“ณุศา ซีเอสอาร์”ในเครือ “ณุศาศิริ”เร่งปรับโครงสร้างดึงกลุ่มทุนสิงค์โปร์เข้าถือหุ้น 20% หวังช่วยขยายฐานการตลาด  ล่าสุดเปิดธุรกิจ ต้นไม้มหัศจรรย์ (Miracle rree) ทุกคนสามารถร่วมเป็นเจ้าของได้ ด้วยวิธีการลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิก ในราคาเพียง 10,000 บาทต่อ 1 ต้น จำกัดสิทธิ์ให้เพียงแค่ 100,000 คน ได้สิทธิประโยชน์กลับมูลค่ากว่า 75,000 บาท ทั้งยังได้รับ NMYZ TOKEN อีกจำนวน 10,000 เหรียญ สามารถแลกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพสีเขียวจาก Miracle shop ได้รายละ 20,000 บาท (มูลค่า 1 token เท่ากับ 2 บาท)​ ทั้งร่วมใช้บริการNMYZ TOKEN โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และศูนย์การแพทย์ ในเครือในราคาพิเศษ ตั้งเป้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายใน 3 ปี มั่นใจปีนี้กวาดรายได้ 5,000 ล้านบาท ด้าน “มาย โอโซน เขาใหญ่”คาดจะเปิดตัวคอนโดฯ 3 โซนใหม่ ปลายปี65
นางศิริญา เทพเจริญ
นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา NUSA ได้จัดตั้งบริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตร รวมถึงผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชง-กัญชา ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท โดย NUSA ถือหุ้นในสัดส่วน 50% และพันธมิตรจากประเทศจีน คือ นายอุดม หวัง ถือหุ้น 50% ทั้งนี้ ณุศา ซีเอสอาร์ฯ จะเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ (Wellness) ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการแล้ว แต่ล่าสุดได้มีการปรับโครงสร้างใหม่โดยทาง NUSA จะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 40% และกลุ่มนายอุดม หวัง ถือหุ้น 40% เพื่อให้กลุ่มธุรกิจเกมออนไลน์ จากสิงคโปร์ ถือหุ้น 20% เพื่อมาช่วยณุศา ซีเอสอาร์ในการทำมิราเคิล แลนด์ บน Metaverse คาดว่าจะสามารถสรุปผลการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ได้ในไตรมาส 2/2565 นี้

ทั้งนี้ ในวันที่ 20 เมษายน 2565 นี้ ซึ่งเป็นวันกัญชาโลก บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด จะเปิดให้ลงทะเบียนในโครงการ ต้นไม้มหัศจรรย์ (Miracle rree) ซึ่งทุกคนสามารถร่วมเป็นเจ้าของต้นไม้มหัศจรรย์ได้ ด้วยวิธีการลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิก โดยสมาชิกสามารถจอง ต้นไม้มหัศจรรย์ ในราคาเพียง 10,000 บาท ต่อ 1 ต้น จำกัดสิทธิ์ให้เพียงแค่ 100,000 คนเท่านั้น ทั้งนี้ การสมัครในราคา 10,000 บาทนั้น สมาชิกจะได้สิทธิประโยชน์กลับไปมูลค่ากว่า 75,000 บาท นอกจากจะได้เป็นเจ้าของต้นไม้มหัศจรรย์แล้ว ยังจะได้รับ NMYZ TOKEN อีกจำนวน 10,000 เหรียญ และสามารถแลกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพสีเขียวจาก Miracle shop ได้ท่านละ 20,000 บาท (มูลค่า 1 token เท่ากับ 2 บาท)​

นางศิริญา กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าของ NMYZ TOKEN จะสามารถใช้บริการโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และศูนย์การแพทย์ ที่อยู่ภายใต้ NUSA แบบพิเศษ ทั้งราคาพิเศษและเงื่อนไขพิเศษนอกจากนี้ ยังจะออก Nusa token เป็น Utility Token ที่เอาไว้ใช้เพื่อแลกกับบริการในเครือ NUSA อีกทั้ง ยังสะสมไว้แลกเป็นหุ้น IPO ได้ในอนาคต ซึ่งบริษัทมีแผนจะแยก (spin-off) บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด เพื่อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

“เราวางเป้าหมายจะนำณุศา ซีเอสอาร์ฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดทุนภายใน 3 ปี ซึ่งเชื่อว่าจะทำได้แน่นอน เพราะณุศา ซีเอสอาร์ฯเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตตามเทรนด์ มีรายได้เยอะมาก จากทุกๆ กลุ่มธุรกิจ และที่สำคัญจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาชมเมืองมหัศจรรย์ ในโครงการ เลเจนด์ สยาม พัทยา เข้ามาอีกมากหลังจากนี้ ขณะที่ความสามารถทำกำไร (มาร์จิ้น) ของณุศา ซีเอสอาร์ฯ ก็อยู่ในที่เกณฑ์ที่ดี อยู่ที่ระดับ 20%” นางศิริญา กล่าว

สำหรับเป้าหมายรายได้ปีแรกของณุศา ซีเอสอาร์ฯ ในปี 2565 บริษัทวางไว้ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 4 ส่วน

1.รายได้จากการปลูกกัญชง-กัญชา ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการปลูกแล้ว

2.รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมถึงกัญชง-กัญชา ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีวางจำหน่ายแล้ว และชุดตรวจ ATK นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2/2565 จะเริ่มมีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมชองกัญชง-กัญชา

3.รายได้จากแพลตฟอร์ม “หมอฮัลโหล” (MORHELLO) เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่จะเข้ามาเป็นช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท

4.รายได้จากการเข้าชมเมืองมหัศจรรย์ ในโครงการ เลเจนด์ สยาม พัทยา (Legend Siam Pattaya) ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน2565 นี้

สำหรับโครงการ “มาย โอโซน เขาใหญ่”นั้น คาดว่าในปลายปี 2565 นี้จะเปิดตัวคอนโดฯ อีก 3 โซน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*