ซอยสุขุมวิท 55 หรือ”ซอยทองหล่อ” เป็นทำเลที่หลายคนรับรู้อยู่แล้วว่าเป็นทำเลทอง เพราะที่ดินในย่านนี้มีราคาแพงลิบลิ่วมากกว่า 1.5 ล้านบาทต่อตารางวาไปแล้วเกือบทุกตารางวาในซอย ดังนั้นที่ดินขนาดแค่ 100 ตารางวาราคาซื้อขายก็ต้องต้องมากกว่า 100 ล้านบาท และยิ่งหากเป็นแปลงที่ดินที่อยู่ใกล้กับถนนสุขุมวิทและรถไฟฟ้าบีทีเอส “สถานีทองหล่อ” ราคาอาจจะพุ่งไปสูงมากกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวา แม้ว่าตำแหน่งของแปลงที่ดินจะตั้งอยู่ในซอยทองหล่อก็ตาม

จึงไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อที่ราคาขายคอนโดมิเนียมของโครงการที่เปิดตัวอยู่ในซอยทองหล่อถึงแพงเอาเรื่อง ปัจจุบันหลายโครงการเปิดขายกันที่ราคามากกว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นมากกว่า 7 ล้านบาทสำหรับขนาดห้องชุดไม่เกิน 30 ตารางเมตร แม้ว่าในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาจะมีคอนโดฯเปิดขายใหม่ไม่มากนักในพื้นที่ย่านนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเลทองของถนนเส้นนี้จะเสื่อมความนิยมหรือไม่น่าสนใจแล้ว

จากข้อมูลวิจัยของ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ ระบุว่า ตลอดระยะเวลามากกว่า 15  – 20 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการทั้งบริษัทมหาชนและบริษัทนอกตลาดได้เปิดขายโครงการคอนโดฯในซอยทองหล่อกันอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ในอดีตนั้นอาจจะไม่ใช่โครงการคอนโดฯมีราคาขายแพงๆ หรือมีราคาขายมากกว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตรเหมือนในปัจจุบัน เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่ได้เข้าสู่ช่วงเวลาที่ตลาดคอนโดฯได้รับความสนใจทั้งจากผู้ซื้อคนไทยและต่างชาติจนสามารถพัฒนาโครงการคอนโดฯราคาแพงออกมาขายได้เหมือนปัจจุบัน

โดยเฉพาะในช่วงปี 2559 – 2562 เป็นช่วงเวลาที่มีคอนโดฯเปิดขายใหม่มากที่สุดในซอยทองหล่อ รวมถึงซอยย่อยที่แยกจากซอยทองหล่อ โดยปี 2561 มีคอนโดฯเปิดขายใหม่มากกว่า 2,000 ยูนิต ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยเก็บข้อมูลมาถึงปัจจุบัน

แม้ว่าจำนวนคอนโดมิเนียมในซอยทองหล่อจะมีจำนวนมาก แต่หลายโครงการพัฒนาเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดกลางเท่านั้น บางโครงการมีจำนวนยูนิตน้อยกว่า 10 ยูนิต และหลายโครงการเป็นอาคารโลว์ไรส์ที่มีความสูง 7 – 8 ชั้นเท่านั้น ดังนั้นจำนวนยูนิตรวมในพื้นที่ซอยทองหล่อจึงไม่ได้มากมายนัก

เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายเลือกที่ดินในซอยย่อยที่แยกออกจากซอยทองหล่อ เพราะว่าราคาที่ดินที่ยังไม่สูงมาก สามารถพัฒนาโครงการคอนโดฯในระดับราคาไม่เกิน 200,000 บาทต่อตารางเมตรได้ ซึ่งตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา โครงการคอนโดฯที่เปิดขายในพื้นที่ซอยทองหล่อจะมีราคาขายที่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร แม้ว่าก่อนหน้านี้โครงการส่วนใหญ่จะเปิดราคาขายมากกว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตร และบางโครงการมีราคาขายมากกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตร ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะด้วยภาวะเศรษฐกิจ และยูนิตเหลือขายของบางโครงการที่มีราคาขายสูง ยังคงเหลือขายอยู่ถึงปัจจุบัน แม้ว่าโครงการจะสร้างเสร็จแล้วก็ตาม

“ซอยทองหล่อ”มีครบทุกสิ่งของการใช้ชีวิต all day& all night

“ซอยทองหล่อ” ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีทุกอย่างครบในทำเลเดียวกัน อาจจะขาดเรื่องของพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่ แต่ทำเลนี้ก็มีครบทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งไม่เพียงแต่ในพื้นที่ตามซอยทองหล่อเท่านั้นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่พื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในซอยย่อยต่างๆ ที่แยกออกจากซอยทองหล่อก็มีสิ่งต่างๆ เหล่านี้เช่นกัน

โดยซอยแยกเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเดินทางภายในซอยทองหล่อกับพื้นที่อื่นๆ มีความสะดวกมากขึ้นเท่านั้น แต่ซอยย่อยต่างๆ เหล่านี้ยังคงช่วยให้ซอยทองหล่อมีเสน่ห์และมีความหลากหลาย เพราะว่าพื้นที่ริมซอยทองหล่ออาจจะดูวุ่นวาย แต่พอแยกไปในซอยย่อยต่างๆกลับมีความสงบ มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยบางซอยยังมีบ้านเดี่ยวหรือที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ เมื่อ 40 – 50 ปีก่อน แต่ก็เริ่มลดน้อยลงไปตามราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น

ทองหล่อในปัจจุบันยังคงเป็นทำเลที่มีความโดดเด่นในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่ใช่ทำเลที่มีอาคารสำนักงานใหม่ๆ หรือโครงการพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่  แต่พื้นที่นี้ก็มีทุกอย่างตามที่พื้นที่หรือทำเลดีๆต้องการ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเทาวิ่งผ่านพื้นที่นี้อีก แน่นอนว่าอาจจะสร้างความวุ่นวายหรือข้อจำกัดบางเรื่อง เช่น การจอดรถริมถนนอาจจะทำไม่ได้แล้ว หรือการเข้า-ออกของบางพื้นที่ บางอาคารอาจจะไม่สะดวกเหมือนเดิม แต่การมีเส้นทางรถไฟฟ้าก็ช่วยยกระดับการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่มากขึ้นไปอีกในอนาคต

เซ็นทรัลพัฒนาเตรียมเปิด Mixed-Use Lifestyle แบรนด์ใหม่ “มาร์เช่ ทองหล่อ เดือนมีนาคมนี้

ในช่วงเดือนมนาคมนี้ กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจะเปิดตัวโครงการ Mixed-Useแห่งใหม่ในซอยทองหล่อ ห่างจากบีทีเอสทองหล่อประมาณ 500 เมตร ใช่ชื่อโครงการว่า “มาร์เช่ ทองหล่อ”  มูลค่าโครการประมาณ 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วยพื้นที่ Community Mall สูง 5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 13,600 ตารางเมตร  มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์,ร้านสไตล์ Grab&Go,สินค้า Lifestyle & Fashion,Beauty Clinic & Wellness และHangout Destination หลังเลิกงานรวมกว่า 50 ร้าน

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของออฟฟิศ ไลฟ์สไตล์ให้เช่าสูง 12 ชั้นพื้นที่ใช้สอย 13,700 ตารางเมตร ภายในคอนเซ็ปต์ “Flexible-Hours” เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงเพื่อรองรับการทำงานและไลฟ์สไตล์ของคนทำงานในบริษัทยุคใหม่

นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Head of Community Mall Business บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ย่านทองหล่อมีศักยภาพในการเติบโตสูงถือเป็น The Most Prime Location ที่รวมโรงแรมระดับ 5 ดาวกว่า 10 แห่งรวมกว่า 2,700 ห้อง และคอนโดมิเนียมระดับราคา 290,000 บาทต่อตารางเมตรที่รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวและคนที่มีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่กำลังเติบโตด้วยอาคารสำนักงานที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่

คอนโดฯไฮไรส์ระดับหรูเปิดตัวต่อเนื่อง

ส่วนคอนโดฯโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในย่านทองหล่อ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการของดีเวลอปเปอร์รายใหญ่และรายกลาง เช่น กลุ่มออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวเมกะโปรเจ็กต์แฟลกชิพ “ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์” (ORIGIN THONGLOR WORLD) มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 10 บนเนื้อที่ประมาณ  13 ไร่ ที่แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส ประกอบด้วย เฟสแรก “พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ” เนื้อที่ประมาณ 6ไร่ มูลค่าลงทุน 12,000 ล้านบาท เป็นคอนโดฯไฮไรส์ 3 อาคาร คือ อาคาร Aสูง 33 ชั้น ใช้ชื่อว่า  แฮมป์ตัน ทองหล่อ แบรนด์เด็ด เรสซิเดนซ์  ที่ได้นำเอาแฮมป์ตัน โปรแกรม อินเวสเมนท์ พร็อพเพอร์ตี้ มาใช้กับนักลงทุนที่สนใจปล่อยเช่า  อาคาร B สูง 53 ชั้น และอาคาร C สูง 59 ชั้นจำนวนรวม 1,180 ยูนิต

ขณะนี้งานก่อสร้างทั้ง 3 อาคารเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมจะโอนห้องชุดให้กับลูกค้า ราคาขายเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท เฉลี่ยกว่า  2 แสนบาทต่อตารางเมตร  ส่วนเฟส 2 จะพัฒนาเป็นพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ ออฟฟิศ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และ Co-Working Space

กลุ่มแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลอปเมนท์ วางแผนจะเปิดตัวโครงการแบรนด์ใหม่ “ไคลน์ ทองหล่อ” เป็นอาคารสูง 52 ชั้น จำนวน 466 ยูนิต ตั้งอยู่ติดกับโครงการมาร์เช่ ทองหล่อ ของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งโครงการได้ผ่านการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2563 แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดของราคาขายออกมา

นอกจากนี้ยังมีโครงการ SCOPE Thonglor” ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ร่วมทุนของกลุ่มเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการในนามบริษัทสโคป ทาวเวอร์ จำกัด ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้ามกับซอยทองหล่อ ติดรถไฟฟ้าบีทีเอส  สถานีทองหล่อ โดยทุกยูนิตออกแบบเป็นห้องเพนท์เฮ้าส์ ทั้งโครงการมีเพียง 18 ยูนิตเท่านั้น  หรือ1 ชั้นมีเพียง 1 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 150 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง

ขณะที่กลุ่มพฤกษา เรียลเอสเตท เดิมมีแผนจะเปิดตัวคอนโดฯใหม่ในย่านทองหล่อบรนด์ เดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อ2 สูง  26 ชั้น จำนวน 110 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 10 ล้านบาทสำหรับห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน หรือเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 250,000 บาท  ล่าสุดได้ประกาศขายที่ดินแปลงดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 2  ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีทองหล่อประมาณ 500 เมตร เนื้อที่กว่า 1ไร่ ราคาขายตารางวาละ 1.08 ล้านบาท

คอนโดฯพร้อมอยู่ราคาสูงลิบลิ่ว

สำหรับคอนโดฯพร้อมอยู่ในซอยทองหล่อที่ยังมีห้องชุดเหลือขายมีอยู่หลายโครงการและเป็นโครงการระดับลักชัวรี อาทิ โครงการเดอะ แบงค็อค ทองหล่อ ของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สูง 31 ชั้นจำนวน 148 ยูนิต ขนาดห้องชุดเริ่มต้น 53-94 ตารางเมตร  ช่วงนี้จัดโปรโมชันพิเศษห้องชุดขนาด 2 ห้องนอนราคา 27 ล้านบาท

ขณะที่กลุ่มแสนสิริ มีคอนโดฯพร้อมอยู่เปิดขายอยู่ 2 โครงการ คือ คุณ บาย ยู ตึกสูง 27 ชั้นราคาเริ่มต้น 25.99 ล้านบาทสำหรับห้องชุดขนาด 2 ห้องนอน และโครงการเดอะ โมนูเม้นท์ ทองหล่อ สูง  45 ชั้นจำนวน 127 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 26.9 ล้านบาท โครงการเดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ ของกลุ่ม MQDC ตึกสูง  30ชั้น ขนาด 2 ห้องนอนราคา 28 ล้านบาท เป็นต้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*