พีซีแอล ฮอสปิทาลิตี้ (PCL Hospitality) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารจัดการโรงแรมแบบครบวงจรมานานนับ 10 ปี ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์ (Franchise) และการบริหารภายใต้แบรนด์ของเจ้าของโครงการ (White Label)ทั้งโครงการสร้างใหม่และโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว โดยครอบคลุมพื้นที่ในเมืองหลักและแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วประเทศ ภายใต้การบริหางานของซีอีโอ “ปฐม ศิริวัฒนประยูร” ที่สั่งสมประสบการณ์ในธุรกิจโรงแรมมากว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ทำหน้าที่เป็นบริษัทที่รับบริหารโรงแรมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจครบวงจร

ปฐม ศิริวัฒนประยูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทพีซีแอล ฮอสปิทาลิตี้ จำกัด (PCL  Hospitality) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า30ปีที่อยู่ในวงการโรงแรม ผมเดินทางไปทำงานมาหลายประเทศและหลายแบรนด์ ทำให้มีโอกาสได้เจอกับนักลงทุน เจ้าของโรงแรมในระดับอินเตอร์แบรนด์ดังจากต่างประเทศ และผู้ประกอบการหลายคนที่อยู่ในวงการนี้ เป็นจุดประกายความคิดให้เปิดตัวบริษัทเพื่อลงทุนโรงแรมเมื่อช่วง 10ปีที่ผ่านมา  โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 เสาหลัก คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน รวมทั้งเครื่องมือหรือ Tools ที่มาจากการวาง process ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการจัด Training เพื่อพัฒนาบุคลากร และการสร้างยุทธศาสตร์ในด้านของ Strategic Guidance for Stakeholders เพื่อกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ในการบริหารจัดการ ทั้ง Guidance กับพนักงานของเราเอง และ Guidance กับทาง stakeholder รวมถึง owner investor

โดยเฉพาะการติดกระดุมเม็ดแรกที่ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะถ้าติดผิดตั้งแต่เม็ดแรกจะแก้ไขได้ยากมาก ทำให้บริษัทได้ จัดทำ Feasibility Study ตั้งแต่เริ่มแรกเพื่อศึกษาความเป็นได้ของโรงแรม กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโรงแรมคือใคร ไปจนถึงการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานภายในโรงแรมอย่างละเอียดทั้งในมุมของแขกที่จะมาพักและในมุมของพนักงาน ที่ต้องทำงานอย่างสะดวก

ดังนั้นการเลือกคนออกแบบถือที่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ต้องเป็นคนที่เข้าใจธุรกิจโรงแรมจริงๆ เพราะมีรายละเอียดเยอะกว่าการออกแบบอาคารทั่วไป ซึ่ง PCL ไม่ได้เข้าไปรับงานบริหารเพียงอย่างเดียว แต่ให้คำปรึกษาตั้งแต่ต้นน้ำ เริ่มตั้งแต่การพัฒนาโครงการ การสร้างแบรนด์ การวางระบบ Operation การจัดการรายได้ ไปจนถึงการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ให้สูงสุด

บริษัทมีบริการหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครบทุกด้าน ทั้งการบริหารภายใต้ชื่อเจ้าของ (White Label) และการบริหารภายใต้แบรนด์โรงแรมชั้นนำของเครือโรงแรมระดับโลก (International Chain) ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับโรงแรมตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป  โดยได้รับวางไว้วางใจจาก Internationa Chain ให้เป็น Preferred Partner ในการวางแผนการพัฒนาไปจนถึงการบริหารจัดการอย่างเต็มรูปแบบ

ปัจจุบัน PCL มีห้องพักที่รับบริหารอยู่ทั้งหมด 1,300 ห้อง มีทั้งโรงแรมที่บริหารภายใต้แบรนด์ของ PCL และการร่วมมือกับเชนโรงแรมดัง เช่น ฮิลตัน  โดยมีโรงแรมที่อยู่ในรูปแบบFeasibility & Brand Selectionกว่า 10 โรงแรม และ Project Management &Technical Services อีกกว่า 30 โรงแรม  ส่วนภายในปลายปีนี้จะเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ คือ Best Western ติวานนท์ ซึ่งเป็นโรงแรมแบบ Conversion ที่มีการรีโนเวทโรงแรมเดิม ทำให้สามารถเปิดตัวโรงแรมได้เร็วกว่าการสร้างโรงแรมใหม่

นอกจากนี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้บริหารโรงแรมใหม่ 2แห่งของแบรนด์ Hilton ได้แก่ Hampton by Hilton Phuket Town ซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์นี้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  และ Nivata Koh Samui, Tapestry Collection by Hilton ที่เตรียมจะเปิดตัวภายในปลายปีนี้ นอกจากนี้ยังได้มีการปรับโฉมโรงแรม Wyndham Jomtien Pattaya ให้กลายเป็นที่พักระดับพรีเมียมในพัทยา รวมทั้งโครงการขนาดใหญ่อย่าง Vega City Nha Trang เวียดนาม ที่รวบรวมโรงแรมในเครือ Melia, Grand Melia และ New World ไว้ด้วยกัน

กางโรดแมป 5ปี Revenue Growth 5,000 ห้อง

สำหรับแผนการดำเนินงานของ PCL ในอีก 5 ปีข้างหน้า 2569-2573) ตั้งเป้า Revenue Growth ไว้ถึง 5,000 ห้อง หรือเติบโต 100% ต่อปีในด้านรายได้จากการให้คำปรึกษาและการจัดการ ส่วนในด้านของ Strategic  investment วางแผนเปิดตัวโรงแรม 5 แห่งในเมืองหลักและเมืองรอง ที่มุ่งเน้นรูปแบบการใช้ประโยชน์แบบผสมผสานและรูปแบบรายได้ที่ยืดหยุ่น และขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ในประเทศลาวและเวียดนาม

ตลาดท่องเที่ยวไทยเผชิญความท้าทายรอบด้าน

สำหรับทิศทางของตลาดท่องเที่ยวไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน สงคราม รวมถึงความปลอดภัยภายในประเทศไทย ที่เคยส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ภัยธรรมชาติ และการแข่งขันของตลาดท่องเที่ยวเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม แต่ PCL ยังมีเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตลาดท่องเที่ยวไทย ทำให้ภาพรวมธุรกิจโรงแรมและที่พักยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยเป็น World-class Destination  ของนักท่องเที่ยว ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งภูมิประเทศ ผู้คน วัฒนธรรม การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยมีแรงหนุนจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สำคัญคือการกลับมาของนักท่องเที่ยวกลุ่มกำลังซื้อสูงจากยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน ซึ่งส่งผลให้ราคาห้องพักในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญปรับตัวสูงขึ้น และมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด