ไอริณฯ จับมือ La Vie Hotels & Resorts ภายใต้แบรนด์ NOOE Paradisia Bangsaray  

ไอริณ พร็อพเพอร์ตี้ ล่าสุดจับมือกับ La Vie Hotels & Resorts ยักษ์ใหญ่ด้านการบริหารโรงแรมระดับสากล ทำ MOU นำแบรนด์ NOOE มาใช้ในการบริหารโครงการภายใต้ชื่อ NOOE Paradisia Bangsaray ชูจุดแข็งผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารโรงแรมระดับนานาชาติ เสริมแกร่งในการบริหารโครงการ “พาราดีเซีย ไอริณ ลักซูรี่ พูลวิลล่า” คอนโดหรูติดทะเลบางเสร่ มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท

ไอริณรยา พัฒนวิรนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ไอริณ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพของทำเลย่านบางเสร่ที่ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องตามแผนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทั้งโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในย่านบางเสร่-พัทยาที่มีอยู่มากมาย ทำให้มีนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติสนใจเข้ามาพัฒนา บริษัทจึงตัดสินใจขยายธุรกิจด้วยการเปิดตัวโครงการพาราดีเซีย ไอริณ ลักซูรี่ พูลวิลล่า มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,000 ล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ La Vie Hotels & Resorts และมีพันธมิตรแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับนานาชาติอย่าง ACCOR, Marriott INTERNATIONAL  โดยได้นำแบรนด์ NOOE ซึ่งเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวโครงการ NOOE มัลดีฟส์ คูนาวาชิ มาใช้ในการบริหารจัดการโครงการภายใต้แบรนด์ NOOE Paradisia Bangsaray

เจอร์รี่ ซู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาวี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า La Vie เป็นแบรนด์บริหารจัดการโรงแรมที่มีเจ้าของเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งได้ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ La Vie Hotels & Resorts โดยแบรนด์ NOOE ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ด้านอสังหาริมทรัพย์และผลตอบแทนการลงทุนภายใต้การบริหารจัดการเพื่อเป็นไลฟ์สไตล์ที่สมดุล ด้วยประสบการณ์การบริหารงานและฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่แล้ว La Vie Hotels & Resorts มั่นใจว่าการร่วมมือกันกับทาง ไอริณ พร็อพเพอร์ตี้ ในการจะบริหารโครงการภายใต้แบรนด์ NOOE Paradisia Bangsaray จะบริหารงานออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ โดยกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งกลุ่มคู่รัก กลุ่มครอบครัว และกลุ่มเพื่อน

สำหรับจุดเด่นของโครงการพาราดีเซีย ไอริณ ลักซูรี่ พูลวิลล่า ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Harmony of sea & stone” ดึงมนต์เสน่ห์ของชายทะเลบางเสร่มาใช้ในการออกแบบ ได้แรงบันดาลใจจาก YACHT สื่อถึงความหรูหรา การพักผ่อนและความเป็นส่วนตัว โครงการประกอบด้วย 2 อาคาร สูง 7 ชั้น จำนวน 100 ยูนิต บนพื้นที่ 2-0-82 ไร่ ห่างจากทะเลเพียง 30 เมตร ตัวอาคารถูกจัดวางเป็นรูปตัว L เพื่อให้ทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ทั้งหมด ห้องพักเป็นแบบสตูดิโอ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 46.20-97.70 ตารางเมตร พร้อม Private Jacuzzi Pool ทุกยูนิต และม่านน้ำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบทั้งห้องแบบ Fully Furnished ความพิเศษของโครงการยังรวมถึงการออกแบบแต่ละชั้นให้มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน 6 สไตล์ เริ่มจากชั้น 2 “SUNRISE MARINA” แรงบันดาลใจจาก Sand Stone, ชั้น 3 “INDIGO PARADISE” จาก Ocean Blue, ชั้น 4 “MARINE GREEN” จาก Tropical Green, ชั้น 5 “WARM OCEAN BEACH” จาก Soak up sume sun, ชั้น 6 “SANDSURGE” จาก Sand and Shell และชั้นที่ 7 “AMONG THE CLOUND” จาก Sunset Vanilla

เดวิด เรย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการเจริญเติบโตและการพัฒนา ประจำภูมิภาคเอเชีย บริษัท ลาวี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า NOOE Paradisia Bangsaray โดดเด่นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ทุกห้องและทุกชั้นมีสระว่ายน้ำระบบ Jacuzzi ส่วนตัว มีส่วนกลางกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย Rooftop Bar และพร้อมสร้างประสบการณ์ครบวงจรให้กับผู้เข้าพัก ตั้งแต่อาหารซีฟู้ดคุณภาพเยี่ยมที่รังสรรค์จากวัตถุดิบสดใหม่จากท้องทะเล โดยมั่นใจว่า NOOE Paradisia Bangsaray จะกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ด้วยการผสมผสานระหว่างทำเลที่ตั้งอันยอดเยี่ยม บรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ และการบริการระดับพรีเมียม

นอกจากนี้ โครงการยังโดดเด่นด้วยกิจกรรมทางน้ำหลากหลาย อาทิ Kayaking, Banana Boat, Squid Fishing, Jet Ski, Speed Boat, Snorkeling, Private Dinner และ Island Private Tour พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ Hi-End ทั้ง Sky Bar ที่สามารถชมวิวแบบ Panoramic View และ Multi-Purpose Room แบบ Glass House สำหรับนักลงทุน โครงการนี้นำเสนอผลตอบแทนการลงทุนที่การันตี 6% ต่อปี เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยมีราคาเริ่มต้น 7.99-25 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 220,000 บาทต่อตารางเมตร ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อมแซม การบริหารจัดการ หรือการหาผู้เช่า เนื่องจากโครงการมีรูปแบบการบริหารงานแบบธุรกิจโรงแรม 100% ภายใต้การดูแลของมืออาชีพระดับสากล

โพสที่เกี่ยวข้อง