ศุภาลัยเดินหน้าเปิดตัว “SUPALAI ELITE SUKHUMVIT 39” คอนโดฯใจกลางสุขุมวิท 39ราคาเฉลี่ย 1.2แสนบาท/ตร.ม.เริ่ม 6.3ล้านบาท

ELITE” เป็นหนึ่งในแบรนด์เรือธงของกลุ่มศุภาลัย ในการบุกตลาดคอนโดมิเนียมทำเลในเมือง และศูนย์กลางธุรกิจ โดยได้เปิดตัวโครงการไปแล้ว 3โครงการเริ่มตั้งแต่ปี 2555 ในย่านสาทร พญาไท และสุรวงศ์  ล่าสุดศุภาลัยจะกลับมาเปิดตัวแบรนด์คอนโดฯเอลีท โครงการที่ 4 อีกครั้งในรอบ 10 ปี บนทำเลย่านสุขุมวิท 39 ซึ่งเป็นทำเลดั้งเดิมของกลุ่มศุภาลัยที่เริ่มบุกตลาดคอนโดฯในย่านนี้เมื่อ 31ปีที่แล้ว รวมทั้งเคยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของศุภาลัยด้วย

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร สุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศุภาลัยเป็นบริษัทที่เข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้าในย่านสุขุมวิทมากที่สุด โดยเฉพาะในทำเลสุขุมวิทซอย 39 ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัท และยังเป็นที่ตั้งของคอนโดมิเนียมโครงการแรกของบริษัท คือ  ศุภาลัย เพลส สุขุมวิท 39 ซึ่งสร้างเสร็จในปี 2537 และต่อเนื่องด้วยโครงการ SUPALAI ORIENTAL SUKHUMVIT 39 ที่มีทั้งหมด 4 ตึก พื้นที่ใช้สอยกว่าแสนตารางเมตร

โดยทำเลสุขุมวิท 39 เป็นทำเล “ดีที่สุด” ในย่านใจกลางสุขุมวิท ด้วยตำแหน่งที่ตั้งในซอยสุขุมวิท 39 ที่อยู่ระหว่างอโศก (สุขุมวิท 21) และทองหล่อ ทำให้การเดินทางสะดวกทเชื่อมต่อได้ทั้งถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี โดยมีความเงียบสงบกว่าสุขุมวิท 21 ที่ติดถนนใหญ่ สามารถเดินทางไปซอยทองหล่อได้ภายใน 5 นาที อีกทั้งยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้างสรรพสินค้า เอ็มโพเรียม, EmQuartier, EmSphere) และโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลกรุงเทพ

ทั้งนี้ในช่วงวันที่ 30-31 สิงหาคมนี้บริษัทจะเปิดพรีเซลคอนโดฯโครงการที่ 3 ในซอยสุขุมวิท  39 ภายใต้แบรนด์ “เอลิท” หรือ ELITE  ออกแบบสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก พร้อมกับคอนเซ็ปต์การออกแบบที่ถ่ายทอดความงามเหนือกาลเวลาผสมผสานความทันสมัย ที่ได้แรงบันดาลใจหลักมาจากการตีความ “ความโค้ง” ซึ่งถูกมองว่าเป็นรูปทรงที่ละมุนละไมและมีความงามตามธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์ จักรวาล หรือรุ้งกินน้ำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความไร้ขอบเขตและความงามที่บริสุทธิ์ ส่วนโทนสีที่ใช้ ได้แก่ สีขาวสว่าง และสีน้ำเงิน (รวมถึงสีเทา สีเขียว สีน้ำตาลเข้ม) ซึ่งสีน้ำเงินเป็นสีที่ราชสำนักทั่วโลกนิยมใช้ แสดงถึงความหรูหรา

โครงการศุภาลัย เอลิท สุขุมวิท 39 (SUPALAI ELITE SUKHUMVIT 39) ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2 ไร่ เป็นอาคารสูง 25 ชั้นมีจำนวนยูนิตเพียง 192 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท ห้องชุดส่วนใหญ่เป็นห้องขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบให้ใช้ประโยชน์ใช้สอยได้เต็มที่เริ่มต้นที่ 2 ห้องนอน ขายในราคาประมาณ 120,000 บาทต่อตารางเมตร แต่คุณภาพเทียบเท่ากับโครงการราคา 200,000 บาทต่อตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่ ได้แก่ Sky Layro, Fitness Studio, ที่ปีนหน้าผา, สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge บนดาดฟ้าพร้อมวิวสวย, ห้องเด็กเล่น, และสวนตามชั้นต่างๆ โดยเปิดรอบ VIP ไปได้ 4 วันสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 500 ล้านบาท

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการศุภาลัย เอลิท สุขุมวิท 39 ถือเป็นการต่อยอดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับ Luxury ในทำเลศักยภาพสูงย่านพร้อมพงษ์ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Super Prime Location ของกรุงเทพฯ ทั้งในแง่ของศักยภาพการใช้ชีวิตและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ โดยที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ อาทิ Tops Food Hall, Fuji UFM Supermarket ขณะเดียวกันยังเชื่อมต่อระบบคมนาคมขนส่งทั้ได้ง BTS สถานีพร้อมพงษ์ MRT สถานีเพชรบุรี และAirport Rail Link สถานีมักกะสัน ท่าเรือคลองแสนแสบ และทางด่วนด่านเพชรบุรี

ที่ผ่านมาทำเลสุขุมวิท 39 มีข้อจำกัดด้านอุปทานของคอนโดฯระดับพรีเมียม โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่สร้างเสร็จมาระยะหนึ่งและไม่ค่อยมีห้องชุดที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ทำให้ตลาดยังคงมีช่องว่างรองรับโครงการใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเซกเมนต์นี้ได้ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายและพร้อมลงทุนกับที่อยู่อาศัย

12ปีมีซัพพลายใหม่เข้าสู่ตลลาดน้อยแค่ 4พันยูนิต ห้องชุดแบบ 1นอนเยอะสุด

ขณะที่ในช่วงปี 2560-2564 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดคอนโดฯในทำเลสุขุมวิทตอนกลาง เช่น สุขุมวิท 39 รวมถึงทองหล่อและเอกมัย มีการเปิดตัวคอนโดฯค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในทองหล่อและเอกมัย ในขณะที่พร้อมพงษ์มีน้อยกว่า แต่ช่วงหลังปี 2564 เป็นต้นมา ปริมาณการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงอย่างชัดเจน

และเมื่อโฟกัสไปที่ทำเลสุขุมวิท 39 โดยเฉพาะในซอยลึก มีซัพพลายคอนโดฯที่เข้าสู่ตลาดตลอดในช่วงปี 2556-2567 จำนวนไม่มากนักประมาณ 4,000 ยูนิต และในช่วง 6 ปีที่ผ่านมามีโครงการที่เหลือขายอยู่เพียงไม่กี่โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ขายหมดแล้วlส่วนประเภทห้องชุดที่เปิดตัวเข้ามาในตลาดมากที่สุดจะเป็นห้องแบบ1 ห้องนอน โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70-80% ของยูนิตที่เปิดตัวทั้งหมด

 สาเหตุที่ผู้พัฒนาโครงการเน้นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน เนื่องจากต้องการทำให้ราคาต่อยูนิตเริ่มต้นสามารถจับต้องได้”(affordable) แม้ว่าราคาต่อตารางเมตรจะสูงก็ตาม ด้วยการลดขนาดพื้นที่ห้องลง ส่งผลให้ห้องชุดแบบ 2 ห้องนอนมีจำนวนน้อยกว่า ในขณะที่ห้องชุดแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไปมีจำนวน “น้อยมาก” ในตลาด

ความต้องการห้องชุดขนาดใหญ่และช่องว่างในตลาด

อย่างไรตามถึงแม้ว่าถึงแม้ว่าห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนจะขายได้ดีที่สุดประมาณ 84% แต่กลับพบว่ามีความต้องการห้องชุดขนาดใหญ่แบบ2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอนขึ้นไปสำหรับครอบครัวสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในทำเลสุขุมวิทตอนกลาง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีลูกและต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอสำหรับสมาชิกในครอบครัว ส่งผลให้สินค้าแบบ 3 ห้องนอนมือหนึ่งในตลาดถูกดูดซับไปหมดแล้ว ทำให้ลูกค้าที่มีงบประมาณ 15-20 ล้านบาทที่ต้องการห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน ไม่มีสินค้าให้ซื้อ ทำให้ลูกค้าบางรายซื้อห้องชุด 2 ห้อง เช่น 2 ห้องนอน หรือ 2 ห้องนอนบวก 1 ห้องนอนมาเชื่อมต่อกัน เพื่อให้ได้พื้นที่ตามความต้องการสำหรับครอบครัว

Supalai Elite Sukhumvit 39 ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ากลุ่มครอบครัว เน้นห้องขนาดใหญ่

โครงการศุภาลัย เอลิท สุขุมวิท 39 (Supalai Elite Sukhumvit 39) ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเติมเต็มช่องว่างในตลาดอสังหาฯในทำเลสุขุมวิท 39 ซึ่งลูกค้ามีความต้องการห้องชุดขนาดใหญ่ในทำเลสุขุมวิทตอนกลาง โดยเฉพาะห้องชุดขนาด 2-3 ห้องนอนสำหรับครอบครัว อาทิ กลุ่มคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่เป็นครอบครัว

โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการแรกที่ไม่มีห้องแบบ 1 ห้องนอนแม้แต่ยูนิตเดียว จากจำนวนห้องชุดทั้งหมด 192 ยูนิตแบ่งสัดส่วนเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 26% และห้อง 3 ห้องนอนขึ้นไปถึง 74% ประกอบด้วย 2-3 ห้องนอน ขนาด 56.5-127.5 ตารางเมตร และ 2-3 ห้งนอนแบบDuplex ขนาด 82.5-150.5 ตารางเมตร โปร่งโล่งด้วยเพดานสูง 2.8 เมตร รองรับการตกแต่งหลากหลายสไตล์ ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ในตลาดช่วง 12 ปีที่ผ่านมาที่ส่วนใหญ่ 70-80% เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีลูก 1-2 คน หรือครอบครัวขนาดกลาง-เล็กที่มองหาห้องนอนที่เพียงพอต่อการอยู่อาศัย

ทำเลศักยภาพ-การเข้าถึงโครงการสะดวก

โครงการตั้งอยู่ในทำเลสุขุมวิท 39 ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลกลางเมืองของกรุงเทพฯ สามารถเดินทางเข้า-ออกzjkoถนนเพชรบุรีได้โดยตรง ช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรแบบ One Way Loop ในซอยสุขุมวิท และสามารถเชื่อมต่อทางด่วนได้ง่ายกว่า ขณะที่โครงการมี Shuttle Service บริการส่งถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS และใกล้ทั้งรถไฟฟ้าท้ง BTS และ MRT

ส่วนราคาขายห้องชุดสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้ามาก เริ่มต้นอยู่ที่ 6.3 ล้านบาทถึง 27 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 120,000 บาท ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยที่เทียบเท่ากับโครงการที่เปิดตัวไปเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว เช่น Supalai Oriental Sukhumvit 39

คุณภาพการก่อสร้างและความปลอดภัยที่เหนือกว่า

ส่วนการออกแบบโครงการสามารถรองรับและป้องกันแผ่นดินไหว โดยมีโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่รับแรงด้านข้างได้ดีกว่ากฎหมายกำหนด และใช้ลิฟต์ที่ติดตั้งระบบป้องกันแผ่นดินไหว ซึ่งจะหยุดและจอดที่ชั้นที่ใกล้ที่สุดเมื่อเกิดเหตุ นอกจากนี้โครงการยังให้ความสำคัญกับมาตรฐานการก่อสร้าง โดยตัวอาคารได้รับการออกแบบให้รองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวตามกฎหมายใหม่(กฎกระทรวงฯ ปี 2564) และเป็นไปตามมาตรฐานด้านวิศวกรรม (มยผ.1301/1302) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมรับประกันโครงสร้างนาน 10 ปี และส่วนควบห้องชุดพักอาศัย 3 ปี

และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบและจัดเต็ม เช่น Co-working space, ห้องออกกำลังกาย และบนชั้น Rooftop ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการผ่อนคลายและกิจกรรมของทุกเจเนอเรชัน อาทิ Elite Azure Pool สระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge พร้อมระบบ Jacuzzi,The Sky Parlour พื้นที่รับรองลอยฟ้าสำหรับนั่งเล่น ทำงานหรือปาร์ตี้, Elite Fit Studio ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน, Elite Playroom & Kid’s Pool พื้นที่สำหรับเด็ก และ The Cliffs at 39 โซนปีนผาจำลอง และอีกหนึ่งความพิเศษของโครงการคือ สัดส่วนที่จอดรถมากถึง 108% ของจำนวนยูนิต รองรับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันทั้งของผู้อยู่อาศัยและผู้ลงทุนระยะยาว

ส่วนภายในห้องชุดมีระบบ Digital Door Lock ชุดครัว Built-in พร้อม Hob & Hood และ Built-in Microwave เครื่องปรับอากาศแบบ Cassette Type ที่มาพร้อมระบบกรองฝุ่นละเอียด PM1.0 รวมถึงห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติแบบ Full Function ฝักบัว Hand Shower และ Rain Shower พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย (Tempered Glass)

โพสที่เกี่ยวข้อง