พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ตั้งเป้ายอดขายปี’69 รวมกว่า 11,000 ล้านบาท พร้อมขยายพอร์ต Recurring Income ไม่ต่ำกว่า 30%

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดแผนธุรกิจปี 2569 ตั้งเป้ายอดขายที่ 11,000 ล้านบาท ฟื้นตัวกลับสู่ฐานเดิม พร้อมเปิดตัวแบบบ้านใหม่ในทุกเซกเมนต์ ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างเข้มข้น ยกระดับบริการสโมสร 25 แห่งให้เป็น Health & Lifestyle Club เพิ่มรายได้จากบริษัทร่วมทุน พร้อมขยายธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ดัน Recurring Income แตะ 30% ใน 3 ปี

ศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญความท้าทายสูงสุดในรอบสองทศวรรษ โดยทั้งอุปทานและอุปสงค์ลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง หรือชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว โดยปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการเมืองเป็น 2 ตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชะลอการเข้ามาซื้อเพื่อลงทุน โดยการเปลี่ยนผ่านผู้นำทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นโยบายเศรษฐกิจขาดความชัดเจนและต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ประเมินว่าภาพรวมตลาดจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังการเลือกตั้งปีหน้า หากได้รัฐบาลใหม่ที่สามารถเรียกความเชื่อมั่น ประกอบกับมีทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง จะเป็นกลไกสำคัญต่อการฟื้นตัวและเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เดินหน้าธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ควบคู่กับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2569 ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 9,000 ล้านบาท และจากโครงการคอนโดมิเนียมของ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออีก 2,000 ล้านบาท ถือเป็นเป้าหมายการฟื้นตัวกลับสู่ฐานเดิมของบริษัท แม้ว่าตลาดจะยังอยู่ในภาวะหดตัว บริษัทเชื่อมั่นว่าจะขับเคลื่อนยอดขายได้ตามเป้าหมาย ด้วยประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven) ที่ช่วยให้การพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ตลาดได้แม่นยำขึ้น

โดยกลยุทธ์สำคัญในปี 2569 บริษัทมุ่งเน้นการยกระดับผลิตภัณฑ์และคุณภาพงานก่อสร้าง โดยเตรียมเปิดตัวแบบบ้านรุ่นใหม่ในทุกเซกเมนต์ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ที่ผ่านการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมสถาปนิกทั้งภายในและภายนอกองค์กร  ปรับรูปแบบบ้านและการปรับฟังก์ชั่นภายในให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ควบคู่กับการควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างให้เข้มข้น โดยพัฒนากระบวนการตรวจสอบให้มีมาตรฐานสูงขึ้น พร้อมปรับปรุงโครงการที่มีอยู่ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบัน

นอกจากนี้ บริษัทได้วางแผนปรับปรุงสโมสรรวม 25 แห่งภายในโครงการต่าง ๆ สู่การเป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ (Health & Lifestyle Club)” พื้นที่ส่วนกลางรูปแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความสะดวกสบาย อย่างครบวงจร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกโครงการ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

บริษัทยังมีการวิเคราะห์โอกาสเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างฐานรากที่แข็งแกร่ง ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความกระชับขึ้น เน้นการสร้างรายได้จากบริษัทร่วมทุนให้เพิ่มขึ้น พร้อมหารายได้เพิ่มจากธุรกิจอื่น โดยขยายโอกาสในธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงในระยะยาว ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างวางแผนการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ประจำให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2571 โดยไม่พึ่งพิงรายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแต่เพียงอย่างเดียว

โพสที่เกี่ยวข้อง