เซ็นทรัล รีเทลวางเป้า 3 ปีเพิ่มงบลงทุน 45,000-47,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ-พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล-วิจัยและพัฒนา Store Concept ใหม่ ลุยขยายสาขาใหม่รวม 57-72 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 31-41 สาขา ตั้งเป้ารายได้และ EBITDA ช่วง 3 ปีเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปีผ่านกลยุทธ์ “New Heights, Next Growth”
สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้างบลงทุนภายในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2568-2570)มูลค่า 45,000-47,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงการวิจัยและพัฒนา Store Concept ใหม่ๆ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจ และการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
โดยมีแผนขยายสาขาใหม่รวม 57-72 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิมประมาณ 31-41 สาขา แบ่งเป็นแผนเปิดดีพาร์ทเม้นท์ สโตร์สาขาใหม่ 1-2 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 4-6 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 76 สาขา, การเปิดตัวท็อปส์สาขาใหม่ 25-30 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม ประมาณ 8-10 สาขา, แผนเปิดสาขาใหม่ไทวัสดุ 13-16 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 8-10 สาขา,เปิดห้างโรบินสัน ไลฟ์สไตล์สาขาใหม่ 2-3 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 5-7 สาขา รวมถึงมีแผนจะเปิด Go! สาขาใหม่ในต่างประเทศรวม 16-21 สาขา แบ่งเป็น Go! Mall 4-6 สาขา และ Go! Hypermarket 12-15 สาขา รวมถึงแผนปรับปรุงสาขา Go! Mall เดิมอีก 6-8 สาขา
แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในช่วงนี้จะชะลอตัว รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงนี้ แต่เซ็นทรัล รีเทล ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งมองว่าเป็นโอกาสและความท้าทายในการขับเคลื่อนให้เซ็นทรัล รีเทล Rethink & Reset โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมการทำงานในทุกมิติขององค์กร ทั้งในแง่การเสริมศักยภาพให้บุคลากร เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงทำให้เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้ลึกกว่าเดิม เพราะผู้บริโภคในทุกวันนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่มองหาประสบการณ์ที่ดีที่สุด คุ้มค่า สะดวก ง่าย และรวดเร็ว
นอกจากนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้ และ EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย)ในช่วง 3 ปีเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี ผ่านกลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” ภายใต้ 5 แกนหลัก เพื่อยกระดับศักยภาพองค์กรสู่การเติบโตครั้งใหม่ ประกอบด้วย
Reinforce Customer Focus เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าผ่านการเสริมแกร่ง The 1 Loyalty Program ในไทยและเวียดนาม ที่มีจำนวนสมาชิกรวมกันกว่า 26 ล้านราย พร้อมเดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้า Young & Mainstream และเจาะกลุ่มลูกค้า B2B มากขึ้น
Strengthen CRC Foundation สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจหลัก ทั้งด้านยอดขายและกำไร รวมถึงการขยายและปรับปรุงสาขา พร้อมทั้งรวมเทคโนโลยี แพลตฟอร์มให้เป็นหนึ่งเดียวรองรับการช้อปปิ้งแบบ Omnichannel ที่ไร้รอยต่อ รวมทั้งนำระบบ AI เข้ามาเสริมแกร่ง และผลักดันยอดขายออนไลน์ให้เติบโตแบบ Double Digit อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเร่งขยายธุรกิจ Food และ Mall ในเวียดนาม และการนำเสนอ Store Format ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเชิงลึกในแต่ละพื้นที่
Expedite New Growth เร่งสร้างการเติบโตให้กับ New Growth Engine ของเซ็นทรัล รีเทล ผ่านการขยาย GO WHOLESALE ทั้งการขยาย Private Labels การก้าวสู่ HORECA Destination สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร,การเป็นผู้นำเรื่องของสด (Always Fresh-Forward), ขยายสาขาอีกกว่า 12-18 สาขา ภายใน 3 ปี และการพัฒนา New Store Concept และ Fulfillment Store ให้เหมาะกับกลุ่ม HORECA และค้าปลีกอาหาร นอกจากนี้ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายธุรกิจของ Auto1 ศูนย์บริการและจำหน่ายอุปกรณ์รถยนต์ครบวงจร ด้วยการเร่งเปิดสาขาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10 สาขาต่อปีให้ครอบคลุมในทำเลศักยภาพ
Scale Synergy มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันกับธุรกิจทั้งหมดในเครือเซ็นทรัล รีเทล และเซ็นทรัลกรุ๊ป ทั้งในเชิงการเพิ่มยอดขาย และผลักดันการทำงานร่วมกันของพนักงานในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน ตลอดจนการบริหารพื้นที่ขายให้ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมเพิ่มผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ด้วยโมเดล Mix-used และ Hybrid Retail Store
Disciplined Financial Management ควบคุมค่าใช้จ่าย เน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ปรับแผนการลงทุนให้สอดคล้องและยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ พร้อมบริหารโครงสร้างเงินทุนอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น
บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจค้าส่ง ที่มีสินค้าหลากหลายประเภท ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-Format Multi-Category Omnichannel Retail และ Wholesale Platform) ในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม โดยมีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,844 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568) อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel
โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มฟู้ด เน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค วัตถุดิบอาหาร รวมถึงสินค้าและบริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่าง ๆ เช่น ท็อปส์,ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์,ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด,ท็อปส์ เดลี่ ,ท็อปส์แคร์ และโก โฮลเซลล์ ในประเทศไทย ส่วนประเทศเวียดนาม ได้แก่ บิ๊กซี,โก (GO!),ท็อปส์ มาร์เก็ต มินิ โก (go!) และ ลานชี มาร์ท
กลุ่มฮาร์ดไลน์ เน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ,ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม,บีเอ็นบี โฮม,เพาเวอร์บาย,ออฟฟิศเมท,บีทูเอส, เมพ และเหงียนคิม
กลุ่มแฟชั่น เน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป
กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัท และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์,ท็อปส์ พลาซ่า และบิ๊กซี ,GO! เวียดนาม