ตั้งเป้าขยายแผนการพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่ EEC ปีละ 1 – 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าหากทำเลมีศักยภาพมากอาจจะได้เห็นโปรเจ็กต์ที่มีมูลค่าสูงกว่านั้น
เล็ก-กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AssetWise ประกาศแนวทางการพัฒนาโครงการบนทำเล EEC ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Flagship Project คอนโดมิเนียม “อควารัส จอมเทียน พัทยา”
AssetWise เข้ามาบุกทำเลพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตั้งแต่ช่วงปี 2565 หลังช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง ปักหมุดโครงการแรกบนทำเล ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ภายใต้ชื่อโครงการ แอทโมซ ซีรีน ศรีราชา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ AssetWise พร้อมลุยพัฒนาโปรเจ็กต์ต่อเนื่องบนทำเล EEC ที่ปัจจุบัน AssetWise มีพอร์ตคอนโดฯแล้วกว่า 4,770 ล้านบาท รวม 4 โครงการ คือ โครงการ แอทโมซ ซีรีน ศรีราชา, โครงการเคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน, โครงการเคฟ โคโค่ บางแสน และ โครงการแอทโมซ แคนวาส ระยอง
ล่าสุดส่งโปรเจ็กต์ที่ 5 โครงการ อควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya) มูลค่า 5,000 ล้านบาท ที่ตั้งใจปั้นให้เป็น Flagship Project แห่งปี ด้วยการออกแบบที่เป็น Iconic Landmark พร้อมพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม และรูปแบบห้องที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย รวมทั้งยังได้บริษัทออกแบบชื่อดังมาร่วมออกแบบให้กับโครงการ
“พัทยา เป็นทำเลที่ยังไงก็ต้องมา นอกจาก Night Life ที่สนุกมากแล้ว Day Life ของพัทยาก็ไม่แพ้ใครแน่นอน และหาดจอมเทียนเป็นหาดที่มีสีสันไม่ใช่แค่ระดับประเทศ แต่เป็นระดับ International ที่เราจะเห็นการจัดกิจกรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด” เล็ก-กรมเชษฐ์กล่าว
กว่าจะเป็น อควารัส จอมเทียน พัทยา
ก่อนที่ AssetWise จะส่งโครงการ อควารัส จอมเทียน พัทยา ใช้ระยะเวลาศึกษาข้อมูลมาเป็นระยะเวลานานไม่เพียงแค่ทำเลที่มีการเติบโตบนพื้นที่ EEC รวมไปถึงตัวโปรดักส์ที่ต้องตอบโจทย์การซื้อเพื่อลงทุนและอยู่อาศัยเอง โดยข้อมูลบางส่วนของการพัฒนาเป็นการ Workshop ร่วมกับทางเอเจนท์ ที่ร่วมแชร์ Knowhow ของสินค้าบนทำเล สู่ฟังก์ชันการออกแบบที่ อควารัส จอมเทียน พัทยา จะเป็นคอนโดมิเนียมที่โดดเด่นที่สุดบนทำเล ดังนั้นที่นี่จึงไม่ใช่แค่การยกการออกแบบดีไซน์จากกรุงเทพฯสู่ทำเลพัทยา แต่เป็นการเรียนรู้และเข้าใจถึงความต้องการจริงๆของการใช้ชีวิตอย่างสูงสุด
อควารัส จอมเทียน พัทยา Iconic Landmark ใหม่บนหาดจอมเทียน
โครงการ อควารัส จอมเทียน พัทยา ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดกว่า 5 ไร่ บนถนนจอมเทียน สาย 2 ใกล้ถนนสุขุมวิท และใกล้หาดจอมเทียนเพียง 500 เมตรพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ สูง 44 และ 47 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวมทั้งสิ้น 606 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้า 5 ยูนิต ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ The Impression of Blue โดยดึงจุดเด่นของทะเลมาเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาออกแบบ ตัวอาคารออกแบบโดย Atom Design และเป็นอาคารเพียงหนึ่งเดียวบนทำเลพัทยาที่ดีไซน์ให้มีพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง 2 อาคาร Landscape ออกแบบโดย VVdesine Landscape Architecture และการออกแบบภายใน โดย SAY Studio ชูจุดเด่นด้วยการออกแบบดีไซน์สุดหรู ห้องพักวิวทะเลกว่า 85% และฟังก์ชันห้องรูปแบบ Fully furnished ที่ออกแบบโดย Olivia Living ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าทั้งซื้ออยู่เอง และซื้อเพื่อลงทุน ราคาเริ่มต้น 4.21 ล้านบาท* เฉลี่ยต่อตารางเมตร 150,000 บาท* โดยห้องพักมีทั้งรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.70 – 76.40 ตร.ม., ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 79.75 – 141.30 ตร.ม., ห้อง 3 Bedrooms ขนาด 130.10 – 173.80 ตร.ม. และ Rare Item ห้อง Penthouse ราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาท ขนาด 315.90 ตร.ม. ที่มีเพียง 3 ยูนิต เท่านั้น
สิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลาง ออกแบบให้เป็น Double Cloud Facilities ที่อยู่ด้านบนของตัวอาคารดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันสวยงาม และกิจกรรมหลากหลายรูปแบบพร้อมชมวิวทะเลแบบพาโนรามาบนชั้นสูงสุดของโครงการ และพิเศษไปกว่านั้นกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มากถึง 4 สระ รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่รายล้อมอยู่ทั่วโครงการ ปัจจุบันโครงการได้รับ EIA Approved พร้อมเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยมีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ปี 2570
มองพัทยาสร้างโอกาสเติบโต
ตลาดพัทยาเป็นตลาดใหม่ของบริษัท ถ้าทำยอดขายได้ดีเป็นโอกาสที่น่าสนใจมากกว่าทำเลอื่น ๆ
เพราะเป็นทำเลที่มีกำลังซื้อ ถ้าเป็นไปได้เราหวังที่จะเจาะตลาดทำเลพัทยามากกว่า
นับครั้งแรกของการพัฒนาโครงการบนพื้นที่ทำเลพัทยาที่เป็นโมเดลนำร่อง โดย อควารัส จอมเทียน พัทยา เป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม นอกจากนั้น เล็ก-กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ยังสนใจการพัฒนาโครงการบ้าน 2 ชั้น สำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งการพัฒนาวิลล่าปล่อยเช่าสำหรับคนกรุงเทพฯในทำเลพัทยาเพราะมองเห็นถึงโอกาสการเติบโตในอนาคตของบริษัท ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงของการศึกษาและยังไม่มี Landbank ในมือ โดยลูกค้าต่างชาติ 3 สัญชาติหลักในพื้นที่พัทยาได้แก่ จีน รัสเซีย ยุโรป ขณะเดียวกันอัตราการขายของทำเลพัทยาจะเกิดขึ้นในช่วง ไฮซีซั่น เป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่ช่วงปลายตุลาคม ถึง สิ้นสุด เดือนมีนาคม จะเป็นช่วงระยะเวลา 5 เดือน ที่มีการแข่งขันรุนแรงของผู้ประกอบการ ทั้งนักท่องเที่ยวและลูกค้าที่มีกำลังซื้อและมองหาบ้านหลังที่ 2 จะมาในช่วงวีคเอน เป็นช่วงที่จะส่งผลให้เกิดการซื้อ-ขายอสังหาฯตามมา ในช่วงหลังวิกฤติโควิด-19 มีโครงการเปิดขายใหม่และเริ่มก่อสร้างบนทำเลเพียงแค่ 2-3 โครงการเท่านั้น ซึ่งเป็นโอกาสดี เพราะ supply บนทำเลยังมีน้อย คาดหวังว่าในช่วงไฮซีซั่นนี้ อควารัส จอมเทียน พัทยา จะทำยอดขายได้ 30-40%