“เสนา” โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรกทำกำไรสุทธิ 556 ล้าน รายได้รวมอยู่ที่ 7,366 ล้าน เพิ่มขึ้นกว่า 2,000 ล้านเมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมเดินแผนลุยไตรมาส 4 เปิดตัว 10 โครงการใหม่ ปั๊มยอดขายช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ พร้อมศึกษาธุรกิจ “คาร์บอนเครดิต”

นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกว่า กลุ่มบริษัทเสนามีรายได้รวมจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ และรายได้อื่นๆของโครงการภายใต้กิจการร่วมค้าอยู่ที่ 7,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,014 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 556 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.58% ของรายได้รวม

“กำไรสุทธิงวด 9เดือนแรกปีนี้ หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 830 ล้านบาท ถือว่าปรับลดลงจำนวน 274 ล้านบาท แต่ ช่วง 9 เดือนแรกปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้อื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินธุรกิจหลัก 442 ล้านบาท หากนำส่วนนี้มาหักออกจากกำไรสุทธิจะทำให้เห็นว่าในปี 2565 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเหลือเพียง 388 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนของปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 168 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 43%”

สำหรับรายได้ 7,366 ล้านบาทนั้นแบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ 6,053  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,266 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากการบริหารโครงการและธุรกิจเช่าของกลุ่มเสนาฯอยู่ที่ 949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ธุรกิจโซลาร์อยู่ที่ 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 329% และกลุ่มรายได้อื่นไม่รวมร่วมค้า 120 ล้านบาท โดยมียอดขาย (Pre-Sale ) 9 เดือนอยู่ที่ 7,894 ล้านบาท ลดลง 11% จากปัจจัยกระทบของภาวะเศรษฐกิจและทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังเป็นสาเหตุของการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ในทิศทางที่สูงขึ้น

ทั้งนี้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2566  คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,586 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ไม่ได้อยู่ในกิจการร่วมค้า 940 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ภายใต้กิจการร่วมค้า 4,646 ล้านบาท ในจำนวนนี้พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ในปีนี้ประมาณ 2,714 ล้านบาท โดยยอดโอนส่วนใหญ่มาจากโครงการที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เดอะ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา, เดอะ นิช โมโน รามคำแหง, ปีติ สุขุมวิท 101 บางจาก, เสนา คิทท์ ฉลองกรุง – ลาดกระบัง เฟส 1, เสนา คิทท์ ฉลองกรุง – ลาดกระบัง เฟส 2, เสนา คิทท์ บีทีเอส – สะพานใหม่, เฟล็กซี่ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ และโครงการแนวราบซึ่งจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4 นี้ ได้แก่  เสนา เวล่า รัตนาธิเบศร์ – บางบัวทอง, เสนาเวล่า สขุมวิท – บาง และเสนา วีว่า เทพารักษ์ – บางบ่อ

ส่วนแผนดำเนินงานช่วงไตรมาส 4 บริษัทมีเป้าหมายเปิดตัวเพิ่มอีก 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่าขาย 16,506 ล้านบาท  นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ฮันคิว ฮันชิน คอร์ปอเรชั่น ในการพัฒนาแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และคอนโด Low-Carbon ล่าสุดได้สนับสนุนแนวคิดสภาวะน่าสบายกับพานาโซนิค และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงความร่วมมือกับ Zeroboard แพลตฟอร์มตรวจวัดปริมาณคาร์บอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์

ขณะที่บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Sen X ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริการด้านการอยู่อาศัยครบวงจร  มีความสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น โดยบริษัทมีแผนเพิ่มศักยภาพการทำกำไรของโครงการในปี 2567 เพิ่มขึ้น ด้วยกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน และการเพิ่มมูลค่าการขายภายใต้แคมเปญบ้านประหยัดพลังงาน ที่สามารถลดค่าไฟฟ้าในระยะยาวให้กับลูกค้า  สะท้อนได้จากภาพรวมของการทำกำไรขั้นต้นในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 823 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนธุรกิจโซลาร์ ที่ผ่านมามีงานรับจ้างติดตั้งแผงโซลาร์ให้กับห้างสรรพสินค้าและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวน 10 แห่ง ทำให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น โดยรายได้งวด 9 เดือนเพิ่มขึ้น 99 ล้านบาท หรือ 329% นอกจากนี้ยังเตรียมลงทุนในธุรกิจปลูกป่า เพื่อสร้างคาร์บอนเครดิต (SENA Reforestation) ที่จะเริ่มในช่วงต้นปีหน้า โดยอยู่ระหว่างศึกษา ซึ่งถือเป็นธุรกิจในเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ

ด้านกลุ่มธุรกิจการเงิน หรือ “เงินสดใจดี” ซึ่งเป็นธุรกิจการเงินที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย ยังคงเดินหน้าให้บริการคำแนะนำเรื่องการขอวงเงินกู้ ด้วยบริการสินเชื่อและให้บริการเช่าซื้อ สำหรับลูกค้าที่ซื้ออสังหาฯ กับกลุ่มบริษัทเสนา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*