรารภ แบบ 1 ห้องนอน ราคา 3.39 ล้านบาท
2) ลุมพินี เพลส รัชดา – สาธุ แบบห้องสตูดิโอ ราคา 2.39 ล้านบาท และแบบ 1 ห้องนอน ราคา 2.79 ล้านบาท
3) ลุมพินี เพลส พระราม 3 – ริเวอร์ไรน์ แบบห้องสตูดิโอ ราคา 2.03 ล้านบาท
4) ลุมพินี ซีเล็คเต็ค สุทธิสาร – สะพานควาย แบบ 1 ห้องนอน ราคา 3.45 ล้านบาท
5) ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์- พระราม 2 แบบ 1 ห้องนอน ราคา 1.89 ล้านบาท
6) ลุมพินี พาร์ค บรมราชชนนี – สิรินธร แบบห้องสตูดิโอ ราคา 1.86 ล้านบาท และแบบ 1 ห้องนอน ราคา 2.42 ล้านบาท
#คอนโดแนวรถไฟฟ้า
7) ลุมพินี พาร์ค พหล 32 แบบ 1 ห้องนอน ราคา 3.79 ล้านบาท
8) ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 แบบห้องสตูดิโอ ราคา 1.39- ล้านบาท
9) ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 101/1 – ปุณณวิถี แบบ 1 ห้องนอน ราคา 1.75 ล้านบาท
10) ลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า – ริเวอร์วิว แบบห้องสตูดิโอ ราคา 1.10 ล้านบาท และแบบ 1 ห้องนอน ราคา 1.59 ล้านบาท
11) ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต – คลอง 1 แบบห้องสตูดิโอ ราคา 950,000 บาท
12) ลุมพินี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ แบบห้องสตูดิโอ ราคา 2.99 ล้านบาท
13) ลุมพินี ซีเล็คเต็ด จรัญ 65 – สิรินธร สเตชั่น แบบห้องสตูดิโอ ราคา 2.09 ล้านบาท และแบบ 1 ห้องนอน ราคา 2.55 ล้านบาท
#คอนโดตากอากาศ
14) ลุมพินี ซีวิว ชะอำ แบบ 1 ห้องนอน ราคา 1.49 ล้านบาท
#คอนโดต่างจังหวัด
15) ลุมพินี เพลส ยูดี – โพศรี จังหวัดอุดรธานี แบบ 1 ห้องนอน ราคา 1.66 ล้านบาท
“แกรนด์ ยูนิตี้” จับมือ LH BANK มอบดอกเบี้ยคงที่ 2% ผ่อนต่ำเพียงล้านละ 3,000 บาท
นางสาวทัดดาว จิระสวัสดิ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด หรือ GRAND UNITY – “Makes Sense.” กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งสัญญาณถึงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นรวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ หลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าทิศทางการเติบโตของธุรกิจอสังหายังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าลูกค้าที่ต้องการซื้อคอนโดฯ ยังคงมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือกับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน)หรือ LH BANK ร่วมมือกันในแคมเปญใหม่ล่าสุดกับ “Grand Unity Grand Sale” มาพร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปี เพียงจองเริ่มต้น 5,000 บาท* แล้วยื่นกู้กับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ รับอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษคงที่ 2% นาน 2 ปี กรณี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเบา ๆ เพียง 3,000 บาทต่อเดือน* สำหรับลูกค้าที่ซื้อโครงการคุณภาพ พร้อมอยู่ บนทำเลที่ดีที่สุด ทั้ง 6 โครงการ ได้แก่
1.โครงการ เดนิม จตุจักร (DENIM Jatujak) ในราคาเริ่มต้น 2.35 ล้านบาท*
2.โครงการ เดอ ลาพีส จรัญ81 (De LAPIS Charan 81) ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท*
3.โครงการ เซียล่า จรัญฯ 13 สเตชั่น (CIELA Charan 13 Station) ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท*
4.โครงการ แมสซารีน รัชโยธิน (MAZARINE Ratchayothin) ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท*
5.โครงการ คาร่า อารีย์ – พระราม 6 (Kara Ari – Rama 6) ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท*
6.โครงการ เดอะ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ ราชดำริ (The Private Residence Rajdamri) ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท*
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ซื้อภายในวันที่ 23 – 24 กรกฎาคม 2565 นี้ ยังได้รับโปรโมชั่นเพิ่ม 3 ต่อเน้นๆ ทั้งลดทั้งแถม ประกอบด้วย ฟรีทองคำ, ฟรีเฟอร์นิเจอร์, ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า, ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน และ term payment ที่สบายกระเป๋า พร้อมรับ Cashback สูงสุดถึง 100,000 บาท* และส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 2,000,000 บาท.* ซึ่งคาดว่าแคมเปญนี้จะสามารถกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสที่ 3 และผลักดันให้ยอดขายและรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ประมาณ 3,500 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน
นายธกร เอี่ยมจิรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจสินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่อย ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวเพิ่มเติมว่า “ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมเป็นของตัวเองในข้อเสนอสุดพิเศษ ซึ่งแคมเปญ Grand Unity Grand Sale ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่จะช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของโครงการคุณภาพ พร้อมอยู่ บนทำเลที่ดีที่สุดจากแกรนด์ ยูนิตี้ ได้อย่างคุ้มค่า ด้วยการมอบอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษเฉพาะลูกค้าแกรนด์ ยูนิตี้ เท่านั้น”นายธกร กล่าว
โดยทุกโครงการมาพร้อมราคาและข้อเสนอสุดพิเศษ เฉพาะวันที่ 23 – 24 กรกฎาคม 2565 นี้ เท่านั้น
