เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในเครือบมจ.สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอจำนวนกว่า 50 แห่งภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อยกระดับความสามารถในการสร้างกำไรต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 รวม 12,000 ล้านบาท พร้อมยกระดับแบรนด์ ทราย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้เข้าพัก ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจบนโมเดล Asset-Light และขยายธุรกิจผ่านการซื้อและควบรวมกิจการ

นายไมเคิล มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอจำนวนไม่น้อยกว่า 50 แห่งภายในระยะเวลา 5 ปี ภายใต้โมเดลธุรกิจแบบ Asset-Light อาทิ สัญญาบริหารโรงแรม (Hotel Management Agreement: HMA)  หรือภายใต้การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ และการร่วมลงทุน เพื่อเพิ่มขนาดพอร์ตโฟลิโอและรายได้รวมของบริษัทเป็น 2 เท่าตัว จากปัจจุบันที่มีโรงแรมอยู่ในพอร์ตจำนวน 38 แห่ง รวม 4,552 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว 5 ประเทศ

ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว บริษัทมีแผนจะยกระดับแบรนด์ทราย (SAii) ให้เป็นที่จดจำในระดับสากล โดยผ่านการดำเนินงานในหลากหลายด้าน เช่น กระบวนการทำงานที่เชื่อมกันในแต่ละพื้นที่อย่างไร้รอยต่อ การลงทุนในนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั่วโลก และกลยุทธ์ด้านดิจิทัล พร้อมด้วยการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ที่มีประสิทธิภาพ

“การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา รวมถึงข้อได้เปรียบจากสถานที่ตั้งโรงแรมของบริษัทซึ่งอยู่ในจุดหมายปลายทางสำคัญ เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท สามารถบรรลุเป้าหมายในการสร้างรายได้รวม 10,000 ล้านบาท และรักษาตำแหน่งผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของไทย”

โดยมีการปรับปรุงโรงแรมที่เป็นสินทรัพย์หลักของบริษัท เพื่อช่วยเพิ่มอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายววัน (Average Daily Rate: ADR) ในปี 2566 สำหรับโรงแรมในไทยและฟิจิให้สูงขึ้น 20% นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวโซ/ มัลดีฟส์ รีสอร์ทระดับ 5 ดาวในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ ในการตอบรับความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มนักท่องเที่ยวนานาชาติ

สำหรับเป้าหมายหารดำเนินงานในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 12,000 ล้านบาทผ่าน4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย การมุ่งสร้างการเติบโต โดยมีแผนยกระดับศักยภาพในการสร้างอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) เพิ่มขึ้น 3 – 5% ผ่านปัจจัยการเติบโต 3 ด้าน ได้แก่ อัตราเฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ซึ่งตั้งเป้าว่าจะเติบโต 25% จากยอดการจองห้องพักที่มัลดีฟส์ในไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ดี และค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 20% จากการปรับปรุงห้องพักของโรงแรมในฟิจิและไทย และการเปิดตัวของโซ/ มัลดีฟส์

นอกจากนี้ยังตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อื่นนอกเหนือจากการเข้าพัก (Non-room Revenue) ประมาณ 15% โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับการนำเสนอประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของแบรนด์  พร้อมแผนเปิดตัวบีชคลับในทุกรีสอร์ทในเครือแบรนด์ทราย และตอบรับความต้องการในตลาดไมซ์ผ่านบริการด้านอีเวนต์ ทั้งงานแต่งงานและการประชุมธุรกิจ

ปลดล็อคศักยภาพของพอร์ตโฟลิโอ ด้วยการยกระดับพอร์ตโฟลิโอและหมุนเวียนสินทรัพย์ สานต่อความสำเร็จจากปี 2566 ในการยกระดับมูลค่าของสินทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง พร้อมตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนภายใน (Internal Return Rate: IRR) ไว้ที่ 12 – 15% โดยจะมีการปรับปรุงโรงแรมในประเทศไทยที่ทราย ลากูน่า ภูเก็ต และทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ

สำหรับตลาดสหราชอาณาจักร จะดำเนินกลยุทธ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่และรีแบรนด์โรงแรมในพื้นที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว อาทิ แมนเชสเตอร์,เอดินเบอระ,เลสเตอร์ และกลาสโกว์

การสร้างหารเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด (Scale Without Limits) เพื่อตอบรับการเติบโตของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยมีแผนจะยกระดับแบรนด์เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ทราย ในฐานะจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวแบบลักชัวรีอย่างยั่งยืน ผ่านการยกระดับประสบการณ์ของแขกผู้เข้าพักให้ตอบโจทย์ความต้องการและเทรนด์ในระดับโลก นำเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่น่าตื่นตา และกิจกรรมด้านสุขภาพที่โดดเด่น รวมทั้งจะผนึกพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการของแบรนด์ อาทิ แพ็คเกจพิเศษ และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น

ปักหมุดรุกตลาดใหม่ (Beyond Borders) โดยได้จัดสรรงบในการลงทุนมูลค่า 15,000 ล้านบาทเพื่อซื้อและควบรวมกิจการตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยยังคงพุ่งเป้าไปที่จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวในภาคพื้นทวีปยุโรปในแถบเมดิเตอร์เรเนียน  สหราชอาณาจักร แถบมหาสมุทรอินเดีย เอเชียแปซิฟิค และฟิจิ เพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่พอร์ตโฟลิโอของบริษัท

ส่วนการดำเนินธุรกิจของเอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคม บริษัทตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 5%ต่อปี ตามแผนของประเทศไทยในการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 40% โดยคาดว่าการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในกลุ่มโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ รวมถึง โซ/ มัลดีฟส์ จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 20%

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*