สิรีน พร๊อพเพอร์ตี้ฯเผย 3 ปี ผุด 19 โครงการ รวมมูลค่า 16,600 ล้านบาท หวังเตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 69 คาดเริ่มยื่นงบการเงินในปี 68 ประกาศปี 66 เปิดตัว 5 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ทั้งเปลี่ยนแผนสนชิงเค้กตลาดกทม.ในช่วง 3 ปี เทียบธุรกิจอสังหาฯต่างจากรีเทลในเรื่องขอ EIA ยากสุด ล่าสุดเพิ่มแบรนด์ “สิรีน”สำหรับพัฒนาบ้านจัดสรร หวังสร้างการรับรู้จากผู้บริโภค นำร่อง “สิรีน มิรา อยุธยา” โครงการแรกที่พัฒนาใหญ่สุด รวมมูลค่า 1,060 ล้านบาท พร้อมเปิดรอบ VVIP ในวันที่ 1-2 ก.ค.66 คาดปิดขายทั้งโครงการภายใน 3 ปี
นายนิมิต โมนฤมิตร
นายนิมิต โมนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิรีน พร๊อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนและนายวุธิพรรษ์ กังสนันท์ กรรมการผู้จัดการ สิรีน พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหาร เทสโก้ โลตัส ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีประสบการณ์ในด้านการบริหารจัดการ และบริหารพื้นที่เช่า เทสโก้ โลตัสทุกสาขาในประเทศไทย โดยเฉพาะทำเลจ.ภูเก็ต เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา พบว่าบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคาขายอยู่ที่ประมาณกว่า 2 ล้านบาท ขณะที่ราคาเช่าอะพาร์ตเมนต์ ย่านป่าตอง อยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท/เดือน และคอนโดฯ ราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งมองว่าหากผันตัวเองมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ก็ยังมีช่องว่างทางการตลาด ดังนั้นในปี 2553 จึงได้ลาออกจากที่ทำงานเดิม และร่วมกับนายวุธิพรรษ์ ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวขึ้นมา และซื้อที่ดินบริเวณย่านกระทู้ จ.ภูเก็ต พัฒนาคอนโดฯขึ้นมาครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ พลัส คอนโด ภูเก็ต 1 ระดับราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป จำนวนประมาณ 150-160 จำนวน มูลค่าโครงการประมาณ 184 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขายภายในระยะเวลา 1 เดือน ส่งผลให้กลุ่มของตนรุกพัฒนาโครงการอสังหาฯมาอย่างต่อเนื่องใน  6 จังหวัด ได้แก่  ภูเก็ต,หาดใหญ่(จ.สงขลา),สุราษฎร์ธานี,ศรีราชา(จ.ชลบุรี),พระนครศรีอยุธยาและนครราชสีมา ภายใต้แบรนด์ “พลัส”และ “สิรีน”จนถึงไตรมาส 2/2566 รวม 14 โครงการ จำนวน 5,248 ยูนิต รวมมูลค่า 10,502 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดฯ 11 โครงการ มูลค่า 10,213 ล้านบาท,ทาวน์โฮม 2 โครงการ มูลค่า 216 ล้านบาท และแนวราบ 1 โครงการ มูลค่า 1,060 ล้านบาท

ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดการขายทั้งสิ้น 3 โครงการ คือ “พลัส ศรีราชา” จำนวน 459 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,440 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% ,โครงการ “พลัส โคราช” จำนวน 839 ยูนิต มูลค่า 1,723 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 87% และ “พลัส คอนเน็กซ์ หาดใหญ่” จำนวน 519 ยูนิต มูลค่า 1,228 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 96%

นายนิมิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2566-2568 บริษัทฯมีแผนที่จะพัฒนาโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบ รวมทั้งสิ้น 19 โครงการ รวมมูลค่า 16,600 ล้านบาท เพื่อเตรียมตัวนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยจะเริ่มยื่นงบการเงินในปี 2568 ซึ่ง ณ วันนั้นจะมีทุนจดทะเบียนรวม 500 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 300 ล้านบาท โดยปี 2566 จะพัฒนาทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท เป็นแนวราบ 3 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท ได้แก่ สิริ มิรา อยุธยา,สิรีน รายา ภูเก็ต ,สิรีน มิรา หาดใหญ่ และแนวสูง 2 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท

ส่วนปี 2567 จะพัฒนาทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท และแนวสูง 4 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 จะพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก 8 โครงการ รวมมูลค่า 6,600 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 5 โครงการ มูลค่า 4,600 ล้านบาท และแนวสูง 3 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท

 

โดยทุกโครงการที่บริษัทพัฒนาจะเน้นจังหวัดที่มีสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) สูงเป็นหลัก รวมไปถึงมีระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐที่ครบครัน มีมหาวิทยาลัย,นิคมอุตสาหกรรม,ห้างสรรพสินค้า และล่าสุดที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการสนับสนุนเรื่องรถไฟความเร็วสูง (High Speed Rail: HSR) บริษัทจึงขยายไปจังหวัดต่างๆที่มีการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงผ่าน ซึ่งจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจสูงขึ้นถึงตัวเลข 2 หลัก และทำให้มีดีมานด์ในพื้นที่ในแต่ละจังหวัดสูง ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯที่ผ่านมายังไม่ได้ให้ความสนใจ เนื่องจากมองว่ายังมีการแข่งขันที่สูง แต่ภายในระยะเวลา 3 ปีนี้ บริษัทฯเริ่มให้ความสนใจที่จะเข้ามาชิมลางพัฒนาโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะต้องดูสถานการณ์ตลาดในช่วงนั้นด้วยว่า ความต้องการเป็นไปในทิศทางใด

“มองว่าธุรกิจรีเทลและธุรกิจอสังหาฯมีความเหมือนกันคือความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า และธุรกิจอสังหาฯจะมีความต่างในเรื่องการจัดรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)ที่ขอยากมากที่สุด”นายนิมิต กล่าว

นายวุธิพรรษ์ กังสนันท์

ด้านนายวุธิพรรษ์ กังสนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิรีน พร๊อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์สินค้าของบริษัทให้มากขึ้น โดยได้มีการแตกแบรนด์ใหม่ คือ “สิรีน”ซึ่งจะเป็นแบรนด์สำหรับพัฒนาโครงการหมู่บ้านจัดสรรเป็นหลัก โดยเริ่มจากโครงการใหม่ล่าสุดในปีนี้ คือ “สิรีน มิรา อยุธยา”(Serene Mira Ayutthaya)ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่โครงการแรกของบริษัท ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 40 ไร่ แบ่งการพัฒนาเป็น 4 เฟส ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ระดับราคา 4.89 ล้านบาทขึ้นไป และบ้านแฝด ระดับราคา 3,89 ล้านบาท รวม 188 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,060 ล้านบาท โดยได้เปิดพรีเซลในส่วนของเฟสแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 40% และจะเปิดรอบ VVIP ในวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2566 นี้ คาดว่าจะปิดการขายทั้งโครงการภายในระยะเวลา 3 ปี

โดยสาเหตุที่บริษัทฯสนใจมาลงทุนใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการผลิตเกษตรและอุตสาหกรรม การค้า และบริการการท่องเที่ยว การคมนาคมและโลจิสติกส์ เป็นเมืองโบราณ มีแหล่งโบราณสถานที่มีเอกลักษณ์ ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก เป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองที่มีความหลากหลาย ทั้งทางด้านสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยปี 2565 จำนวนประชากรในจ.พระนครศรีอยุธยา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 3.09% ต่อปี รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี

ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งในด้านศักยภาพทำเลของพระนครศรีอยุธยา เชื่อมต่อกับหลายจังหวัดใกล้เคียง เดินทางได้สะดวก ด้วยโครงข่ายคมนาคมหลายสายหลัก ใช้ระยะเวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเศษ ก็สามารถเข้าสู่กรุงเทพฯได้อย่างง่ายดาย ประกอบกับมีนิคมอุตสาหกรรม ถึง 5 แห่ง ได้แก่ นิคมฯสหรัตนนคร,โรจนะ,บ้านหว้า(ไฮเทค),บางปะอิน และแฟคตอรี่แลนด์ รวม 2,678 โรงงาน ทุนจดทะเบียนกว่า 659,611 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของรายได้จังหวัด

โดยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินในจ.พระนครศรีอยุธยา มีอัตราการเติบโตขึ้น โดยราคาที่ดินขยับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากถนน 3 สายหลักในทำเลที่ตั้งใกล้โครงการ “สีรีน มิรา อยุธยา” ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพระนครศรีอยุธยา ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้มีผู้ประกอบการอสังหาฯทั้งนักลงทุนในพื้นที่และผู้ประกอบการายใหญ่จากกรุงเทพฯเข้าไปทำตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯจึงเล็งเห็นถึงศักยภาพและความต้องการของตลาดใน จ.พระนครศรีอยุธยา นี้

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*