กลุ่มบริษัท เรนวูด กรุ๊ป ก่อตั้งโดย ดร. ชาญชัย รวยรุ่งเรือง  หรือ เหยียน ปิง เป็นชาวตำบลเหอหนาน มณฑลซานตุง ซึ่งรายงานจาก HURUN REPORT 2005 เผยว่า นายเหยียน ปิน มีฐานะร่ำรวยเป็นอันดับที่ 30 ของมหาเศรษฐีจีน ด้วยจำนวนทรัพย์สินที่ประเมินได้ 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 17,000 ล้านบาท เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนหลากหลายธุรกิจในจีน และขยายการลงไปยังอีกหลายประเทศเช่น สิงค์โปร์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา จีน และไทย ปัจจุบันมีบริษัทในเครือทั่วโลกรวมกว่า 200 บริษัท
โดยในประเทศไทยได้เปิดบริษัท หัวปิน กรุ๊ป(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นบริษัท เรนวูด กรุ๊ป) เมื่อปี 2527 ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว การค้าขายระหว่างประเทศ รวมไปถึงในปี 2532 ได้สร้างอาคารสำนักงานแห่งแรกภายใต้ชื่อ “สราญใจแมนชั่น” ย่านสุขุมวิท ซอย 6 และในปี 2538 ได้เป็นตัวแทนเครื่องดื่ม กระทิงแดง สร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่ม “เรด บูล” หรือ “กระทิงแดง” มูลค่า 4,500 ล้านหยวน ที่เสินเจิ้นสร้างอาคารหัวปิน จนกระทั่งปี 2547 นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ นายเหยียน ปิน เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าโอทอป ในประเทศจีน
และในช่วงปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นายเหยียน ปิง ได่มีแนวคิดที่จะดำเนินธุรกิจใหม่ๆในประเทศไทยเพิ่มอีก โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นกุนซือ ให้คำแนะนำ จึงเกิดแนวคิดที่จะพัฒนามิกซ์ยูส โปรดักส์ และได้ซื้อที่ดินบริเวณลำลูกกา คลอง 11 ซึ่งเป็นการรวมที่ดินจำนวนเพียง 2 แปลง พื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ก่อตั้งบริษัท เรนวูด กรุ๊ป ประเทศไทย (Reignwood Thailand)ขึ้นมา เพื่อพัฒนาโครงการ“เรนวูด พาร์ค” (Reignwood Park) เมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูสแห่งใหม่ย่านปทุมธานี
นางสาววรพนิต รวยรุ่งเรือง

กว้านซื้อที่ดินย่านลำลูกกา ผุดอาณาจักร “เรนวูด ปาร์ค”นำร่องเฟสแรก 5 หมื่นล้าน

นางสาววรพนิต รวยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เรนวูด กรุ๊ป ประเทศไทย (Reignwood Thailand)  เปิดเผยว่า จากประสบการณ์การพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และสนามกอล์ฟ ทั้งในฝั่งตะวันตกและตะวันออก ทั่วโลก ของนายชาญชัย รวยรุ่งเรือง ได้มาสร้างสรรค์โครงการใหม่ที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการอสังหาริมทรัพย์ในไทย ด้วยการพัฒนาโครงการ “เรนวูด ปาร์ค” อาณาจักรเมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูส โครงการแรกของบริษัทฯในประเทศไทย รองรับไลฟ์สไตล์อัลตร้าลักชัวรี่แบบครบวงจร ในจังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่
โดยโครงการ“เรนวูด ปาร์ค” เดิมวางแผนจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส เพราะมองว่าทำเลที่ตั้งไม่ได้อย่างย่านใจกลางเมือง  แต่เมื่อรัฐบาลมีการอนุมัติก่อสร้างทางด่วนสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วง “จตุโชติ-ลำลูกกา” ที่จะแล้วเสร็จภายในอีกประมาณ 3 ปี (โดยทางขึ้นลงที่ 3 บริเวณ กม.14+000 บริเวณลำลูกกา จะอยู่ใกล้ที่ตั้งโครงการ เรนวูด ปาร์ค) และรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการมากขึ้น ดังนั้นจึงได้มีการปรับแผนการพัฒนาเหลือเพียง 2 เฟส

โดยเฟสแรก แบ่งออกเป็น 6 ส่วนหลัก เดิมตั้งงบการลงทุนไว้ 30,000 ล้านบาท แต่ได้ปรับเพิ่มเป็น 50,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนส่วนตัวของทางกลุ่มทั้งหมด ไม่ได้กู้จากสถาบันการเงินแต่อย่างใด ประกอบด้วย

1.สนามกอล์ฟ ระดับโลก Robinswood Golf Club ขนาด 18 หลุม ความยาวระดับ 7,591 หลา มูลค่าการลงทุน 3,000 ล้านบาท เป็นสนามปิด เปิดรับเฉพาะเมมเบอร์ และแขกรับเชิญของเมมเบอร์เท่านั้น โดยราคาเมมเบอร์อายุ 1 ปี ราคา 500,000 บาท ,อายุ 5 ปี ราคา 1.5 ล้านบาท ,อายุ 10 ปี ราคา 2 ล้านบาท และอายุ 50 ปี ราคา 5 ล้านบาท

“เราตั้งใจมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้ผู้อาศัยและผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก โดยสนามนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการแข่งขัน  ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟระดับโลก โดยทีม European Golf Design มีส่วนร่วมในการออกแบบ layout ของแต่ละหลุมให้มีความท้าทายนักกอล์ฟระดับมืออาชีพ พร้อมก้าวสู่การเป็นสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดของเอเชีย ด้วยการออกแบบผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัย หนึ่งเดียวในไทยที่มีระบบ SubAir ดูแลกรีนให้ได้มาตรฐานตลอดเวลา มีคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ มีสถานที่ฝึกซ้อมที่พร้อมและทันสมัย ด้วยเทคโนโลยี Trackman Range และสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรตามมาตรฐานสากล”นางสาววรพนิต กล่าว

2.บ้านรอบสนามกอล์ฟ ภายใต้แบรนด์ “เรนวูด เซรีโน” (Reignwood Sereno) เป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยมลีฟวิ่งที่เน้นความเป็นส่วนตัว ในโซนสุดไพรเวทลายล้อมรอบสนามกอล์ฟพาร์ 3 มี 9 หลุม ขนาด 200 ตารางวา มีจำนวน 101 หลัง ราคา 40 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายไปเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50% โดยเป็นลูกค้าคนไทยสัดส่วน 80% และลุกค้าต่างชาติ เช่น เกาหลี จีน ประมาณ 20% นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะสร้างบ้านจำนวน 20 หลัง เพื่อให้ชาวต่างชาติเช่าซื้อระยะยาว 30 ปี บวก 30 ปี

3.โรงเรียนนานาชาติ KIS International School สร้างแคมปัสแห่งใหม่ในโครงการ ในรูปแบบ Boarding School แห่งแรกในไทยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่มเรนวูด กรุ๊ป และนายพริษฐ์นางสาวพิชญา รักตพงศ์ไพศาล 2 ทายาทฝาแฝด ของนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ในสัดส่วน 50:50 จากมูลค่าการลงทุน 6,000 ล้านบาท เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาที่มีระบบการศึกษาเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงเกรด 12 แบบ IB programmes ทั้งแบบประจำ และไป-กลับ รองรับความต้องการของครอบครัวที่พักอาศัยในโครงการและพื้นที่โดยรอบ ที่ต้องการให้บุตรหลานได้เรียนในสถานศึกษาที่มีคุณภาพ และอยู่ไม่ไกลที่พักอาศัย สามารถรองรับนักเรียนได้ 2,000-2,500คน ถือเป็นโรงแรมนานาชาติ KIS แห่งที่ 2 ค่าเทอมเริ่มต้นที่ 630,000-950,000 บาท/เทอม หลังจากที่เปิดสาขาแรกที่พื้นที่เขตในหมู่บ้านเกศินีวิลล์ ใกล้แยกเหม่งจ๋าย ซึ่งเป็นอาณาจักรของตระกูลรักตพงศ์ไพศาล ค่าเทอมเริ่มต้นที่ 500,000-800,000 บาท/เทอม พร้อมเปิดสอนเทอมแรกในเดือนสิงหาคม 2567 นี้

4.บ้าน 5 วัฒนธรรม ซึ่งอยู่ในโซนที่พักส่วนตัวของครอบครัว ที่จำลองมาจากวัฒนธรรม 5 ประเทศ คือ ไทย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โรมัน และจีน ที่มีความต้องการให้เป็นวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตกของโลก รวมไปถึงเป็นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว “รวยรุ่งเรือง” และเมมเบอร์สนามกอล์ฟ รวมไปถึงสามารถจัดอีเวนต์ได้ อีกทั้งยังมีแผนที่จะเปิดโอกาสให้นักศึกษารุ่นใหม่ ได้เข้ามาศึกษาวัฒนธรรมและความยิ่งใหญ่ของจีน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันด้วย ซึ่งในอนาคตจะมีการนำเชนระดับมืออาชีพเข้ามาบริหารงาน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาคัดเลือก

5.บ้านหรู ภายใต้แบรนด์ “เรดวูด เอสเตท” (Reignwood Estate) บนที่ดินขนาดตั้งแต่ 1 ไร่ครึ่ง ถึง 3 ไร่ กับบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 1,500 ตารางเมตร ระดับราคา 300 ล้านบาท จำนวนเพียง 41 ยูนิต รูปแบบจะเป็นการจัดสรรที่ดินขาย ที่ลูกค้าสามารถเลือกแปลงที่ดินได้ และมีแบบบ้านให้เลือก โดยจะเป็นการก่อสร้างเพื่อขายปีละประมาณ 8-10 ยูนิตเท่านั้น เพื่อรองรับดีมานด์ที่มีกำลังซื้อ ปัจจุบันมีลูกค้าสนใจจองแล้ว 6 ราย ซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมด

6.โรงไฟฟ้าย่อยในโครงการ เนื่องจากโครงการมีขนาดใหญ่ จึงต้องการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในโครงการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการวางแผนงาน และได้เจรจากับการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ในเบื้องต้นแล้ว

ปี’67 จ่อผุดเฟส2 อีก 5 โซน

สำหรับในเฟสที่ 2 นั้นจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2567 ประกอบด้วย

1.บ้านหรู “เรนวูด โซเนีย” (REIGNWOOD SONIA)  ระดับราคา 15-20 ล้านบาท จำนวน 400 ยูนิต

2.คอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ เรนวูด แซงเทีย” (REIGNWOOD SANCTIA) จำนวน 400 ยูนิต จะเปิดให้มีการจองสิทธิ์ในช่วงต้นปี 2567 ซึ่งจะทยอยก่อสร้างและแล้วเสร็จภายในปี 2570 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะพัฒนาเพื่อการขายหรือปล่อยเช่า ให้ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ KIS International School ที่เป็นชาวต่างชาติ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

3.คอมมูนิตี้มอลล์ เฟส2

4.โรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 200 ห้อง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาเลือกเชนระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เข้ามาบริหาร

5.ศูนย์กีฬา(Sport Complex) สำหรับรองรับลูกบ้าน และสำหรับการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติ

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนจะเก็บที่ดินบางส่วน เพื่อพัฒนาเป็นบ้านให้เช่าระยะยาวสำหรับรองรับลูกค้าชาวญี่ปุ่น ที่จะมาเป็นเมมเบอร์สนามกอล์ฟในอนาคต อีกทั้งยังเตรียมพื้นที่ด้านหลังโครงการเพื่อทำเป็นสวนผัก-ผลไม้ สำหรับจำหน่ายให้ลูกบ้านในโครงการ และบุคคลภายนอกอีกด้วย

“โครงการ เรนวูด พาร์ค จะตอกย้ำความแข็งแกร่งของไทยในฐานะแลนด์มาร์ค ที่สำคัญของการผสานสองวัฒนธรรมสองซีกโลกเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยการเนรมิตสถาปัตยกรรมทั้งโลกตะวันตก และตะวันออกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมาไว้ในโครงการ โดยเราคาดหวังว่าจะทำให้โครงการนี้ เป็นพื้นที่การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกวันของคนทุกเจเนอเรชั่น ทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ในทุกด้าน ภายใต้แนวคิด A Living Community: Where Every Generation Finds Home and Harmony ตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติ ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับกับทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเป้าหมายคือการมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ของโลก คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปี 2569-2570” นางสาววรพนิต กล่าว

นางสาวรพนิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตอยากให้ภาครัฐปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาของไทย ให้เรียนรู้ภาษาต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการทำงานและทัดเทียมนานาชาติ อีกทั้งอยากให้ช่วยแก้ไขกฎหมายให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านและที่ดินได้ แต่ให้อยู่ในกรอบที่สมเหตุสมผล เพื่อสร้างกระแสเงินสะพัดในประเทศมากขึ้น หากสามารถดำเนินการได้ จะมีชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน

อนึ่ง กลุ่มบริษัทเรนวูด กรุ๊ป ก่อตั้งโดย ดร. ชาญชัย รวยรุ่งเรือง ลงทุนในหลากหลายภาคธุรกิจ เป็นเจ้าของแบรนด์น้ำดื่ม VOSS ซึ่งเป็น luxury refreshment brand ระดับโลก เข้าซื้อและเป็นผู้บูรณะฟื้นฟูให้กับสถาปัตยกรรมระดับโลกตึก Ten Trinity Square ที่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งและให้บริการโรงแรม Four Seasons Ten Trinity Square ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังลงทุนในกลุ่ม Lifestyle Property อย่าง สนามกอล์ฟและโรงแรม ได้แก่ สนามกอล์ฟ Reignwood Pine Valley ในกรุงปักกิ่งหลังกำแพงเมืองจีน และการคืนชีวิตชีวาให้สนามกอล์ฟ Wentworth Club ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี และเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ยูโรเปียนทัวร์ผู้จัดแข่งขันกอล์ฟระดับโลก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*